16 ส.ค. 2021 เวลา 10:22 • ท่องเที่ยว
12 ที่ กิน ช็อป เดินเล่นลับในโตเกียว
ถ้าพูดถึงแหล่งกินเที่ยวช็อปปปิ้งในโตเกียวหลายคงก็คงจะนึกถึง ย่านอาสะกุสะ ชิบุย่า ชินจุกุ อะคิฮาบาร่า กินซ่า และอีกมากมายใช่ไหมล่ะ
แต่บทความนี้เราจะพาไปพบกับสถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักแต่มีบรรยากาศดี น่าเดินเล่นและกิน ดื่ม ช็อปปิ้ง เดินเล่น เหมาะกับผู้รักการเดินทางที่ไม่ชอบคนพลุกพล่านมากเกินไป 12 สถานที่นี้ถูกคัดเลือกมาอย่างดีจากเหล่านักเดินทางของ tripnote.jp ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลย
1.คุรามาเอะ บรู๊คลินแห่งโตเกียว
วิวที่มองเห็นสะพาน บรรยากาศคล้ายกับทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำในบรู๊คลิน นิวยอร์ก
คุรามาเอะ ย่านนี้อยู่ใกล้กับอาสะกุสะ ย่านดีๆที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมีแม่น้ำสุมิดะไหลผ่าน ร้านคาเฟ่สุดชิล ร้านขายสินค้าจิปาถะ จุดเดินเล่นเพื่อถ่ายรูปเก๋ๆอย่างโกดังสินค้าที่ได้รับการรีโนเวทใหม่และตกแต่งอย่างสวยงาม จนถูกเรียกว่า "บรู๊คลินแห่งโตเกียว" เพราะมีบรรยากาศคล้ายกับทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำในบรู๊คลิน นิวยอร์ก
ร้านแนะนำ KONCENT จำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดที่มีดีไซน์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว จำหน่ายขายของใช้ในชีวิตประจำวันและสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ออกแบบโดยแบรนด์ออริจินัล รวมถึงเครื่องหนังและถ้วยกาแฟ "KONCENT" นอกจานี้ยังมีร้านกาแฟที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับกาแฟและชาจาก "SOL'S COFFEE"ได้
และที่ร้านเครื่องเขียน "คากิโมริ" (Kakimori)ร้านขายเครื่องเขียนที่ขายเครื่องเขียนที่มีดีไซน์น่ารักเหมาะสำหรับผู้หญิงเต็มไปหมด เช่นปากกา สมุดบันทึก และกระดาษโน้ต จุดเด่นของร้าน คากิโมริ คือ ลูกค้าสามารถทำสมุดโน๊ตในแบบที่ตัวเองชอบได้
หากเดินจนหิว ให้ไปที่คาเฟ่ร้านอาหาร "Cielo Irio" มีทั้งอาหารกลางวันและอาหารเย็นและยังสามารถเพลิดเพลินกับขนมหวานที่คาเฟ่ได้
มีที่นั่งประมาณ 180 ที่นั่งบนชั้น 1 และ 3 รวมทั้งที่นั่งริมระเบียงที่สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศของแม่น้ำสุมิดะและโตเกียวสกายทรีได้
2.อามะซาเกะ โยโกะโช ย่านที่เหมาะกับการเดินเล่นไปกินไป
โดนัทนมถั่วเหลืองของขึ้นชื่อ
ย่านใจกลางเมืองยอดนิยม Amazakeyokocho อยู่ใกล้ สถานีรถไฟใต้ดิน Ningyocho สถานี Suitengumae และ สถานี Hamacho ที่มาของชื่อย่านนี้คือเคยมีร้านขายสาเกหวาน(อามะ แปลว่าหวาน ) (ซาเกะ คือชื่อเหล้าญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง เป็นการออกเสียงแบบญี่ปุ่นที่คนไทยมีกจะออกเสียงว่า สาเก )
ตั้งอยู่บนถนนเล็กๆ ทางใต้ของทางเข้าอามะซาเกะ โยโกโชในปัจจุบัน
ถนนช้อปปิ้งนี้เต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ อาหารอร่อยและร้านค้าที่มีชื่อเสียงมากมาย
