🐔 ไก่คว้าชัยเปิดฤดูกาล: กลยุทธ์โจมตี แมนฯ ซิตี้ ของ นูโน่ ในแบบฉบับเดียวกับ ทูเคิล
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นฤดูกาล 2021/22 ในแบบเดียวกับที่พวกเขาปิดฉากฤดูกาลที่แล้ว นั่นก็คือความพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 0-1
เกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่พวกเขาเพลี่ยงพล้ำต่อ ท็อตแน่ม อาจไม่ได้น่าเจ็บใจเหมือนกับตอนที่แพ้ให้ เชลซี ในนัดชิง แชมเปี้ยนส์ลีก แต่รูปทรงของเกมมันก็เป็นไปในแบบเดียวกัน จากการที่คู่แข่งขึ้นเกมโดยที่ไม่ได้เน้นการครองบอล โดยมีความแตกต่างกันในรายละเอียด ทีมของ โธมัส ทูเคิล ใช้ระบบ 3-4-3 ซึ่งต่างออกไปจากระบบ 4-3-3 ของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ กับเกมแรกของเขาในฐานะกุนซือ สเปอร์ส อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งการยืนของตัวรุก 3 คนถือว่าน่านำมาวิเคราะห์
ย้อนไปในเกมที่ปอร์โต้ ทูเคิล ได้บอกให้ตัวรุกทั้ง 3 คนของเขาพยายามรักษาตำแหน่งการยืนบริเวณช่องแคบ และบล็อคจังหวะจ่ายใด ๆ ก็ตามที่ผ่านเข้ามาตรงกลางสนาม ตามที่แสดงให้เห็นในภาพ ซึ่งส่งผลใหญ่หลวงต่อการขึ้นเกมของ ซิตี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้อนบอลเข้ามาที่ตำแหน่งมิดฟิลด์
คุณอาจเดาได้ว่า นูโน่ รับชมเกมนี้อยู่หลายครั้งก่อนที่เขาจะตัดสินใจวางแท็กติกในเกมเมื่อสุดสัปดาห์ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตำแหน่งการยืนของตัวรุก 3 คนของเขานั้นถือว่าร้ายกาจยิ่งกว่า ด้วยการที่ทีมต้องขาด แฮร์รี่ เคน ทำให้ ซน ฮึงมิน ถูกขนาบข้างด้วย ลูคัส มูร่า ทางฝั่งขวา และ สตีเว่น เบิร์กไวน์ ทางฝั่งซ้าย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทั้ง 3 คนยืนหุบเข้ามาตรงกลางด้วยซ้ำไป หากจะลองยึดวงกลมกลางสนามเป็นหลักแล้วก็จะเห็นว่าพวกเขายืนห่างกันไม่เกิน 20 หลา
นี่คือแนวทางการเล่นของ ท็อตแน่ม ตลอดทั้งเกม ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าพูดถึงอยู่มากมาย
อย่างแรกคือมันเห็นได้ชัดว่านี่เป็นแท็กติกที่วางมาอย่างรอบคอบ นูโน่ ตั้งใจใช้ผู้เล่น 3 คนที่โดยปกติแล้วไม่ได้ยืนตรงกลางสนามเป็นหลัก และปรับวิธีการเล่นให้เหมาะสมกับพวกเขา มูร่า กับ เบิร์กไวน์ นั้นเป็นปีกธรรมชาติ ขณะที่ ซน ก็ยืนทางด้านข้างเป็นส่วนใหญ่ในการค้าแข้งกับ ท็อตแน่ม ดังนั้นนี่คือการรวมตัวกันของผู้เล่นริมเส้นที่มากระจุกกันอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ ตรงกลางสนาม
