16 ส.ค. 2021 เวลา 16:19 • ปรัชญา
ทฤษฎี “ไข่สามใบ” แบบสี จิ้นผิง
สี จิ้นผิงถือเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีจีนที่ทรงอำนาจ
และประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง
ในสมัยเด็กสีจิ้นผิงเกิดในครอบครัวที่ยากจน
น้องสาวของเขาถูกฆ่าตอนเขาอายุ 13 ปี
พ่อของสี จิ้นผิงถูกทางการจีนจับขังคุกตั้งแต่เขาอายุ 15 ปี
อย่างไรก็ตามสี จิ้นผิงรักและเคารพพ่อของเขามาก
ในวัยเด็กเขาเป็นเด็กที่เห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตนเองและไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของผู้อื่น
 
เป็นพ่อของเขานั่นเองที่ปลูกฝังรากฐาน และให้บทเรียนสอนเขาจนประสบความสำเร็จแบบปัจจุบัน
เย็นวันหนึ่งพ่อของเขาทำบะหมี่มา 2 ชาม
ชามหนึ่งมีไข่ 1 ใบ อีกชามหนึ่งไม่มีไข่
พร้อมยกให้สี จิ้นผิงเลือกก่อนว่าอยากได้ชามไหน
ในยุคนั้นอาหารขาดแคลน ไข่ 1 ฟองนับว่ามีคุณค่ามาก
สี จิ้นผิงเลือกชามที่มีไข่อย่างไม่ลังเลเลย
แต่พอพ่อเฉลยตัวเลือกของเขากลับผิดพลาด
เพราะบะหมี่อีกชาม มีไข่ถึง 2 ฟองซ่อนอยู่ใต้บะหมี่ชามนั้น
พ่อของเขาสอนว่า
“ลูกเอ๋ย สิ่งที่เราเห็นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด
ใครก็ตามที่พยายามเอาเปรียบผู้อื่นมักจะต้องเสียเปรียบอย่างหนักในภายหลัง”
เย็นวันต่อมาพ่อของเขาทำบะหมี่มา 2 ชามอีกครั้ง
ชามหนึ่งมีไข่ อีกชามไม่มีไข่
สี จิ้นผิง ไม่รอช้าและเลือกบะหมี่ชามที่ไม่มีไข่ทันที
แต่เขาต้องผิดหวังเมื่อลองคนดูในชาม
แล้วพบว่าไม่มีไข่อยู่ในชามนั้นเลย
พ่อของเขาสอนเพิ่มเติมว่า
“ลูกต้องจำไว้นะ
จงอย่าเชื่อในประสบการณ์ในอดีต
จนมากไปจนถูกอดีตหลอก
ชีวิตเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ไม่สามารถเรียนรู้จะประสบการณ์ในอดีตได้เสมอไป”
เย็นวันที่สามพ่อของเขาทำบะหมี่มาเหมือนเดิม 2 ชาม
เพียงแต่วันนี้สี จิ้นผิงไม่เลือก
แต่บอกพ่อของเขาว่า
“พ่อทำเพื่อครอบครัวของเราขนาดนี้ พ่อเลือกก่อนเถอะ”
พ่อของเขาเลือกบะหมี่ชามที่มีไข่ไป
สีจิ้นผิงได้บะหมี่ชามที่ไม่มีไข่
แต่เขาต้องประหลาดใจเมื่อเจอไข่ซ่อนอยู่ใต้บะหมี่ 2 ฟอง
พ่อของเขาสอนต่อว่า
“เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกมีใจทำเพื่อผู้อื่น โชคดีจะอยู่กับลูกเสมอ”
โฆษณา