หนึ่งในร้านที่ยอดนิยม คือ Tofu no Futaba เป็นร้านขายโดนัทที่ทำมาจากนมถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้นั่นเอง เนื้อโดนัทนุ่มฟูและชุ่มชื้นแป้งเนื้อบางเบาที่ไม่หวานเกินไปและไม่เหนียวเหนอะหนะ ยังเหมาะกับทานคู่กับ อามะซาเกะอุ่นๆ ในตอนเช้าที่มีอากาศหนาวเย็นอีกด้วย และร้านนี้ยังเป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1907 ด้วยนะ
และอีกหนึ่งร้านในย่านนี้ก็คือ ร้านขนม Ningyocho Imahan เป็นร้านขายครอกเกต์ประมาณ 10 ชนิดที่ตั้งเรียงรายต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้าน ทำจากเนื้อสับโฮมเมดห่อด้วยแป้งกรอบ กินโดยไม่ต้องราดซอสและน้ำเกรวี่ก็อร่อยเช่นกัน
3. เมกุโระ โดริ ถนนช็อปปิ้งร้านเฟอร์นิเจอร์
ร้าน ACME Furniture
ที่ริมถนน เมกุโระมีร้านขายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านตั้งเรียงราย รอต้อนรับลูกค้าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์ มีตั้งแต่ร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ไปจนถึงร้านค้าทั่วไปขนาดเล็กให้เลือกได้ไม่มีเบื่อ หรือจะแค่มาเดินดูก็สนุกแล้ว
ร้านที่น่าสนใจ เช่น Lewis เป็นร้านที่ขายเฟอร์นิเจอร์และ ของตกแต่ง มีสินค้าคัดสรรที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากแฟชั่น มุ่งเน้นเฟอร์นิเจอร์จากช่วงทศวรรษ 1960 ในสแกนดิเนเวียและสหรัฐอเมริกา
Point No.39 เป็นร้านค้าที่จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งโบราณของอเมริกา เช่น ไฟ ชิ้นส่วนจักรยาน ฯลฯ ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ1900 ถึง 1970
และ ร้าน ACME Furniture คือกลุ่มผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจของอเมริกาในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970
4.La Vita Jiyugaoka เวนิสในจิยูกาโอกะ
บรรยากาศจำลองคล้ายกับเมืองเวนิสของอิตาลี
จิยูกาโอกะเป็นย่านที่เงียบสงบมีร้านค้าและคาเฟ่ทันสมัยมากมาย ไปได้โดยลงที่สถานีรถไฟสถานีจิยูกะโอกะโดยสายโตคิวโทโยโกะและสายโออิมาจิ
ในย่านนี้ถูกเรียกว่า "เวนิสแห่งจิยูกาโอกะ"เป็นการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่เพื่อให้มีบรรยากาศจำลองคล้ายกับเมืองเวนิสของอิตาลี โดยมีเรือกอนโดล่าลอยอยู่ในคลองขนาดเล็กด้วย
 
อาคารพาณิชย์ขนาดเล็กที่เรียกว่า "ลา วิตา จิยูกาโอกะ" เป็นจุดเช็คอินที่กำลังนิยมในบรรดาสายแบกกล้องถ่ายรูปอย่างมาก และมีร้านค้า ร้านคาเฟ่และร้านเสริมสวยหลายแห่งในอาคารอิฐ ราวกับว่าคุณกำลังเดินอยู่บนถนนในอิตาลี
5.นิชิโอะกิคุโบะ
อันมิตสึ ร้าน Ama-ikko
ย่านนิชิโอะกิคุโบะ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของย่านชินจูกุ ใช้เวลาประมาณ 13 นาทีจากชินจูกุโดยรถไฟสาย JR Chuo
แม้ว่าจะไม่ใช่เมืองที่มีสีสันมากนัก แต่ก็แอบได้รับความนิยมในฐานะจุดเดินเล่น เต็มไปด้วยร้านค้าทั่วไปที่ไม่เหมือนใคร ร้านหนังสือมือสอง ร้านเครื่องเขียน และคาเฟ่
อย่างเช่น ร้านฮิกุราชิ (Hiraguchi gokuten) เป็นร้านคาเฟ่และขายของตกแต่งแบบโบราณใช้อิฐแดงมาประดับตกแต่งหน้าร้านเป็นร้านขายของใช้รวมถึงเฟอร์เล็กน้อยๆตั้งแต่โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู นาฬิกา จนถึงสวิตซ์ไฟโบราณ และยังมีมุมคาเฟ่ให้นั่งดื่มกาแฟเพื่อผ่อนคลายด้วย
