Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
NBA Lifestyle
•
ติดตาม
31 ส.ค. 2021 เวลา 07:00 • กีฬา
NBA 103 - ทำความรู้จักกับคำศัพท์ในวงการ NBA (ตอนที่ 11) - ศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับ NBA Free Agency ตอนที่ 3
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับ
ในบทความนี้ยังอยู่กับคำศัพท์ที่เกี่ยวกับ NBA Free Agency นะครับ ซึ่งนับเป็นตอนที่ 3 แล้ว
หลังจากที่ตอนที่แล้วได้ทำการอธิบายเกี่ยวกับ "ข้อยกเว้น" ที่ทำให้แต่ละทีมสามารถทำการเซ็นสัญญาผู้เล่นทั้งๆ ที่มีเพดานค่าเหนื่อยเกินเส้นไปแล้วได้ รวมแล้วทั้งหมด 10 จาก 11 วิธีที่สามารถใช้ได้
ตอนนี้จะทำการกล่าวถึงวิธีสุดท้าย เนื่องจากเป็นวิธีที่ถือว่ายุ่งยากมากที่สุด จึงต้องขอแยกมาไว้ต่างหากครับ
11. Traded Player Exception
ก่อนหน้านี้ทาง Page เคยทำบทความเกี่ยวกับข้อจำกัดในการ Trade เอาไว้แล้ว สามารถติดตามได้จากด้านล่างนี้ครับ ซึ่งจะเอามากล่าวถึงก่อน และใส่รายละเอียดให้มากขึ้นนั่นเอง
blockdit.com
[NBA Lifestyle] NBA 101 - พื้นฐานที่ควรรู้ สำหรับผู้ที่เริ่มศึกษาหรือเริ่มดู NBA (ตอนที่ 8) - NBA Trade Deadline
NBA 101 - พื้นฐานที่ควรรู้ สำหรับผู้ที่เริ่มศึกษาหรือเริ่มดู NBA (ตอนที่ 8) - NBA Trade Deadline
ในส่วนนี้จะขอกล่าวถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ Exception เท่านั้นนะครับ
หลักการของ Exception นี้ คือ หลังจากที่ปล่อยผู้เล่นไปให้กับทีมอื่นผ่านการ Trade แล้ว ทีมนั้นจะมีระยะเวลาหนึ่งปีนับตั้งแต่วันที่ Trade ออกไปอย่างเป็นทางการ (ไม่จำเป็นต้องเป็นฤดูกาลเดียวกัน) ที่จะทำการเซ็นสัญญาผู้เล่นผ่านการ Trade เข้าสู่ทีม โดยจะมีเงื่อนไขคร่าวๆ ดังนี้
-มูลค่าที่จะได้ Exception จากวิธีนี้ จะได้เท่ากับมูลค่าสัญญา "ปีปัจจุบัน" ของสัญญาฉบับปัจจุบันของผู้เล่นคนดังกล่าวเท่านั้น รวมกับส่วนต่างได้อีกไม่เกินหนึ่งแสนเหรียญสหรัฐฯ
ตัวอย่าง เช่น หากทีม A ส่งผู้เล่นที่มีมูลค่าสัญญา 10 ล้านเหรียญให้ไปกับทีม B ผ่านการ Trade แต่ได้กลับมาแค่สิทธิ์ Draft หรืออื่นๆ ที่ไม่ใช่ผู้เล่นด้วยกัน ทีม A จะสามารถใช้สิทธิ์ Exception ในการเติมผู้เล่นได้สูงสุด 10.1 ล้านเหรียญด้วยกัน โดยมีเวลาหนึ่งปีนับตั้งแต่ผู้เล่นได้ถูก Trade ออกจากทีม
-การเติมผู้เล่นที่จะสามารถใช้เงื่อนไขนี้ได้ จะต้องทำผ่านการ Trade เท่านั้น ไม่สามารถทำผ่านการเซ็นสัญญา Free Agents ได้
-การเติมผู้เล่นให้เข้าเงื่อนไข ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียว และไม่จำเป็นที่จะต้องได้มาจากทีมคู่กรณีในการ Trade ตอนแรกเท่านั้น ขอแค่มูลค่าสัญญารวมกันต้องไม่เกินจากที่ได้รับสิทธิ์เป็นพอ
วิธีการได้มาซึ่ง Exception อันนี้ จะมีความเกี่ยวข้องกับกรณีหลักๆ ดังต่อไปนี้
11.1 การ Trade ที่ทีมคู่กรณีทำการส่งผู้เล่นตอบแทนด้วยในเวลาเดียวกัน (Simultaneous Trades)
A. หากทีมไหนที่หลังจากการ Trade สัมฤทธิ์ผลแล้ว ทีมนั้นยังคงมีเพดานค่าเหนื่อยไม่เกินเส้นภาษี (แต่เกินเส้นเพดานค่าเหนื่อย) จะถือว่าทีมนั้นเข้าข่ายเป็น Non-Taxpaying Team
-หากการ Trade เข้าข่ายเงื่อนไขนี้ ทั้งสองทีมจะสามารถตกลงทำการแลกผู้เล่นกันได้ โดยมูลค่าของสัญญารวมกันจะต้องไม่ห่างกันเกินที่ทางลีกกำหนดจาก 1 ใน 2 เงื่อนไขต่อไปนี้ (ขึ้นกับว่าเงื่อนไขไหนมีมูลค่ามากกว่า)
A-1 มูลค่าสัญญาแตกต่างกันไม่เกิน 175% ของสัญญาค่าเหนื่อยปัจจุบันของผู้เล่นที่จะทำการ Trade รวมเงินพิเศษอีกไม่เกิน 1 แสนเหรียญสหรัฐ หรือ มูลค่าสัญญาของผู้เล่นที่จะทำการ Trade รวมเงินพิเศษไม่เกิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ขึ้นกับว่าเงื่อนไขไหนมีมูลค่าน้อยกว่า)
A-2 มูลค่าสัญญาแตกต่างกันไม่เกิน 125% ของสัญญาค่าเหนื่อยปัจจุบันของผู้เล่นที่จะทำการ Trade รวมเงินพิเศษไม่เกิน 1 แสนเหรียญสหรัฐ
B. หากทีมไหนที่หลังจากการ Trade สัมฤทธิ์ผลแล้ว ทีมนั้นกลายเป็นว่ามีเพดานค่าเหนื่อยเกินเส้นภาษี จะถือว่าทีมนั้นเข้าข่ายเป็น Taxpaying Team การ Trade จะยังคงสามารถทำได้ แต่มูลค่าของสัญญาจะต้องแตกต่างกันไม่เกิน 125% เหมือนกับเงื่อนไข A-2 เท่านั้น
สาเหตุที่ข้อ A ต้องมีเงื่อนไข A-2 ขึ้นมา ทั้งที่ดูแล้วมูลค่าสัญญาน่าจะน้อยกว่า A-1 อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากว่าการ Trade นั้น ไม่จำเป็นที่ทีมคู่กรณีทุกทีมจะเป็น Non-Taxpaying Team เหมือนกันทั้งหมด จึงต้องใส่เงื่อนไขนี้เพิ่มเข้ามาเพื่อให้สามารถทำการ Trade กับ Taxpaying Team ได้นั่นเอง
C. สำหรับทีมที่ยังไม่ถึงเพดานค่าเหนื่อย (ค่าเหนื่อยรวมยังไม่เกินเส้นเพดานค่าเหนื่อย) เมื่อทำการ Trade มูลค่าสัญญาจะยังคงสามารถเติมผู้เล่นเพิ่มเติมได้ตามจำนวนค่าเหนื่อยที่ยังคงเหลืออยู่ รวมกับเงินพิเศษไม่เกิน 1 แสนเหรียญสหรัฐ (เป็นการเพิ่มพิเศษจากเงื่อนไข A เข้ามาอีก)
แต่ต้องดูทางคู่กรณีด้วยว่าจะสามารถส่งผู้เล่นตามเงื่อนไขนี้ได้หรือไม่ เนื่องจากการพิจารณาตามเงื่อนไข A B C นั้น จะทำการแยกพิจารณาเป็นรายทีม (ทุกทีมที่ทำการ Trade) ไม่ได้เป็นการพิจารณาแค่ทีมใดทีมหนึ่ง ทำให้โดยปกติแล้ว เงื่อนไขนี้มักจะพ่วงกับการ Trade แบบ Non-Simultaneous ไปด้วย
