เรื่องเล่าการใช้ชีวิตของแม่บ้านไทยที่ญี่ปุ่นในยุคโควิดระบาด
คุณวิรังรอง มินามิดะ อดีตข้าราชการ แต่งงานกับสามีชาวญี่ปุ่นที่พบรักกันขณะเรียนภาษาที่สหรัฐอเมริกา และตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่ จ.ฮาโกชิมา บนเกาะคิวชู ทำธุรกิจร้านนวดเล็กๆ ที่หน้าบ้าน
แต่นับจากโควิดระบาดตั้งแต่ พ.ค.ปีที่แล้ว ลูกค้าที่ร้านกลายเป็นศูนย์
"รัฐช่วยเรา ประมาณ 1 แสนเยน ยังตกใจว่าได้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ เพราะร้ายเราเล็กนิดเดียวเอง"
"ชื่อเราอยู่ในระบบปุ๊บ พอมีปัญหาอะไร เวลาช่วยเหลืออะไรมันช่วยง่าย เขามีข้อมูลหมดแล้ว"
ขณะที่มาตรการรับมือกับการระบาดของโควิด รัฐบาลญี่ปุ่นใช้วิธีขอความร่วมมือจากประชาชนในการอยู่บ้าน
และหากจะเดินทางก็ใช้ความระมัดระวัง เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ โดยไม่มีการล็อกดาวน์ใดๆ
ร้านเหล้ายังสามารถเปิดขายได้ถึงสองทุ่ม หากช่วงที่มีการระบาดหนัก รัฐบาลจะขอความร่วมมือให้ปิด และร้านเหล้าที่ปิดจะได้รับเงินชดเชย
เช่นเดียวกับโรงเรียนอนุบาล หากมีคนติดเชื้อและต้องปิดการเรียน โรงเรียนจะคืนเงินให้กับผู้ปกครอง
ส่วนการฉีดวัคซ๊น รัฐจะส่งจดหมายพร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับผลข้างเคียงมาทางไปรษณีย์ และให้โทรจองคิวรับวัคซีนที่โรงพยาบาล
เมื่อพูดเรื่องการสื่อสารของรัฐบาลญี่ปุ่นกับประชาชน คุณวิรังรอง พูดถึงนายโยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นว่า
"นายกรัฐมนตรี พูดครั้งหนึ่งสั้นๆ ดูหน้าเหมือนทำงานหนักมาก เหมือนไม่ได้นอน เอาจริงเอาจัง"