Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Bluekoff
•
ติดตาม
19 ส.ค. 2021 เวลา 10:30 • ไลฟ์สไตล์
12 เรื่องน่ารู้ของ “กาแฟ” เครื่องดื่มที่คนทั่วโลกขาดไม่ได้
1. กาแฟ หรือ Coffee มาจากภาษาเตอร์กิช และน่าจะเกี่ยวข้องกับคำว่า “Kaffe” เป็นชื่อเรียกบริเวณในเอธิโอเปียที่มีการค้นพบกาแฟเป็นแห่งแรกของโลก
มีการค้นพบกาแฟเป็นที่แรกของโลกในดินแดนป่าของเอธิโอเปียนั่นเอง
2
2. กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า นิยมใช้สำหรับการผลิตกาแฟสำเร็จรูป ส่วนกาแฟสายพันธุ์อราบิก้า เป็นกาแฟคุณภาพเยี่ยม ให้รสชาติกลมกล่อมมากกว่า และมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า
พี่น้องของกาแฟก็มีหลากหลายสายพันธุ์เหมือนกัน แต่ที่นิยมปลูกกันมากมีอยู่ 2 ชนิด คือ กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า และกาแฟสายพันธุ์อราบิก้า กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า นิยมใช้สำหรับทำกาแฟสำเร็จรูปเพราะความเข้มข้นและปริมาณคาเฟอีนที่มีมากกว่ากาแฟสายพันธุ์อราบิก้า ส่วนกาแฟสายพันธุ์อราบิก้ามีรสชาติที่กลมกล่อมกว่าและมีคาเฟอีนแค่ประมาณ 1% เท่านั้น
3. กาแฟสายพันธุ์อราบิก้าปลูกได้ดีที่สุด คือ บริเวณพื้นที่ระดับสูงในดินแดนแถบเส้นศูนย์สูตร ที่ระดับความสูงมากกว่า 700 เมตรจากระดับน้ำทะเล
บริเวณที่เหมาะกับการเติบโตของเจ้ากาแฟสายพันธุ์อราบิก้านี้คือพื้นที่ระดับสูงในดินแดนแถบเส้นศูนย์สูตร ความสูงที่เหมาะคือมากกว่า 700 เมตรจากระดับน้ำทะเล ก็จะได้กาแฟสายพันธุ์อราบิก้าที่มีคุณภาพ รสชาติดี กลมกล่อมได้ใจคนรักกาแฟ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศของแต่ละพื้นที่ปลูกรวมถึงกรรมวิธีการโปรเซสด้วยเช่นเดียวกัน
4. ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และวิธีการปลูกที่แตกต่างกัน ทำให้ได้กาแฟที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน
กาแฟต่างที่ต่างรสชาติกัน มักเป็นผลผลิตกาแฟที่มาจากต่างพื้นที่ปลูก ต่างภูมิภาคกัน ซึ่งจะส่งผลให้รสชาติของกาแฟมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้การโปรเซส และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการโปรเซส ก็ยังส่งผลต่อลักษณะรสชาติของกาแฟได้อีกด้วย และนี่ก็เป็นหนึ่งในความน่าหลงใหลและน่าค้นหาของพืชที่มีชื่อว่า กาแฟ
1
5. กาแฟจากแถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ให้รสชาติที่กลมกล่อม และรสชาติของโกโก้หรือถั่ว รวมถึงคาราเมล เช่นกาแฟจากประเทศบราซิล เป็นต้น ยกเว้นกาแฟจากประเทศปานามา ที่มีสายพันธุ์กาแฟที่ดีอย่างสายพันธุ์ Geisha ที่ให้รสชาติที่แตกต่างรวมถึงแร่ธาตุในดินของพื้นที่ปลูกในปานามาด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้กาแฟจากปานามานั้นแตกต่างจากกาแฟในแถบภูมิภาคเดียวกัน
“กาแฟจากแอฟริกา” มีรสชาติหลากหลายตั้งแต่รสของผลเบอร์รี่ เครื่องเทศหายาก และกลิ่นหอมซีตรัสฟรุต ที่โดดเด่นเฉพาะตัว อันเนื่องมาจากพื้นที่ปลูกและกระบวนการโปรเซสกาแฟ แม้ว่าจะมาจากประเทศเดียวกันก็ตาม อย่างเช่นกาแฟจากประเทศเอธิโอเปีย เป็นต้น
“กาแฟจากหมู่เกาะเอเชีย/แปซิฟิก” โดดเด่นด้วยบอดี้ที่หนัก มีรสชาติในโทนถั่วและช็อกโกแลต โดยเฉพาะกาแฟจากแถบหมู่เกาะอินโดนีเซียจะมีกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพรจางๆอยู่ในกาแฟอีกด้วย
