โฮมสคูล เรียนรู้เพื่อใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่ เพื่อสอบ!!
สวัสดีค่ะ นี่คือบทความที่ 101 ของครูป้อม
แห่งบ้านเรียนพลังบวก
ขอเป็นพื้นที่ แนะนำตัวเองให้เพื่อนๆรู้จักนะคะ
ครูป้อมเป็นคุณแม่โฮมสคูล สายอินเตอร์ค่ะ
และเป็นมาสเตอร์โค้ชNLP และการสะกดจิต
แบบมีใบรับรอง ผ่านการเรียนแบบเต็มโปรแกรมด้านการพัฒนาการสื่อสารระดับจิต
เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาความสัมพันธ์กับตัวเอง
ด้วยโปรแกรม การ์ดโค้ชชิ่ง
ครูป้อมเริ่มเข้าสู่เส้นทางโฮมสคูล
ให้ลูกออกจากระบบโรงเรียน
และเริ่มจัดการเรียนเองที่บ้านให้ลูกๆ
ตั้งแต่ปี 2013
ผู้เขียนกับลูกชายสองคน
บนความตั้งใจคือ
เตรียมความพร้อมให้ลูกมี
ทักษะพลโลกแห่งศตวรรษที่ 21
ตอนนั้นคนโต 8 ขวบ
คนเล็ก 4 ขวบ
กับคำถามสั้นๆของลูกคนโต
“ ทำไมต้องลอกตามบนกระดาน”
อยากเขียนที่คิด ที่มันมาจากสมองของเรา🤣🤣”
คำถามทรงพลัง ที่กระตุ้น ให้แม่ ตัดสินใจ
ผู้เขียนเปิดสอนภาษาอังกฤษช่วงเย็น
ในรูปแบบกิจกรรมหลังเลิกเรียน
ลูกๆก็มาเรียนด้วยกัน
ลูกชายคนโตกับเปียโนคู่ใจ
หนึ่งเทอมผ่านไป
สังเกตพัฒนาการลูก ความฉลาด ความรู้ ทักษะ
มาจากที่เรียนกับแม่ช่วงเย็นทั้งนั้น
ลูกชายคนเล็กกับการเต้นที่ชื่นชอบ
ถ้างั้นจะไปโรงเรียนเพื่อ??
เรียนตอนเย็นวันละสองชั่วโมงก็พอแล้วงั้น
ผู้เขียนกับครอบครัวช่วงโควิดเริ่มเข้ามา
เมื่อตัดสินใจ ให้ลูกๆออกจากโรงเรียน
ครูป้อมก็เรียนรู้มากมาย
และเริ่มตั้งหลักด้วย
“ หลักการเรียนรู้ของสมอง ”
ถึงขั้น เรียนอนุปริญญาโทสำหรับ
ผู้บริหารสถานศึกษาระดับปฐมวัย
คืออยากรู้ว่า ถ้าเป็นโรงเรียนจะต้องมีมาตรฐาน
อะไรบ้าง
ตอนนั้นแค่ตั้งใจว่า เอามาปรับใช้กับลูกๆ
เท่านั้น
กิจกรรมในแต่ละวันก็หลากหลาย
สองปีแรก ครูป้อมใช้สมองหนักมาก🤣🤣
เพราะลูกสองคน คนนึงประถม คนนึงอนุบาล
กับความพยายามในการจดทะเบียนกับพื้นที่
จัดตารางกิจกรรม
ทำความเข้าใจกับครูที่มาช่วยสอน
ปรับแนวคิดกับผู้ปกครองที่เอาลูกมาฝากทำกิจกรรม
คือถ้าไม่ต้องมารับผิดชอบลูกคนอื่นด้วยนี่
จะเป็นแฮปปี้โฮมสคูลแบบสุด มากๆ
นี่ก็แฮปปี้ แต่ฟรีด้อมไม่สุด 🤣🤣🤣
แต่พอเริ่มเชี่ยว
ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น
ความกังวลคลายตัว
และใช้หลักแนวคิดให้เด็กเป็นศูนย์กลางเริ่มชัดเจนขึ้น
เมื่อได้เรียนรู้เรื่อง “ การสอนโปรเจค”
เรากลับกลายเป็นมินิสคูล
มีคนเอาลูกมาเรียนกับเรา
ทั้งที่เราไม่มีวุฒิอะไรให้เลย
ช่วงที่มีสมาชิกเยอะสุดๆก็ 30 คน
เพราะที่ลูกเค้าได้คือ พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ🤣🤣
ครูป้อมบริหารกลุ่มโฮมสคูลมากว่าแปดปี
ด้วยพลังบวก ด้วยพื้นฐานที่เป็นคนคิดบวก
มองเห็นประโยชน์และโอกาสในวิกฤตเสมอ
จึงมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะชีวิต จิตใจ และวิสัยทัศน์ให้เด็กๆ
และเราต้องปิดกิจการกลุ่มอย่างเป็นทางการ
ช่วงที่โควิดเข้ามาพอดี
ก่อนโรคระบาดจะเข้ามา สี่ปี
ครูป้อมได้เรียนรู้เรื่องของNLP
Neuro Linguistic Program
การสื่อสารระดับระบบประสาท เพื่อความสำเร็จ
ยิ่งทำให้รูปแบบการเรียนรู้ที่สอนลูกๆ
ยิ่งยกระดับ พัฒนามากขึ้นไปอีก
เป้าหมายสำคัญจากนี้คือการชัดเจนกับเป้าหมายชีวิต
เปลี่ยนสิ่งที่ฝันให้เป็นความสำเร็จ
ทั้งของตัวเอง สามีและลูกๆ
โควิดเข้ามาเพื่อให้เรา
วางภาระจากการดูแลเด็กๆคนอื่น
มาโฟกัสลูกๆอย่างเต็มที่
ตอนนี้ลูกชายสองคนโตเป็นหนุ่ม
และมีพัฒนาการดีรอบด้าน
มีทักษะชีวิต ดูแลจัดการตัวเองได้
ช่วยแบ่งเบาภาระงานในบ้าน
เรียนได้ดีตามลำดับ
คนโต ฝันอยากเป็นนักเปียโน
คนเล็กอยากเป็นครูสอนเต้นและออกแบบท่าเต้น
ผู้เขียนก็มีหน้าที่คอยสนับสนุนลูก
ให้ได้ทำตามเป้าหมาย
พร้อมๆกับมุ่งมั่นในการผันตัวเองมาเป็นนักเขียน
เพื่อต่อยอดความฝันใหม่
คือ การเป็น นักธุรกิจความรู้ Infoprenuer
จากโรงเรียนธรรมดา
มาเป็นโรงเรียนออนไลน์
สอนพ่อแม่ให้สอนลูกอีกที
วันหนึ่งอยากมีเวปไซต์รวมหนังสือ และ
คอร์สออนไลน์ เพื่อการพัฒนาความสัมพันธ์
และจิตวิญญาณ
สนับสนุนให้ผู้คนใช้ชีวิตที่สงบสุข
ด้วยความเคารพตัวเองที่แข็งแกร่ง
งานหลักตอนนี้คือ
เป็นที่ปรึกษาทางการเรียนให้ลูกๆ
เป็นที่ปรึกษาธุรกิจให้สามี
และเขียนบทความ อีบุ๊ค หลักสูตร ตำราเรียนต่างๆ
ฝากผลงานให้เพื่อนๆติดตามด้วยนะคะ
ขอบคุณจากใจ
ขอบคุณทุกกำลังใจ
ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ
- 5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
