3 ก.ย. 2021 เวลา 13:00 • ไลฟ์สไตล์
มั่นใจ​ 🎗️🎖️✨
คุณรู้หรือเปล่าว่าการหายใจ ท่านั่ง ท่ายืน การเดิน การเชิดหน้าหรือก้มหน้า คำพูดที่พูดกับตัวเอง มันคือรหัสที่ร่างกายส่งให้สมองว่าตอนนี้เรากำลังรู้สึกอย่างไร เรากำลังเผชิญกับอะไร แม้บางทีเราจะไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ แต่สมองกลับตีความจากท่าทางที่คุณทำหรือคำพูดที่คุณพูด หัวข้อนี้จะแนะนำให้คุณไขรหัสและปลดล็อกรหัสสมอง แล้วฉันจะช่วยคุณป้อนรหัสตัวใหม่ที่เอาไว้หลอกสมองของคุณ
คุณรู้ใช่ไหมตอนที่คุณผิดหวัง ท้อแท้หรือหมดกำลังใจคุณจะทำท่าทางห่อไหล่ หน้าตาบูดบึ้ง ก้มหน้าลงต่ำมันคือท่าทางโดยธรรมชาติที่เกิดมากับคุณและสมองก็รับรหัสนี้ตั้งแต่คุณยังเด็กจนโตมาทุกวันนี้ ถึงแม้บางครั้งคุณไม่ได้รู้สึกผิดหวังหรือท้อแท้ แต่คุณกลับทำท่าทางแบบที่ว่ามานี้คุณสังเกตตัวเองหรือเปล่าว่าทำไมถึงไม่มีความสุขเลย ทำไมวันนั้นเป็นวันที่น่าเบื่อ ทำไมไม่มีอะไรสดใสในวันนั้นเลย สมองก็จะเบลอ ๆ บึ้งตึงคิดอะไรไม่ออก
แต่หากคุณเจอเรื่องเศร้าจริง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ตั้งเวลาไว้เลยว่าฉันจะเสียใจเรื่องนี้เป็นเวลากี่วัน แต่ฉันแนะนำให้ไม่เกิน 3 วัน แล้วเศร้าเสียใจร้องไห้ให้สุดไปเลย ใครมาเคาะประตูบอกไปเลยว่าเศร้าอยู่ เอาให้สุด เมื่อคุณหยุดเศร้าก่อนถึงเวลา ถามตัวเองสิ ว่าไหนล่ะที่เสียใจ อยากร้องไห้ก็ร้อง ร้องสิ แน่จริงก็ร้องเดี๋ยวพอหมดเวลาที่ตั้งไว้ให้เศร้าจะไม่อนุญาตให้เศร้าแล้วนะ
หลังจากนั้นให้คุณนึกถึงบทนี้ ถ้าคุณเศร้าแม้แต่เพราะอกหักหรือโดนที่ทำงานเลิกจ้าง​ ให้คุณปาดน้ำตา เชิดหน้า อกผายไหล่ผึ่ง บอกตัวเองว่านี่แหละคือฉัน ฉันมีค่าในตัวเอง ฉันเก่ง ฉันเริ่มใหม่ได้ อะไรก็ได้ที่เป็นคำพูดด้านบวกมาแทนที่คำพูดลบ ๆ ใช้คำพูดที่ให้ความรู้สึกมันเบาลงหรือให้พูดกับตัวเองในแง่ที่มีวิธีแก้ เช่น ฉันทำผิด เปลี่ยนเป็น ฉันยังทำไม่ถูก ฉันโง่ เปลี่ยนเป็น ฉันยังไม่ฉลาดเท่าที่ต้องการ ฉันไม่เก่ง เปลี่ยนเป็นฉันยังฝึกฝนไม่ดีพอ จากนั้นให้คุณเดินหน้าแบบเริด ๆ เชิด ๆ เหมือนทุกที่คือรันเวย์แล้วแก้ไขสิ่งที่รู้สึกว่าควรแก้และพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น คุณเก๊กไปเลย ช่วงนี้ก็ปล่อยให้อีโก้ทำงานเพราะการแสดงความอ่อนแอออกไปนอกจากไม่น่าสงสารแล้วยังน่าสมน้ำหน้าอีกแต่อีโก้จะมาช่วยให้คุณรู้จักหยิ่งในตัวเองในวันที่คุณรู้สึกอ่อนแอ และอะไรที่อ่อนแอเก็บไว้ข้างในกลืนมันไปเลยให้ถึงห้องก่อนแล้วค่อยเอามันออกมา หาคนคุย เขียนระบาย ปล่อยมันออกมาไม่ต้องเก็บไว้ให้ซึมเศร้า ไม่ต้องโพสเฟซบุ๊ค ไม่ต้องโพสโซเชียลอะไรเลยเพราะถ้าคุณแสดงมันออกมาให้คนที่คุณไม่รู้จักคุณดีเห็น ก็มีแต่คนด่าว่าคุณเป็นเด็กจัดการกับอารมณ์ไม่ได้ คุณดราม่า คุณอ่อนแอ หากคุณเคยดูหนังเรื่องเกี่ยวกับนักรบ คุณก็จะเห็นว่าไม่มีนักรบคนไหนกลับมาในสภาพที่ดูดีหลังจากที่ได้ต่อสู้เป็นชั่วโมง ๆ เขาสามารถต่อสู้กับศัตรูภายนอกได้ทั้ง ๆ ที่ภายในก็รู้สึกเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ บาดแผลที่เหวอะหวะแต่ยังสามารถสู้ต่อได้ นั่นแหละคือคุณเช่นกัน ถึงแม้ตัวไม่ได้บาดเจ็บแต่ใจบาดเจ็บแต่เราต้องซ่อนมันไว้ค่อยแสดงมันออกมาในที่ที่เราเหมาะสมกับคนที่อยากรับฟังเราดีกว่า
เมื่อเวลาคุณเดินในที่สาธารณะคนเดียว ไม่ว่าจะสถานที่เคยไปหรือไม่เคยไปให้คุณจินตนาการว่ามีใครกำลังมองคุณอยู่อาจจะเป็นคนที่คุณแอบชอบ ไม่ชอบ หรือแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกันไป จินตนาการว่าถ้าเขาเห็นคุณ จงแสดงให้เขาเห็นว่า ฉันมีความสุข ฉันเริด ฉันเก่ง แม้จะเดินอยู่คนเดียวแต่ฉันก็มั่นใจ คุณเดินก้าวเท้าให้มั่นคง พอดีตัว เชิดหน้า หายใจปกติแต่ไม่ต้องเกร็ง หากคุณกำลังมองหาร้านหรืออะไรก็แล้วแต่ให้คุณยืนโพสท่าสวย ๆ แต่ไม่ต้องเกินไป ยืนนิ่ง ๆ หันแค่คอเวลามองหาแล้วเดินไปยังจุดหมายปลายทางหรือหากคุณไม่ใช่สาวมั่นหน้าหรือไม่ใช่ผู้ชายมั่นโหนกก็แค่ยืนทำท่าทางน่ารัก ๆ ของคุณไป
การเดินท่าทางของคุณถนัด​ที่ทำแล้วรู้สึกดีและมั่นใจ ความมั่นใจจะพุ่งมาหาคุณเหมือนคุณมีมนต์สะกด หากคุณกำลังนั่งทานบุฟเฟต์คนเดียวก็ให้ทำเหมือนกัน จินตนาการว่ามีคนคนนั้นมองอยู่แล้วมีความสุขกับอาหารตรงหน้า ยิ้มแบบสงบ ๆ พอดีตามสไตล์ของคุณ เผื่อคนคนนั้นบังเอิญมาเห็นคุณจริง ๆ เค้าจะได้สะดุดใจบ้าง “ทำไมคุณถึงดูดีมีความสุขจัง​”
-The​ Sailor
โฆษณา