อย่างที่สองเป็นเรื่องของตำแหน่งที่ต่ำลงไป แผนการของ นูโน่ นั้นจะต้องมาจากความไว้เนื้อเชื่อใจฟูลแบ็คของเขาเป็นอย่างมาก จาเฟต ทันกันก้า เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในการไล่บี้กับ ราฮีม สเตอร์ลิง (แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาโชคดีอยู่หน่อย ๆ ที่ไม่ถูกจดชื่อจากการทำฟาวล์หลายครั้ง ซึ่งนั่นจะทำให้เขาเล่นยากขึ้นเยอะ) ที่น่าแปลกก็คือปีกขวาของ สเปอร์ส อย่าง มูร่า นั้นไม่ได้รับมอบหมายให้ไล่ตาม เบนฌาแม็ง เมนดี้ แบ็คซ้ายของ ซิตี้ เลย
ดังนั้นหน้าที่ตรงนี้จึงตกเป็นของมิดฟิลด์ตัวกลางฝั่งขวาอย่าง ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก เมื่อใดก็ตามที่เขาดันขึ้นมาหา เมนดี้ เขามักจะทิ้งพื้นที่เอาไว้ให้ แจ็ค กรีลิช ได้เล่น ซึ่งถือว่าเป็นแท็กติกที่ตรงกันข้ามกับที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ใช้ในการเผชิญหน้ากับ ซิตี้ เมื่อฤดูกาลที่แล้วโดยสิ้นเชิง โดยในครั้งนั้น ฮอยเบิร์ก และ มูสซ่า ซิสโซโก้ จะถอยลงต่ำไปตั้งรับเพื่อบีบพื้นที่ว่างให้เหลือน้อยที่สุด
อย่างที่สาม ตัวรุกของ สเปอร์ส เล่นงานแผงแบ็คโฟร์ของ ซิตี้ ในแบบที่พวกเราต่างก็คาดว่าจะเป็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มักจะใช้ฟูลแบ็คคนหนึ่งประสานงานกับฮาล์ฟแบ็ค หรือไม่ก็ดันขึ้นไปตรงกลางสนาม แต่ในเกมนี้ทั้ง ชูเอา คันเซโล่ และ เมนดี้ ต่างก็พะวงกับการปิดพื้นที่หลังบ้าน ทำให้มีระยะห่างเพิ่มขึ้นกับปีกของ ซิตี้
บางทีเกมนี้อาจเป็นการดวลกันของแนวรับที่ยืนปิดช่องมากที่สุดกับแนวรุกที่ยืนชิดกันมากที่สุดเท่าที่คุณเคยเห็นเลยก็ได้ สเปอร์ส ต้องการคุมเกมกลางสนาม เพราะพวกเขารู้ดีว่า ซิตี้ จะขึ้นเกมจากแนวรับผ่านพื้นที่ตรงนั้น ขณะที่ กวาร์ดิโอล่า ก็ให้แนวรับทิ้งช่องว่างเอาไว้น้อยมาก เพื่อป้องกันไม่ให้คู่แข่งได้มีพื้นที่โจมตี ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยิ่งจำเป็นมากขึ้นเมื่อแนวรุกคู่แข่งเองก็ยืนชิดกันด้วย
มันน่าตลกดีเหมือนกันที่ ซิตี้ วางแผนมาเพื่อหยุดเกมสวนกลับเร็ว แต่สุดท้ายพวกเขากลับถูกโจมตีแบบนี้ตลอดทั้งเกม กวาร์ดิโอล่า โทษว่าผู้เล่นของเขารีบร้อนจ่ายบอลในจังหวะยาก ๆ รวมถึงเสียบอลกันง่ายเกินไปด้วย ด้วยเหตุนี้เขาจึงมองว่าการตั้งเกมรับแบบปิดพื้นที่ให้เหลือแคบที่สุดเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่าที่เคย แต่ สเปอร์ส ก็สามารถหาช่องเจาะตรงกลางสนามได้อยู่ดี อย่างเช่นจังหวะนี้ที่ขึ้นเกมมาโดย เบิร์กไวน์ แผงแบ็คโฟร์ของ ซิตี้ ยังคงยืนตำแหน่งกันได้ดี แต่ข้างหน้าพวกเขา แฟร์นันดินโญ่ ถูกพาบอลผ่านได้ง่ายเกินไป
