18 ส.ค. 2021 เวลา 00:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Elliott Wave ตอนที่1: มารู้จัก Elliott Wave และคลื่นรูปแบบต่างๆ
อีกสิ่งหนึ่งสำหรับการวิเคราะห์กราฟหรือตลาดนั่นก็คือ Elliott Wave ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย หากคุณต้องการเรียนรู้ Elliott Wave จำเป็นต้องผ่านเรื่องพื้นฐานมาก่อนเพื่อให้ง่ายต่อการเรียนรู้ แต่แอดก็จะพยายามแทรกเนื้อหาที่เกี่ยวข้องให้ จะได้สะดวกในการศึกษา เพราะถ้าอยู่ๆมา Elliott Wave เลยอาจจะมึนได้
1
⚠️ ในตอนที่ 1 นี้ เรามาทำความรู้จัก Elliott Wave และ มาดูกันว่ามันมีคลื่นอะไรบ้าง ”คร่าวๆ” เนอะ แล้วตอนต่อไปจะเป็นการเจาะลึกไปทีละตัว จะได้ไม่แน่นจนเกินไป
1
🎯 Elliott Wave คืออะไร?
Elliott Wave คืออีกทฤษฏีหนึ่งที่ใช้วิเคราะห์ตลาด โดยดูพฤติกรรมของกราฟที่มีลักษณะเป็นลูกคลื่นในกรอบเวลา (Time frame) ซึ่งมันก็คือการเล่นกับจิตวิทยาของนักลงทุนอยู่เช่นเดิม
3
Elliott Wave ถูกพัฒนามาจากทฤษฏี Dow Thoery ซึ่งเป็นทฤษฏีต้นฉบับที่ถูกนำไปปรับใช้ในการวิเคราะห์ราคาและดูวัฎจักรตลาด หากคุณเข้าใจ Dow Thoery หรือ Wyckoff Logic แล้วจะทำให้การดู Elliott Wave ของคุณง่ายขึ้น
หากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับ Dow Thoery และ Wyckoff Logic สามารถอ่านได้ที่นี่ 👇
1
นอกจากนี้ Elliott Wave ยังจำเป็นต้องใช้การตีเส้นฟิโบ (Fibonacci) อีกด้วย ดังนั้นคุณจำเป็นต้องรู้จัก Fibonacci เพื่อที่จะได้ใช้วิเคราะห์ร่วมกับ Elliot Wave
หากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับ Fibonacci สามารถอ่านได้ที่นี่ 👇
1
🎯 Elliott Wave มีอะไรบ้าง?
Elliot Wave จะมีลักษณะของคลื่นใหญ่ๆอยู่ 2 รูปแบบ คือ Motive Wave และ Corrective wave ซึ่งในแต่ละคลื่นใหญ่ จะมีรูปแบบย่อยลงไปอีกตาม Time frame ที่เล็กลง บทความนี้เราจะมาดูภาพใหญ่กันก่อนว่ามันมีลักษณะอย่างไร ซึ่งเราจะค่อยไปลงในส่วนของรูปแบบย่อยในตอนต่อไป
1
🟠Motive Wave
Motive Wave คือ รูปแบบคลื่นที่มีทิศทางไปกับเทรนด์ที่เกิดขึ้น
|---🟨 Impulse wave
Impulse wave คือ คลื่นที่จะวิ่งไปตามเทรนด์ จะมี 5 คลื่นหลักคือ 1, 2, 3, 4 และ 5 ตามลำดับ (ดูรูปประกอบ)
1
ซึ่งใน Impulse wave ใหญ่นั้นก็จะมี Corrective wave ย่อยอยู่ด้วย โดยจะอยู่ในส่วนของคลื่นที่ 2 และ 4 เราจะเห็นได้ว่าจะมีการนับแบบ Corrective wave ซึ่ง มี A, B และ C จากนั้นค่อยขึ้นคลื่นใหม่โดยนับ 1-5 แต่มีข้อสังเกตว่า
🔹 คลื่นที่ 2 ต้องลงไปไม่ต่ำกว่าคลื่นที่ 1 ไม่อย่างงั้นรูปแบบคลื่นนี้ก็จะยังไม่ถูกต้อง
🔹 คลื่นที่ 3 ต้องไม่สั้นที่สุดในบรรดา 5 คลื่นนี้
🔹 คลื่นที่ 4 มักจะย่อลงมาไม่เกินยอดของคลื่นที่ 1
1
และเราสามารถนำ Fibonacci มาใช้หาเป้าการย่อตัว และเป้าในอนาคตได้คร่าวๆ ซึ่งจะอธิบายในตอนต่อๆไป
1
|---🟨 Wave Extensions
Wave Extensions คือ คลื่นที่ขยายออกมา เกิดจากการมีแรงผลักดันหรือกระตุ้นให้เกิดขึ้น ส่วนใหญ่จะเกิดกับ Impulse wave สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งใน คลื่นที่ 1, 3 และ 5 เป็นคลื่นที่สามารถหลอกเราหรือทำให้เราสับสนได้