“กาแฟเบลนด์” เป็นการนำเอาเอกลักษณ์และจุดเด่นของกาแฟแต่ละพื้นที่มารวมกันเพื่อให้เกิดมิติของรสชาติและกลิ่นของกาแฟที่หลากหลายมากขึ้น
6. ผู้ที่ทำให้กาแฟกระจายไปทั่วโลกคือชาวดัตช์ โดยน้ำกาแฟไปปลูกที่ประเทศอินโดนีเซียและกระจายไปทั่วโลกโดยพ่อค้าและนักสำรวจนั่นเอง
นักเดินเรือชาวดัตช์คนหนึ่งได้ลักลอบนำเอาต้นกาแฟหรือไม่ก็เมล็ดกาแฟที่ยังไม่คั่วออกจากเมืองเอเดนในปี ค.ศ. 1616 และนำไปปลูกที่เรือนกระจกในประเทศดัตช์ได้สำเร็จ ทำให้ดัตช์นำกาแฟไปปลูกในอาณานิคมของตนในปัตตาเวียและชวาในช่วงทศวรรษ 1720
1
7. ดอกของกาแฟมีสีขาว มีกลิ่นหอมเหมือนดอกมะลิ
ก่อนจะมาเป็นเมล็ดกาแฟสีแดงสวยงามนั้น ต้นกาแฟจะออกดอกปีละครั้ง ดอกของกาแฟมีสีขาวสะอาดกลิ่นหอมเหมือนดอกมะลิ หลังจากที่ดอกไม้ร่วงจากต้นนั้น จะมีผลของกาแฟลูกเล็กๆ ขึ้นมาแทนที่ ใช้เวลาจากดอกกาแฟจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 9 เดือน
8. กาแฟไม่ชอบแสงแดดจัด
กาแฟโดยทั่วไปนั้น จะสามารถเจริญเติบโตได้ดีเมื่อปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่ เพราะต้นกาแฟ (Coffee Tree or Coffee Shrub) เป็นไม้ป่า ซึ่งมีแหล่งกำเนิดหรือถูกค้นพบในประเทศเอธิโอเปีย ทวีปแอฟริกาเมื่อประมาณศตวรรษที่ 10
1
9. กาแฟเป็นที่รู้จักในแผ่นดินสยามนี้ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
โดยการนำเข้ามาดื่มของแขกมัวร์และยาวต่อมาจนเริ่มมีการปลูกอย่างจริงจังในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
10. ในอดีต คนไทยเรียกกาแฟว่า “ข้าวแฟ” ซึ่งเพี้ยนมาจากคำว่า “ข้าวแฝ่” ที่คนสมัยกรุงศรีอยุธยา ใช้เรียกกาแฟ ซึ่งเป็นการเรียกคำภาษาต่างประเทศของคนในสมัยก่อนเนื่องจากไม่สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ถนัดปากนัก จึงเปลี่ยนคำที่เรียกเป็นคำที่ถนัดปากมากขึ้น
11. ดื่มกาแฟมากไปก็สามารถเมากาแฟได้เช่นเดียวกัน โดยอาการเหล่านี้เรามักเรียกกันว่า อาการ “OverDose” ซึ่งหมายถึงอาการที่ร่างกายได้รับปริมาณคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายมากกว่าปกติ โดยอาจมีความรู้สึกเวียนหัว และคลื่นไส้ในบางคน วิธีแก้คือดื่มน้ำเพื่อให้ร่างการขับคาเฟอีนออกนั่นเอง
12. Honey Process เป็นชื่อของการโปรเซสกาแฟที่มีที่มาจากสีของกาแฟหลังตากแห้งเรียบร้อยแล้วมีสีคล้ายน้ำผึ้ง แต่ไม่ได้มีการเติมน้ำผึ้งเข้าไปแต่อย่างใด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
- โทร. 081-979-9565 ต่อ 2 Bluekoff Showroom
- Line@ :
https://page.line.me/bluekoff
- Inbox Facebook :
http://m.me/bluekoff
ช่องทางการสั่งซื้อสินค้า
- คลิก :
https://bluekoff.com/landing/?c=fb
1
แนะนำวิธีการชงกาแฟ
- คลิก :
https://bluekoff.com/landing/brew/?c=fb
แนะนำวิธีการเก็บรักษากาแฟ
- คลิก :
https://bluekoff.com/landing/saving/?c=fb
#Bluekoff #BluekoffCoffee #BluekoffShowroom #BluekoffTrainingCenter #CoffeeCoffeeCoffee #Specialtycoffee
20 บันทึก
19
6
23
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Specialty Coffee : เจาะลึกเรื่องกาแฟกันแบบหมดเปลือก
20
19
6
23
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย