การเริ่มต้นโซโล่ของเจ๊ซอนมีไม่ได้อะไรซับซ้อนมากนักเพราะหลังจากเรียนจบอย่างเป็นทางการ พ่อบังเกิดเกล้าผู้ปลุกปั้นความสำเร็จให้กับวงก็แต่งเพลงให้ทันทีอย่าง 24 Hours ที่เปลี่ยนบุคจากสาวน้อยให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเซ็กซี่และคาริสม่าจนกลายเป็นกระแสฮิตตั้งแต่ซิงเกิ้ลเดี่ยวเพลงแรกพร้อมต่อด้วย Full Moon ที่มาตอกย้ำความสำเร็จในสายงานเดี่ยวของเธอ ลบคำสบประมาทเป็นตัวบ๊วยของวงไปโดยปริยายและได้กลับมา new form ในนามวอนเดอร์เกิรส์ใหม่อีกครั้งที่เปลี่ยนจากสาว dance pop เป็น band pop จนถึงปี 2017 ที่ตัดสินใจประกาศยุติกิจกรรมของวงทั้งหมดรวมไปถึงสัญญาฉบับสุดท้ายของเจ๊ซอนมีด้วยเช่นกัน
• มองภายนอกก็ดูเป็นงานสดใสตามสไตล์ซัมเมอร์ y2k แต่ระดับเจ๊แกแล้วคำว่า ‘สดใส’ ตัดทิ้งออกจากหัวสมองไปได้เลย! You can’t sit with us ซิงเกิ้ลโปรโมทเปิดแทร็คลิสต์ที่ได้แรงบันดาลใจจากหนัง high school ที่เปรี้ยวเยี่ยวราดน่องอย่าง Mean Girls ถึงจะมีความห่วงใยรักเอยเตยหอมบ้างแต่ก็เกลียดขี้หน้าจนไม่อยากให้มาร่วมโต๊ะด้วย ประชดประชันสุดฤทธิ์สุดเดช ซาวนด์แตกต่างจากซิงเกิ้ลปกติของเจ๊แกขึ้นมาหน่อยตรงที่เพลงเพิ่มจังหวะ upbeat เหยาะซาวนด์กลิ่นอาย eurodance ชวนโยกย้ายมากกว่าเก่า, SUNNY เพลงที่เกอืบจะได้เป็นซิงเกิ้ลหลักของอีพีนี้ เป็นเพลงป็อบที่ย่อยง่ายสุดในอัลบั้มแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าจดจำสักเท่าไหร่ ดีแล้วที่ตัดสินใจเปลี่ยนกระทันหัน
Narcissism ซาวนด์ EDM แดนซ์หลุดโลกแต่กลายเป็นดาบสองคมของความสนุกเมื่อเจ๊แกเริ่มสูญเสียความเป็นตัวเองลงเรื่อยๆ จากการเป็นคนมีชื่อเสียงในวงการเพลง, Borderline ซาวนด์ alternative rock ดาร์กสุดเท่าที่เคยมีมาของเจ๊ซอนมี จาก unrelease single สู่ official track ที่เล่าถึงกับต้องเผชิญกับอยู่โรค borderline personality disorder(อาการผิกปกติจากบุคลิกของตัวเองในแบบก้ำกึ่ง)ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาและกินยาเพื่อช่วยเยียวยาอารมณ์ขึ้นๆลงๆของตัวเองในแบบถูกวิธี