|---🟨 Diagonal Waves
Diagonal Waves คือคลื่นที่วิ่งตามเทรนด์เช่นเดียวกับ Impulse wave แต่จะต่างกันตรงที่ Diagonal Waves จะมีลักษณะการขึ้นแบบรูปสามเหลี่ยมค่อยๆไต่ไปตามเทรนด์ อาจมีลำดับคลื่นย่อยเป็น 3-3-3 หรือ 5-3-5
2
🔹 หาก Diagonal Waves เกิดต้นเทรนด์ จะเรียกว่า Leading จะเกิดในคลื่นที่ 1 ของ Impulse wave
🔹 หาก Diagonal Waves เกิดปลายเทรนด์ จะเรียกว่า Ending จะเกิดในคลื่นที่ 5 ของ Impulse wave
🔹 คลื่นที่ 4 ต้องทับซ้อน(Overlap) กับคลื่นที่ 1
🟠 Corrective Wave
Corrective wave คือ รูปแบบคลื่นที่สวนทางกับเทรนด์ที่เกิดขึ้น
1
|---🟨 ZigZag Corrections
ZigZag Corrections คือ คลื่นที่มีการขึ้นลงไปมาตามชื่อเลย ซึ่งก็จะมีการนับคลื่นเป็น A, B และ C ตามลำดับ มีลำดับคลื่นย่อย 5-3-5 โดยมีเงื่อนไขว่า
🔹 คลื่น A ต้องมีการถอยกลับ (Retracement) จากคลื่นก่อนหน้า ไม่เกิน 61.8%
🔹 คลื่น B ต้อง Retracement จากคลื่น A ไม่เกิน 61.8%
🔹 คลื่น C ต้องต้องต่ำกว่าคลื่น A เสมอ
3
จริงๆแล้วประเภทของ ZigZag มีแยกย่อยอีกเป็น 3 ประเภทคือ Normal, Truncated และ Elongated ซึ่งก็รอติดตามในตอนต่อๆไป
1
|---🟨 Flat Corrections
Flat Corrections จะมีลักษณะคล้าย ZigZag Corrections แต่คลื่น C จะไม่ได้ลงไปต่ำกว่าคลื่น A และคลื่น B จะขึ้นไปในอัตราส่วนที่เท่าๆกันกับคลื่น A มองง่ายๆเหมือนธงที่มีเสาด้านซ้าย และกรอบคลื่นเป็นเส้นตรงรูปสี่เหลี่ยม
🔹 คลื่น B ต้อง Retracement จากคลื่น A มากกว่า 61.8%
🔹 คลื่น C ต้องมีการลงมาจากจุดเริ่มต้นของคลื่น A มากกว่า 38.2%
🔹 คลื่น C ต้องมีการลงมาจากคลื่น B มากกว่า 33.33%
หากตรงตามเงื่อนไขด้านบน เราถึงจะนับคลื่น C ได้ และกราฟจะพุ่งต่อไป ส่วนจะพุ่งแรงแค่ไหนนั้น มันจะมีแยกย่อยไปอีกโดยดูจากคลื่น B จะได้เป็น Strong b, Normal b, Weak b และเช่นเดิม...จะอธิบายในตอนต่อๆไป
1
|---🟨 Horizontal Triangles
Horizontal Triangles คือรูปแบบคลื่นที่เกิดในกรอบสามเหลี่ยม ลักษณะ Sideway คล้ายกับ Chart pattern สามเหลี่ยม โดยมีคลื่น A, B, C, D และ E ตามลำดับ ภายในจะมีคลื่นย่อยเป็น a, b และ c
2
หากคุณยังไม่รู้จักรูปแบบกราฟสามเหลี่ยม สามารถอ่านได้ที่นี่ 👇
สำหรับใน Elliott Wave เราจะแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ
1. Contracting Triangle มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมปลายปากปิด
2. Expanding Triangle มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมปลายปากเปิด
🔹รูปแบบ Triangles ภายในจะมี 5 คลื่นใหญ่ และ คลื่นย่อย 3 คลื่นเท่านั้น
1
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบอื่นๆอีก ซึ่งมันจะเริ่มซับซ้อนขึ้น แต่เราลองทำความเข้าใจรูปแบบหลักๆนี้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นงงกว่าเดิม (แค่นี้ก็งงอยู่แล้ว แฮ่!)
ลองไปศึกษาเพิ่มเติมดูเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
และรอติดตาม Elliott Wave ตอนที่2 กันได้น้า
*Update
📓 Elliot Wave ตอนที่ 2
📓 Elliot Wave ตอนที่ 3
📓 Elliot Wave ตอนที่ 4
โฆษณา