14 ส.ค. 2021 เวลา 13:40 • สุขภาพ
โสม
โสมเกาหลี ชื่อสามัญ Ginseng (จินเซ็ง), Panax[1], Korean ginseng, Asian ginseng
ถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนเหนือและประเทศเกาหลี จัดเป็นพืชล้มลุกมีอายุหลายปี ลำต้นฉ่ำน้ำ และมีขนาดประมาณ 60-80 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะกลมและตั้งตรง มีรากเก็บอาหารลักษณะพองโต แยกเป็นง่าม นิยมเก็บรากมาใช้เป็นยาเมื่ออายุประมาณ 4-6 ปี โดยมักขึ้นใต้ร่มเงาไม้อื่น ลำต้นจะแห้งไปในช่วงฤดูหนาว
รากอวบอ้วนกลมแตกเป็นแขนง 2 อัน ลักษณะคล้ายกับขาคน หากดูทั้งรากจะมีลักษณะคล้ายกับคน บางครั้งจึงเรียกว่า "โสมคน" โดยรากแก่ยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร โดยคำว่า "Ginseng" นั้นเป็นภาษาจีน ที่แปลว่า man-root ซึ่งหมายถึง รากไม้ที่มีลักษณะคล้ายคน มองดูคล้ายมีหัวแขนและขา (บางตำรากล่าวว่ารากโสมยิ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์มากเท่าไร ก็ยิ่งแสดงว่าโสมนั้นมีคุณค่าและมีราคาแพง) เปลือกรากเป็นสีเหลือง มีเนื้อนิ่ม เนื้อในรากเป็นสีขาว แตกรากฝอยมาก การจะเก็บรากโสมจะต้องเก็บในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก่อนการออกดอก ซึ่งจะเป็นช่วงที่โสมมีสารสำคัญอยู่มากที่สุด เมื่อเก็บมาแล้วก็ต้องทำให้แห้งโดยเร็ว ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันมิให้เอนไซม์ในรากโสมออกมาทำลาย saponin
ชนิดของโสมเกาหลี
รากโสมเกาหลี นิยมนำมาใช้ทำเป็นโสมแดงและโสมขาว เป็นพืชที่ควบคุมของรัฐบาลเกาหลี ห้ามนำพันธุ์ออกนอกประเทศ แต่ในไทยเคยพบว่าเกิดตามธรรมชาติเพียงแห่งเดียว
• โสมขาว (White Ginseng) คือ การนำรากโสมที่ล้างสะอาดแล้วมาตากแดดหรืออบให้แห้งทันที
โสมขาว (White Ginseng)
• โสมแดง (Red Ginseng) คือ การนำรากโสมที่ตัดเฉพาะส่วนที่ดี ๆ มาล้างให้สะอาด เป็นโสมที่ผ่านกรรมวิธีการอบและฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง โดยการนำมาอบด้วยไอน้ำประมาณ 120-130 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 2-4 ชั่วโมง จนเป็นสีน้ำตาลแดง แล้วจึงนำไปอบให้แห้ง จะได้เป็นสีน้ำตาลแดง (ใส) โดยจะมีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์เพิ่มขึ้นอีก 4 ชนิด จึงมีราคาแพงกว่าโสมขาว ขายได้ราคาดี
โสมแดง (Red Ginseng)
สรรพคุณของโสมเกาหลี
1. รากโสมเกาหลี มีรสหวานชุ่ม ขมเล็กน้อย เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อปอด ม้าม และกระเพาะอาหาร ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงอวัยวะภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายชุ่มชื่น ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย
2. ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ปรับการทำงานของต่อมไร้ท่อต่าง ๆ
3. ช่วยแก้อาการหน้ามืดเป็นลม
4. ช่วยแก้อาการเหงื่อออกไม่รู้ตัว กระหายน้ำ
5. ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร
6. ช่วยแก้หัวใจเต้นผิดปกติ หรือหายใจผิดปกติ
7. โสมมีสรรพคุณเป็นยาช่วยบำรุงหัวใจ โดยออกฤทธิ์คล้ายกับยา digoxin ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด ป้องกันภาวะเส้นเลือดอุดตัน
8. ใช้รักษาและป้องกันโรคผนังเส้นเลือดแดงใหญ่หนาและแข็ง โดยโสมจะไปช่วยทำให้คอเลสเตอรอลที่เกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดลดน้อยลง
9. โสมมีฤทธิ์ต้านการจับตัวกันของเกล็ดเลือด อันเป็นสาเหตุสำคัญของการอุดตันของหลอดเลือด
10. โสมมีฤทธิ์สร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งสามารถนำมาใช้รักษาผู้ที่มีเลือดน้อยหรือผู้ที่โลหิตจางและความดันต่ำได้ และยังช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงในกระดูกได้อีกด้วย
11. โสมมีฤทธิ์ต้านพิษต่อตับ โดยโสมสามารถช่วยป้องกันการเกิดพิษต่อตับอันเกิดจากคลอโรฟอร์ม คาร์บอนเตตระคลอไรด์และแอลกอฮอล์ได้
12. ใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับความผิดปกติต่าง ๆ เช่น หย่อนสมรรถภาพทางเพศ อาการท้องผูก ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ โลหิตจาง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และความเครียด
13. ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือนหรืออาการวัยทอง
14. ช่วยลดอาการผิวหนังแห้งและเหี่ยวย่น จึงช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้น
15. ช่วยเร่งฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายของผู้ป่วย ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการฉายรังสี จากการศึกษาพบว่าโสมสามารถช่วยต่อต้านโรคและอันตรายที่เกิดจากรังสีรวมถึงสารพิษต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
16. นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอื่น ๆ ที่ระบุว่าโสมมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส HIV-1, ป้องกันอันตรายจากรังสีแกมมา, กระตุ้นการสร้างอสุจิ, เร่งการเจริญเติบโตของรังไข่และการตกไข่, ช่วยลดการหลั่งกรดและน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วยยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ฯลฯ
ที่มา medthai
โฆษณา