ร้าน Pepamura เป็นร้านค้าที่เน้นสินค้าประเภทกระดาษเป็นหลัก เช่น การ์ดข้อความ เครื่องเขียน และกระเป๋าพกพา
และร้านที่จะขาดไม่ได้หากว่าเดินเล่นจนเหนื่อยและหิว เพื่อแวะเติมความสดชื่นกันสักเล็กน้อยต้องไปร้าน Ama-ikko(เป็นร้านที่ถูกใช้เล่าเรื่องในซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องคันทาโร่ เซลล์แมนนักชิมขนมหวานด้วยนะ) เป็นร้านขายน้ำแข็งใสแบบโบราณที่มีบรรยากาศแบบสมัยโชวะ
มีเมนูขนมหวานขึ้นชื่ออย่าง ชิราทามะ เซ็นไซ(ถั่วแดงอะซูกิต้มน้ำตาลใส่แป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนกลมคล้ายบัวลอยบ้านเราเรียกว่า ชิราทามะดังโงะ)
และอันมิตสึ (ขนมหวานที่ใส่วุ้นสาหร่ายที่เรียกว่า คันเต็น ใส่ถั่วแดง ผลไม้อย่างเชอรี่ ส้มแมนดาริน พีช แป้งข้าวเหนียวตัดเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ เรียกว่า กิวฮิ และชิราทามะดังโงะราดด้วยถั่วแดงอะซึกิต้มน้ำตาล พร้อมด้วยน้ำเชื่อม บางร้านมีน้ำเชื่อมให้เลือก 2 แบบ) ด้วย
6.ย่านผ้านิปโปโร ย่านสำหรับผู้รักงานฝีมือ
ร้าน pakira เป็นร้านงานพิมพ์ผ้าแบบ Liberty
ทันทีที่ออกจากประตูทางออกด้านใต้ของ "สถานี JR นิปโปริ" ย่านค้าส่งผ้า "เมืองนิปโปริเท็กซ์ไทล์" จะกระจายไปตามนิปโปริ ชูโอ-โดริมีร้านค้าจำหน่ายผ้า กระดุม ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง และอื่นๆ ประมาณ 90 ร้าน เรียกว่วเป็นย่านคนรักงานแฮนด์เมดเลยที่เดียว
แม้ว่าจะเป็นย่านค้าส่ง แต่ก็สามารถซื้อแบบปลีกได้ ดังนั้นนักเรียนที่มีความฝันงานด้านแฟชั่นและแม่บ้านที่ชื่นชอบงานหัตถกรรมจึงมารวมตัว
กันที่นี่มากเป็นพิเศษ
ร้านแนะนำคือร้าน pakira เป็นร้านงานพิมพ์ผ้าแบบ Liberty หลายร้อยแบบและแบบให้เลือกมากมาย ตั้งแต่งานคลสสิกจนถึงแบบใหม่
และร้าน KUMAGAI เป็นร้านขายกระดุมแบบพิเศษที่มีกระดุมและหัวเข็มขัดจากทั้งในยุโรปและต่างประเทศมากกว่า 5,000 แบบ
7.เดินรอบ Senju shichifukujin เดินเล่นขอพรสักกาะระเทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้ง 7
แผนที่ย่าน Senju shichifukujinและเทพเจ้าตามศาลเจ้าแต่ละแห่ง
ย่าน Senju shichifukujin เรียกได้ว่าเป็นแหล่งขอพรสักการะเทพเจ้าทั้ง 7 ตามศาลเจ้าเก่าแก่อายุนับพันปี สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีแต่หากอยากสัมผัสบรรยากาศการขอพรอย่างเต็มที่ควรมาช่วงวันปีใหม่และใช้เวลาเดินโดยรอบอย่างสบายประมาณครึ่งวันเพื่อสัมผัสกับพรของเทพเจ้าได้อย่างเต็มที่
โดยแนะนำให้เดินออกจากสถานี Kitasenju ทางออกทิศตะวันตกแล้วเลี้ยวตามเข็มนาฬิกาเริ่มจากศาลเจ้า Nakachohikaw
โดยเทพเจ้าจะอยู่สถิตตามศาลเจ้าแต่ละแห่ง อย่างเช่น ไปขอพรเทพเจ้า บุได-ซามะ ที่ศาลเจ้าโอกาวะมาจิ ฮิคาวะ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตา สร้างตั้งแต่สมัยคามาคุระ
หรือไปขอพร Ebisuten-sama ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งชาวประมงและการค้าขาย ที่ศาลเจ้า Senju ที่สร้างตั้งแต่สมัย เฮอัน ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่มี่สุดในบรรดาศาลเจ้าทั้ง 7
8.ตลาดปลา อาดาจิ
ตลาดปลา อาดาจิ เป็นหนึ่งใน 11 แห่งของตลาดกลางค้าส่งที่จัดตั้งขึ้นในโตเกียวราวปี ค.ศ. 1945 และว่ากันว่าเป็นตลาดเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ยุคเทนโช ราวปี ค.ศ. 1580
สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Kita-senju เป็นตลาดปลาริมแม่น้ำสุมิดะที่สามารถเดินไปถึงได้ภายใน20 นาทีจากสถานี Kita-senju
ตลาดอาดาจิแบ่งออกเป็นตลาดค้าส่งที่ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อหาทั้งอาหารทะเลแห้ง และอาหารทะเลสดได้ และตลาดค้าส่งปลาสดที่ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปได้
และยังมีโซนร้านอาหารเมนูอาหารทะเลสดต่างๆให้ไปทานได้โดยเฉพาะร้าน Tokudaya ถือว่าขึ้นเด็ดจัดจ้านในย่านนี้เลยทีเดียว
เนื่องจากที่นี่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก มีพื้นที่ประมาณ 42,000 ตารางเมตร
ถึงแม้จะเล็กกว่าตลาดปลาสึคิจิหลายเท่าแต่คุณภาพของความสดของอาหารทะเลก็ไม่แพ้ตลาดปลาสึคิจิเลย จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการไปเบียดเสียดกับคนอื่นจึงทำให้ใช้เวลาในตลาดอาดาจินี้ได้อย่างสบาย
การไปตลาดปลาอาดาจิควรไปแต่เช้าตรู่และไม่ควรเกิน 11.00 น. เพราะร้านส่วนใหญ่จะปิด
9.Tokyo Daijingu
Enmusubi suzuran mamori เป็นเครื่องรางขึ้นชื่อ
โตเกียว ไดจิงกู อีกชื่อหนึ่งคือ (Ise-sama in Tokyo) ที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นที่ประดิษฐานดวงวิญญาณของเทพเจ้าอิเสะจิงกู เทพเจ้าที่ได้ชื่อว่าให้พรเรื่องความรัก
เป็นศาลเจ้ายอดนิยมในบรรดาสาวๆที่ต้องการขอพรเพื่อให้สมหวังในเรื่องความรัก ไม่ว่าจะเป็นการขอพรเรื่องการขอให้สมหวังในเรื่องแต่งงาน หรือการขอพรเพื่อให้ได้พบกับแฟนหนุ่มที่ถูกใจ
Enmusubi suzuran mamori เป็นเครื่องรางที่มีดอกลิลลี่ 2 ดอกสีขาวน่ารักมีกระดิ่งเล็กอยู่ข้างในผูกติดกันซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ ที่ต้องการเติมเต็มความโรแมนติก เป็นเครื่องรางที่ไม่ว่าใครไปก็อยากซื้อ
ดอกลิลลี่นั้นในตัวอักษรคันจิภาษาญี่ปุ่นตัวแรกเป็นคันจิตัวเดียวกันกับตัวคันจิที่มีความหมายว่ากระดิ่ง นั้นจึงเป็นการออกแบบให้เอากระดิ่งใส่ใว้ในดอกลิลลี่ เป็นการสื่อความหมายว่าเวลาที่กระดิ่งสั่นแล้วเกิดเสียงเหมือนกับเสียงในหัวใจของคู่รักทั้่งคู่ขอให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน (โรแมนติกสุดๆ)
สามารถเข้าถึงได้โดยสาย JR Chuo / Sobu, Tokyo Metro Yurakucho Line / Namboku Line / Tozai Line และ Toei Subway OedoLine และเดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีอีนาบาชิ
10.Don Remy Outlet
Don Remy Outlet
จุดที่คนรักขนมหวานไม่ควรพลาดได้คือ Don Remy Outlet อยู่ห่างจาก สถานี JRอุเอโนะ โดยรถไฟใต้ดินใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที
ที่ร้านขายขนมเฉพาะทางที่บริหารจัดการโดยโรงงานที่ผลิตขนมสำหรับร้านสะดวกซื้อ สามารถซื้อขนมได้ในราคาเอาท์เล็ทที่ลดราคาประมาณ 30% ของราคาร้านสะดวกซื้อที่วางขายในร้านสะดวกซื้อ
ขนมหวานญี่ปุ่นและขนมแบบตะวันตกหลายสิบชนิด เช่น ขนมหวานถ้วยสำหรับร้านสะดวกซื้อ โรลเค้ก พุดดิ้ง เจลลี่กาแฟ และเกี๊ยวมิตาราชิ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ซิกเนเจอร์ เรียงรายอยู่ในร้านขนาดกะทัดรัดในทุกทิศทาง
เคล็ดลับความอร่อยของขนม Don Remy อยู่ที่ความสดของวัตถุดิบ เช่นความสดของนม ไข่ ผลไม้ และน้ำ สินค้าที่ผลิต ประมาณ 70% เป็นสินค้าแฮนด์เมด เพราะว่าDon Remy มุ่งมั่นที่จะควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดการจัดการสุขอนามัยอย่างละเอียดที่โรงงานและการตรวจสอบคุณภาพอย่างถี่ถ้วนโดยพนักงานที่มีประสบการณ์
การตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดจะดำเนินการอย่างถี่ถ้วนแม้จากขั้นตอนการจัดซื้อวัสดุ มีจากการวิจัยตลาดรายวันที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ แล้วเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาก็ยังค้นหาของหวานแสนอร่อยจากทั่วประเทศ
และรวบรวมข้อมูลและข้อมูลต่างๆ เพื่อกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Don Remy เอง
11.Shirohige Cream Puff Studio
ครีมพัฟรูป Totoro   ภาพถ่าย: “Sosyu Kikuchi”
Shirohige Cream Puffs Studio เป็นร้านขนมที่ตั้งอยู่ใน Setagaya-ku กรุงโตเกียว สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Setagaya-Daita ระหว่างสาย Odakyu ซึ่งตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยโดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที
ขนมขึ้นชื่อคือ "My Neighbor Totoro" สัตว์ลึกลับที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง "My Neighbor Totoro" ของ Ghibli ซึ่งเลียนแบบรูปร่างของ Totoro เป็นเวิร์คช็อปที่ Ghibli รับรองเพียงแห่งเดียวในโลก
"ครีมพัฟโทโทโระ" มีจำหน่ายที่เวิร์กช็อปนี้เท่านั้นเวิร์กช็อปบนชั้นหนึ่งมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับลูกค้าผู้ใหญ่ได้ 4 หรือ 5 คน ตู้โชว์เรียงรายไปด้วยครีมพัฟ เช่น คัสตาร์ดครีมและครีมช็อกโกแลต ซึ่งมีจำหน่ายทุกฤดูกาล และครีมพัฟตามฤดูกาล
ครีมพัฟรูป Totoro นั้นทำยาก และมีหลายกระบวนการและใช้เวลานานมาก ดังนั้นจึงไม่สามารถทำเป็นจำนวนมากได้ แต่ละอันจึงถือว่าเป็นงานฝีมือ และที่น่าสนใจของครีมพัฟรูป Totoro คือแต่ละชิ้นมีสีหน้าที่แตกต่างกัน
กลางวันเปิดตั้งแต่ 10:30 น. ถึง 15:00 น. ดังนั้นเมื่อทำการจองในช่วงเวลานี้ คุณต้องสั่งเมนูอาหารในท้องถิ่นนอกเหนือจากครีมพัฟ
หากคุณจองระหว่างเวลา 15:00 น. - 19:00 น. คุณสามารถสั่งได้เฉพาะครีมพัฟและเครื่องดื่มเท่านั้น
12. Disney Store Shibuya Koen-dori
ร้านค้าอย่างเป็นทางการ "Disney Store" ที่ขายสินค้าของดิสนีย์มีร้านค้าหลายแห่งทั่วประเทศ แต่ร้าน Shibuya Koen-dori เป็นร้าน Disney Store สามชั้น
จัดได้ว่าเป็นจุดแนะนำสำหรับคนรักดิสนีย์ด้วยมุมมองที่กระชับของโลกดิสนีย์ ใช้เวลาเดินเพียง 3 นาทีจากสถานีชิบูย่า
ด้านหน้าทางเข้าร้านถูกออกแบบเป็นปราสาทของดิสนีย์ และเมื่อก้าวเข้าไปในร้าน จะได้พบกับโลกแห่งความฝันที่สนุกสนานยิ่งขึ้นไปอีก มีจุดที่สร้างเลียนแบบตัวละครและฉากภาพยนตร์ต่างๆ เช่น
กระต่ายขาวที่ปรากฏใน Alice in Wonderland และห้องของ Peter Pan สามารถซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการของดิสนีย์ยอดนิยมหรือ สินค้าใหม่ล่าสุดได้ที่ Store แห่งนี้โดยที่ไม่ต้องไปถึงโตเกียวดิสนีย์แลนด์
ที่มาภาพและ ข้อมูล : tripnote.jp
โฆษณา