14 ส.ค. 2021 เวลา 00:36 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
#รีวิวอะไรกันดี - NO. 17
SUNMI - 1/6 (EP)
Genres: retro pop, dance pop
Release: 2021/08/06
- ความหน่วงใจของสาววัยสามสิบ -
• ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดเพจมาสองปีเศษคงได้แต่ว่าหวังว่าสักวันจะได้ทำบทความพูดถึงคนๆนี้อย่างเป็นจริงเป็นจังในรูปแบบของตัวเอง รอแล้วรอเล่าเจ๊แกก็เอาแต่ออกดิจิตอลซิงเกิ้ลไม่แคร์ชื่อเสียง+ความเก๋าเกมส์ที่สะสมมาเป็นเวลานาน แต่คราวนี้เจ๊แกไม่พูดพร่ำทำเพลง(เดียว)อีกต่อไป.. ในที่สุดก็ได้คลอดอัลบั้มออกมาสักที!!!!! ถึงมันจะยังเป็นแค่อีพีอัลบั้มก็ตามแต่ //เปิดซาวนด์เอฟเฟคมโหรี
• จากเด็กท้ายวงขี้อายสู่การเป็นตัวแม่ยืนเดี่ยวในวงการเคป็อบ ซอนมี(SUNMI) อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จมากสุด Wonder Girls เป็นเวลากว่า 14 ปีที่เจ๊แกโลดแล่นในอุตสาหกรรมเคป็อบ เริ่มต้นจากการเปลี่ยนความฝันวัยเด็กของตัวเองเพื่อทำงานนำเงินมาเป็นค่ารักษาให้บิดาที่ไม่สามารถกลับมาได้อีกต่อไปก่อนเดบิวท์เพียงแค่ 3 เดือนที่พร้อมเข้าสู่เส้นทางการเป็นไอดอลกรุ๊ปและเป็นช้างเท้าหน้าให้กับครอบครัว ถึงจะเป็นวงที่มีเพลงฮิตติดท็อปลมบนตลอดกาลทั้ง Tell Me, So Hot, Nobody ไปทางไหนก็ต้องได้ยินแต่ใช่ว่าเจ๊แกจะเป็นสมาชิกที่มีชื่อเสียงอะไรมากมายให้คนจดจำ จนตัดสินใจออกจากวงเพื่อจริงจังกับการศึกษาต่อในระดับชั้นมหาวิทยาลัยหลังจากจบการเดินสายโปรโมทที่สหรัฐอเมริกา(สมัยนั้นนับว่าเป็นปรากฏการณ์ใหญ่เท่าที่เคป็อบเคยทำได้แถมยังเป็นเพลงแรกของสายเคป็อบที่ติดชาร์ตใหญ่อย่าง Hot 100 อีก เรียกได้ว่าโกยได้โกยไว้ก่อน)
การเริ่มต้นโซโล่ของเจ๊ซอนมีไม่ได้อะไรซับซ้อนมากนักเพราะหลังจากเรียนจบอย่างเป็นทางการ พ่อบังเกิดเกล้าผู้ปลุกปั้นความสำเร็จให้กับวงก็แต่งเพลงให้ทันทีอย่าง 24 Hours ที่เปลี่ยนบุคจากสาวน้อยให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเซ็กซี่และคาริสม่าจนกลายเป็นกระแสฮิตตั้งแต่ซิงเกิ้ลเดี่ยวเพลงแรกพร้อมต่อด้วย Full Moon ที่มาตอกย้ำความสำเร็จในสายงานเดี่ยวของเธอ ลบคำสบประมาทเป็นตัวบ๊วยของวงไปโดยปริยายและได้กลับมา new form ในนามวอนเดอร์เกิรส์ใหม่อีกครั้งที่เปลี่ยนจากสาว dance pop เป็น band pop จนถึงปี 2017 ที่ตัดสินใจประกาศยุติกิจกรรมของวงทั้งหมดรวมไปถึงสัญญาฉบับสุดท้ายของเจ๊ซอนมีด้วยเช่นกัน
• new start กันใหม่อีกสักครั้งกับผลงานเดี่ยวของตัวเองอย่างเต็มตัวโดยไร้ชื่อวงและสังกัดดัง การเข้าสู่ MAKE US(ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Abyss)ก็พอให้ได้โชว์ศักยภาพและความแปลกใหม่ได้โดยไม่มีข้อจำกัดอะไรทั้งสิ้น Gashina เลยกลายเป็นซิงเกิ้ลแรกสำหรับบ้านหลังใหม่ที่ประสบความสำเร็จจากกระแสไวรัลฟีเวอร์โยกหัวทำท่ายิงปืนทั่วบ้านทั่วเมือง แต่เจ๊แกกลับซ่อนไอเดียและคอนเซ็ปสุดแปลกประหลาดที่ยากจะเข้าใจได้ รวมไปถึง Heroine ที่โดนดราม่า plagiarism ชนิดขั้นรุนแรงจนสำนักข่าว Dispatch ถึงกับต้องออกมาช่วยปกป้องและไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปโดยปริยาย(ไม่ขอพูดถึงชื่อโปรดิวเซอร์ซ้ำสองเพราะถือว่าเคยพูดไปแล้ว) ไอ้ความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีแด่พีดีคนนี้มาก ตัดสินใจหันหลังสะบัดผมใส่ ในเมื่อมันไม่จบไม่สิ้น งั้นกูทำเพลงเองแม่งเลย! พร้อมจับมือกับพี่ชายคู่ขาอย่างนาย FRANTS ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่รีฟอร์มวงใหม่
ด้วยความที่ตัวเองเรียนจบทางด้าน theater มาโดยตรง ทั้งเนื้อหาและคอนเซ็ปส่วนใหญ่เลยได้ inspired มาจากภาพยนตร์หรือเหล่าตัวละครดังจากเรื่องต่างๆซะเยอะทั้ง Siren ที่หยิบเรื่อง Piratse of the Caribbean: On Stranger Tides เป็นตัวชูโรงให้อีพีอัลบั้ม WARNING หรือจะเป็น TAIL ที่พึ่งปล่อยออกมาเมื่อต้นปีก็ได้ตัวละครอย่าง Catwoman มาเป็นงานเพลงชวนส่ายหางกระดิกถึงความรักที่ต่างฝ่ายต่างบ้าคลั่งไม่แพ้กัน ประสบความสำเร็จแบบแผ่ซ่านตบหน้าพวกปากแจ๋วบนโลกอินเตอร์เน็ตแบบสะกดจิตให้ให้ตายยังไงพวกหล่อนก็ยังเจอฉันอยู่ในสาระบบของชาร์ตเพลงไปอีกนาน แต่เพราะด้วยความอินดี้ของตัวเองมันสูงจัดเลยกลายเป็นโรคสต็อกเพลง(ที่ไม่คิดอยากจะปล่อย)เป็นว่าเล่นจนสามารถสร้างเป็น full-length โชว์ความเก๋าเกมส์ได้ประมาณ 2-3 อัลบั้มได้แต่ก็อย่างที่เห็นในปัจจุบันทั้ง Noir, LALALAY, pporappippam ล้วนแล้วแต่ digital single ทั้งนั้น
• สำหรับในอีพีอัลบั้มหมายเลข 3 ที่ใช้เวลาเกือบสามปีกว่าจะคลอดออกมาเป็นรูปแบบอัลบั้ม คราวนี้เจ๊แกยังคงมี inspired แบบเดิมเหมือนที่ผ่านมาทั้งในงานคอนเซ็ปหรือเนื้อหาเพลงที่เขียนด้วยตัวเองทั้งหมดจำนวน 6 แทร็คแต่คราวนี้จะไม่ใช่แค่การหยิบเรื่องราวของหนังจอเงินซะอย่างเดียว ⅙ เลยเป็นอัลบั้มที่เจ๊ซอนมีเริ่มเปิดเผยถึงความรู้สึกที่มาจากชีวิตของตัวเอง ลดละความเป็นสาวแหวกแนวแฟชั่นจ๋าแล้วย้อนกลับไปสู่ความเป็น Y2K เบสิคจับต้องได้กับงานเพลงที่คงความเป็นเรโทรป็อบในแบบฉบับของซอนมีหรือเรียกอีกอย่างก็คือ “SUNMI-pop”
• มองภายนอกก็ดูเป็นงานสดใสตามสไตล์ซัมเมอร์ y2k แต่ระดับเจ๊แกแล้วคำว่า ‘สดใส’ ตัดทิ้งออกจากหัวสมองไปได้เลย! You can’t sit with us ซิงเกิ้ลโปรโมทเปิดแทร็คลิสต์ที่ได้แรงบันดาลใจจากหนัง high school ที่เปรี้ยวเยี่ยวราดน่องอย่าง Mean Girls ถึงจะมีความห่วงใยรักเอยเตยหอมบ้างแต่ก็เกลียดขี้หน้าจนไม่อยากให้มาร่วมโต๊ะด้วย ประชดประชันสุดฤทธิ์สุดเดช ซาวนด์แตกต่างจากซิงเกิ้ลปกติของเจ๊แกขึ้นมาหน่อยตรงที่เพลงเพิ่มจังหวะ upbeat เหยาะซาวนด์กลิ่นอาย eurodance ชวนโยกย้ายมากกว่าเก่า, SUNNY เพลงที่เกอืบจะได้เป็นซิงเกิ้ลหลักของอีพีนี้ เป็นเพลงป็อบที่ย่อยง่ายสุดในอัลบั้มแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าจดจำสักเท่าไหร่ ดีแล้วที่ตัดสินใจเปลี่ยนกระทันหัน
จากประสบการณ์เดทในครั้งหนึ่งของเจ๊ที่ฝ่ายชายกลับทำตัวให้รู้สึกน่าผิดหวังจนตัดสินใจโทรไปบอกเลิกโดยตรง Call จึงเป็นการระบายความโกรธแค้นที่แม้แต่ข้อความตอบกลับยังไม่มีเลยสักนิดเดียว ซาวนด์ nu-disco clubhouse เลยเป็นสิ่งที่เข้ากับบริบทของเนื้อหาชนิดที่ว่าเต้นเอาเป็นเอาตายให้หายโกรธแม่งไปซะ ปิดเรื่องเดทมานานท้ายที่สุดก็โป๊ะแตกในเพลงเดียว
• เข้าสู่โหมดจริงจังกับชีวิตที่พร้อมจะเปิดเผยครั้งแรก 1/6 ฟังดูเป็นแนว citypop อ่อนโยนต่อหัวใจและไม่ใช่สไตล์ของเจ๊แกเลยสักนิดเดียว(เจ้าตัวเอ่ยปากแล้วว่าเพลงสวนทางกับการทำเพลงของตัวเองมาก)แต่กลับกลายเป็นความหนักใจของเจ๊ซอนมีในการชีวิตบนโลกปัจจุบันที่มีแต่เรื่อยวุ่นวายจนอยากจะหนีจากทุกสิ่งเลยเกิดคำถามในใจกับตัวเองที่ว่า “ถ้าทำในสิ่งที่สบายใจที่สุดให้กับตัวเอง งั้นก็สามารถบินไปดวงจันทร์ที่มีแรงโน้มถ่วง 1/6 น้อยกว่าของโลกเพื่อทิ้งปัญหาและความเกลียดชังทุกอย่างได้หรือไม่?” เพลงนี้ไม่ได้เขียนมาเพื่อมาบอกถึงความรู้สึกของตัวเองซะความหมายในรูปแบบเดียว ความหมายอีกทางเจ๊ซอนมียังพูดถึงน้องชายทั้งตัวเองรักสองคนที่อยากจะคอยดูแลและปกป้องไปตลอดทั้งชีวิตด้วยเช่นกัน เป็นพี่สาวที่แสนหวานแต่ก็เศร้ากับความรู้สึกของตัวเองที่ต้องแบกรับภาระหลายอย่างเหมือนกัน เป็นบริบทความหมายและภาคดนตรีที่เข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง
Narcissism ซาวนด์ EDM แดนซ์หลุดโลกแต่กลายเป็นดาบสองคมของความสนุกเมื่อเจ๊แกเริ่มสูญเสียความเป็นตัวเองลงเรื่อยๆ จากการเป็นคนมีชื่อเสียงในวงการเพลง, Borderline ซาวนด์ alternative rock ดาร์กสุดเท่าที่เคยมีมาของเจ๊ซอนมี จาก unrelease single สู่ official track ที่เล่าถึงกับต้องเผชิญกับอยู่โรค borderline personality disorder(อาการผิกปกติจากบุคลิกของตัวเองในแบบก้ำกึ่ง)ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาและกินยาเพื่อช่วยเยียวยาอารมณ์ขึ้นๆลงๆของตัวเองในแบบถูกวิธี
• เนื้อหาโดยรวมถึงไม่ซับซ้อนและเข้าถึงได้ง่ายแม้ว่าจะยังมีกิมมิคการเล่นคำของตัวเองอยู่บ้างเพราะการแต่งเพลงที่ดูย่อยง่ายเกินไปมันไม่ใช่สไตล์ของเจ๊แกด้วยซ้ำ กึ๋นทางการแต่งเพลงไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว ขนาดเนื้อหาเพลงง่ายๆยังมีแอบเล่นคำเปรียบเปรยหรือซ่อน easter egg เอาไว้เป็นปริศนา ถึงแม้ว่าบริบทมันจะมาจากสิ่งที่ตัวเองร่ำเรียนซะส่วนใหญ่แต่ก็ยังสื่อความหมายในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมา นั่นจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงสามารถลบคำครหาจากพวกเสียงนกเสียงควายออกไปได้
• พอเจ๊แกเริ่มเปิด space ของตัวเองเพื่อให้คนฟังได้เข้ามาทำความรู้จักและใกล้ชิดกับผู้หญิงที่มีนามว่า “อีซอนมี” มากขึ้นแต่เป็นการทำความรู้จักในมุมที่ใครหลายๆคนต่างไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับนางคนนี้ เมื่อได้รู้ซึ้งไปยันสิ่งที่ตัวเจ๊ซอนมีต้องเจอมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นแรกเริ่มที่ต้องละทิ้งความสนุกในช่วงเวลานั้นเพื่อทำงานจนไม่มีเวลามาคิดค้นหาถึงสิ่งที่ตัวเองอยากทำมากที่สุดในชีวิตคืออะไรกันแน่? พอการทำงานหนักจนเริ่มสะสมมากขึ้นเรื่อยๆเกินจะเยียวยาไม่ไหว การตัดสินใจออกจากจุดที่คิดว่ามันควรเป็นเซฟโซนกลับกลายเป็นความสบายใจในตัวเอง ณ ปัจจุบันมากขึ้นและกลับมาคิดทบทวนกับตัวเอง เข้าใจในสิ่งที่เป็นและต้องผ่านมันไปให้ได้ แค่ไม่ฝืนสังขารจนเกินขีดจำกัดก็พอ
“แล้วตอนนี้จะยังอยากไปดวงจันทร์อยู่อีกมั้ยนะ?”
Score: 7/10
Top Tracks: You can't sit with us, 1/6, Call, Borderline
thank u for reading 🙏
ถ้ามีคำหรือประโยคไหนที่ใส่มาเพื่อความอรรถรสแล้วไม่ถูกใจผู้อ่านทุกท่านขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
โฆษณา