การ Trade ในข้อ 11.1 ปกติแล้วจะไม่สามารถเกิดสิทธิ์ Traded Player Exception ได้ เนื่องจากมีการแลกเปลี่ยนผู้เล่นระหว่างทีมแล้วนั่นเอง เพียงแต่ในบางกรณี ทีมจะยังคงสามารถใช้ Exception อื่นๆ ประกอบในการ Trade ได้ ตามที่เงื่อนไขระบุไว้ในแต่ละวิธี
11.2 การ Trade ที่ทีมคู่กรณีไม่ได้ทำการส่งผู้เล่นตอบแทนด้วยในเวลาเดียวกัน (Non-Simultaneous Trades)
การ Trade แบบนี้จะทำให้ทีมที่ทำการ Trade ผู้เล่นออกสามารถได้รับ Player Traded Exception และสิทธิ์ที่ได้ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นบทความ
การ Trade แต่ละครั้งจะเกิดขึ้นได้ทั้ง 11.1 และ 11.2 พร้อมกัน เพียงแต่ทั้งสองเงื่อนไขนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นพร้อมกันกับคู่กรณีเดิมได้
ทำให้ในบาง Trade อาจจะต้องมีทีมมากกว่าสองทีมเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ทีม A ทำการ Trade กับทีม B และเกิดเงื่อนไขตามข้อ 11.1 แล้ว จะไม่สามารถใช้เงื่อนไขของข้อ 11.2 กับทีม B ได้อีก แต่ยังสามารถใช้เงื่อนไขของข้อ 11.2 กับทีม C ได้ (ปกติแล้วมักจะมีการเสนอสิทธิ์อื่นๆ พ่วงไปด้วย เพื่อจูงใจให้ทีม C เข้ามามีส่วนร่วมในการ Trade มากขึ้น)
ทำให้ในบางครั้ง อาจจะมีถึง 3 หรือ 4 บางทีก็อาจจะพ่วงไปถึง 5 ทีมได้ ในกรณีที่มีการ Trade แบบ Lot ใหญ่เพื่อที่จะทำการรื้อสร้างทีมใหม่ หรือมีการปล่อยผู้เล่นสัญญาราคาแพงออกจากทีม แต่ทีมคู่กรณีที่ต้องการกลับไม่สามารถเสนอของตอบแทนที่เข้าข่ายได้
ยกเว้นแต่ว่าการ Trade นั้นจะแบ่งย่อยออกไปอีก ซึ่งจะต้องผ่านการเห็นชอบจากทางลีกก่อนถึงจะทำได้ เช่น ทีม A ส่งผู้เล่น 3 คนให้ทีม B โดยฝ่ายหลังส่งกลับมาแค่ผู้เล่นคนเดียว โดยสองคนแรก เป็นการแลกกับผู้เล่นทีม B ตามเงื่อนไข 11.1 ส่วนผู้เล่นคนที่ 3 เป็นการ Trade ตามเงื่อนไข 11.2 เป็นต้น อย่างไรเสียสุดท้ายแล้วการรับรองจากทางลีกก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
11.3 กรณี Sign-and-Trade (การเซ็นสัญญาใหม่เพื่อทำการ Trade ให้เข้ากับเงื่อนไขสัญญาตามข้อ 11.1) ปกติแล้วจะไม่ถูกนำมาคำนวณใน Exceptions ในส่วนนี้
ยกเว้นแต่ ถ้าทีมที่ใช้สิทธิ์ Bird หรือ Early-Bird ในการ Sign-and-Trade และสัญญาในปีแรกมีมูลค่ามากกว่า 120% ของค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับก่อนหน้านี้ ทีมนั้นจะได้ Trade Exceptions เท่ากับค่าจ้างครึ่งหนึ่งของปีแรกในสัญญา Sign-and-Trade หรือเท่ากับค่าจ้างของสัญญาฉบับก่อนหน้า (ขึ้นกับว่าอันไหนมีมูลค่ามากกว่า)
11.4 กรณี Extension-and-Trade (การขยายสัญญาใหม่เพื่อทำการ Trade ให้เข้ากับเงื่อนไขสัญญาตามข้อ 11.1 หรือ 11.2 ซึ่งการขยายสัญญาจะทำได้ก็ต่อเมื่อเข้าสู่ปีสุดท้ายของสัญญาฉบับปัจจุบันแล้วเท่านั้น)
ถ้าค่าจ้างสัญญาในปีแรกของการขยายสัญญา ไม่ใช่สัญญาแบบการันตีเต็มจำนวน (การันตีค่าจ้างแค่บางส่วน) ถ้าหากมีการ Trade เกิดขึ้น ทีมที่เป็นสังกัดเดิม จะได้ Trade Exception เท่ากับจำนวนค่าจ้างที่มีการการันตีเท่านั้น (ได้แค่บางส่วน ไม่ใช่ได้ทั้งหมดของสัญญาในปีนั้น)
11.5 กรณีที่ทำการ Trade ผู้เล่นหลังจากที่วันสุดท้ายของฤดูกาลปกติประจำปีนั้นๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว (ปกติจะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเลย Trade Deadline แต่ในบางกรณีจะทำให้ทีมยังสามารถทำการ Trade ได้ผ่านทาง Trade Exception ถึงแม้จะเลยกำหนดไปแล้วก็ตาม)
หากสัญญาดังกล่าวไม่ใช่สัญญาการันตีเต็มจำนวน สิทธิ์ Exception จะได้ตามค่าเหนื่อยการันตีของผู้เล่นคนนั้นในฤดูกาลถัดไปแทนฤดูกาลปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี Case แบบนี้เราจะไม่ได้เห็นบ่อยนัก เนื่องจากมีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะจากการ Trade ในลักษณะนี้ ซึ่งค่อนข้างจะวุุ่นวาย ส่วนมากจะทำการ Trade ถึงแค่ข้อ 11.4 มากกว่า
จะเห็นได้ว่าแค่ข้อยกเว้นข้อเดียว แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยแตกแขนงออกไปค่อนข้างมาก จึงต้องทำการขอแยกบทความออกมาต่างหากนั่นเองครับ เพียงเท่านี้ข้อยกเว้นต่างๆ ก็ได้นำเสนอจนครบหมดแล้ว
เพียงแต่ว่าบางเงื่อนไขจะมีความเกี่ยวข้องกับประเภทของการเซ็นสัญญาผู้เล่นด้วย ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับสัญญาหรือ Contracts ถ้ามีโอกาสจะหยิบมานำเสนอกันต่อไปในภายหลังครับ
ขอให้สนุกกับการเตรียมตัวของแต่ละทีมสู่ฤดูกาล 2021/22 ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคมนะครับ (ถ้าไม่ถูกเลื่อนไปเสียก่อน)
แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้าครับ
ถ้าชอบก็ฝาก Share และกดติดตามด้วยนะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
-
https://www.nba.com/news/free-agency-explained
-
https://cbabreakdown.com/salary-cap-exceptions
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
NBA 103 - ทำความรู้จักกับคำศัพท์ในวงการ NBA
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย