Blockdit Logo (Mobile)
Let’s Goo Ana
•
14 ส.ค. 2021 เวลา 13:20 • สุขภาพ
Facebook สั่งแบนโฆษณาเกี่ยวกับ วัคซีน pfizer และ AstraZeneca หลังพบมากกว่า 100+ บัญชีโจมตีวัคซีน 2 ยี่ห้อนี้
ไฟเซอร์และแอสตร้าเซเนกาเอาชนะการบิดเบือนข้อมูลวัคซีนเพื่อต่อต้านแคมเปญจากโซเชียลมีเดียที่มาจากรัสเซียในสัปดาห์นี้
หลัง Facebook ทำการลบบัญชีหลายร้อยบัญชีและห้าม "มีการบิดเบือนข้อมูล" จากหน่วยงานการตลาดในสหราชอาณาจักรที่เชื่อมโยงกับการอ้างสิทธิ์ที่แปลกประหลาดบน Facebook และ Instagram
1
โดยแคมเปญดังกล่าวมีการโจมตีวัคซีน AstraZeneca ครั้งแรกในปลายปี 2020 จากนั้นจึงเริ่มโจมตีวัคซีนของ Pfizer ครั้งที่สองในเดือนพฤษภาคม
แม้ว่าแคมเปญจะไม่ได้รวบรวมผู้ติดตามจำนวนมากและล้มเหลวในการรับสมัครผู้มีอิทธิพล แต่การห้ามของหน่วยงานเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข้อมูลวัคซีนที่บิดเบือนบน Facebook
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ประณาม Facebook ฐานปฏิเสธที่จะยืนหยัดต่อต้านการบิดเบือนข้อมูลที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์ม
ในกรณีของแอสตร้าเซเนกา มีมแปลกๆ หลายสิบเรื่องแนะนำหรือแม้กระทั่งอ้างว่าวัคซีนจะทำให้คนกลายเป็นชิมแปนซี ฉากที่ใช้หลายฉากจากภาพยนตร์เรื่อง "Planet of the Apes" ในปี 1970
“เฟสของไฟเซอร์” มีศูนย์กลางอยู่ที่เอกสาร 12 หน้าที่แคมเปญอ้างว่า "ถูกแฮ็กและรั่วไหล" จากแอสตร้าเซเนกา รวมถึงแผนภูมิปลอมที่แสดงอัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้นจากวัคซีนไฟเซอร์
การบิดเบือนข้อมูลของไฟเซอร์เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมโดยมีบทความสามบทความโพสต์บน Medium, Reddit และ ethicalhacker.com ภายใน 90 นาที
บริษัทการตลาดที่ถูกห้ามในขณะนี้ ชื่อ Fazze ซึ่งจดทะเบียนในสหราชอาณาจักร แต่ดำเนินการส่วนใหญ่มาจากรัสเซีย Facebook กล่าว
กิจกรรมส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ผู้ชมในอินเดียและละตินอเมริกา แต่ยังดำเนินการในระดับที่น้อยกว่าในสหรัฐอเมริกา
ทั้งสองเฟสของแคมเปญพยายามดึงดูดผู้มีอิทธิพลบน Instagram, YouTube และ TikTok เพื่อโพสต์เนื้อหาด้วยแฮชแท็กเฉพาะ
แต่โชคดีที่แทบไม่มีใครโดนลอกลวง และหลายคนถึงกับเปิดเผยบริษัทและการอ้างสิทธิ์ที่น่าสงสัยของบริษัทด้วยการพยายามต่อต้านไฟเซอร์ในสื่อ
ผู้มีอิทธิพลชาวฝรั่งเศสและชาวเยอรมันคนหนึ่งปฏิเสธข้อเสนอที่รายงานของ Fazze จำนวน 2,000 ยูโรและเผยแพร่แคมเปญแทนซึ่งนำไปสู่การสอบสวนและการสอบสวน ต่อมาบทความและโพสต์ปลอมก็หายไป
รายงานของ Facebook ยกย่องผู้มีอิทธิพลในการก้าวไปข้างหน้าและให้เครดิตกับการสืบสวนของสื่อที่ตามมาจาก CNN, The Daily Beast และ Graphika ในการช่วยยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียเปิดเผยการดำเนินงานของเครือข่าย
Reference
โฆษณา