ตัวอย่างถัดไป เมนดี้ หลุดออกไปจากเฟรม และ สเปอร์ส ก็ได้เปิดเกมบุกมาแบบดวลสามต่อสาม แผงหลังของ ซิตี้ แก้ไขสถานการณ์กันได้ดีด้วยการถอยลงมาตั้งรับและปิดช่อง อย่างไรก็ตาม จังหวะนี้ ซน ก็น่าจะเลือกจ่ายให้เพื่อนมากกว่ายิงเอง
จังหวะขึ้นเกมคล้ายกันนี้เกิดขึ้นอีกครั้งหลังพักครึ่ง คราวนี้จบลงที่การเป็นประตูของ ท็อตแน่ม แผงหลังทีมเรือใบสีฟ้ายืนชิดกันอย่างเหนียวแน่น อย่างน้อยก็มากกว่าที่เคยเป็นตอนที่ฟูลแบ็คคอยวิ่งโอเวอร์แลปขึ้นไปทางริมเส้น แต่สุดท้าย เบิร์กไวน์ ก็มองหาพื้นที่บริเวณกลางสนามเจอ
ในแง่ของการครองบอลแล้ว ซิตี้ ดูตื้อตันไปหมดตอนพยายามขึ้นเกมจากแดนหลัง โดยสำหรับ เมนดี้ นี่ถือว่าเป็นเกมที่แย่มาก อาจเป็นไปได้ว่าสาเหตุมาจากความเร็วของเขาเมื่อเทียบกับแนวรุก ท็อตแน่ม เขาดูเล่นไม่ค่อยสะดวกนักเมื่อต้องบีบพื้นที่ให้แคบ สุดท้ายเลยกลายเป็นว่า โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ คือตัวเลือกที่ดีกว่า
มองในแง่ดีกันบ้าง นักเตะที่โดดเด่นของทีมเรือใบสีฟ้าก็คือ คันเซโล่ ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถเล่นตำแหน่งฟูลแบ็คด้วยบทบาทที่แตกต่างออกไป เขาสามารถวางบอลทะลุแนวรับคู่แข่งในแบบเดียวกับ เควิด เดอ บรอยน์ ได้ด้วยจากพื้นที่ฝั่งขวาด้านใน...
... นอกจากนี้ก็ยังสามารถโอเวอร์แลปขึ้นหน้าก่อนจ่ายบอลต่ำจากริมเส้นได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจังหวะนี้พลาดเป้าหมายคือ เฟร์รัน ตอร์เรส ไปแค่นิดเดียว
สิ่งที่น่าจับตามองอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ก็คือการคืนทีมแบบเต็มตัวของ เดอ บรอยน์, การมีส่วนร่วมกับเกมของ กรีลิช และข่าวลือของ เคน ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ กวาร์ดิโอล่า จะต้องครุ่นคิดอย่างหนักก็คือตำแหน่งการยืนผู้เล่นแนวรับของเขา
สัปดาห์หน้าที่พวกเขาจะเปิดบ้านเจอกับ นอริช น่าจะไม่ใช่เกมที่มีปัญหามากนัก แต่หลังจากนั้นก็จะเป็นการเผชิญหน้ากับทีมอย่าง อาร์เซน่อล, เลสเตอร์, เซาธ์แฮมป์ตัน, เชลซี และ ลิเวอร์พูล ซึ่งดูเป็นงานที่หนักขึ้นเยอะ ซิตี้ จะต้องฟื้นตัวจากการเปิดฤดูกาลที่เชื่องช้านี้ให้ได้ โดยครั้งนี้อาจท้าทายมากกว่าเดิมด้วย
ขณะที่ทางฝั่ง นูโน่ นี่คือฟอร์มการเล่นนัดเปิดฤดูกาลในอุดมคติ ทุกอย่างเข้าทางหมดทั้งเรื่องแท็กติก แนวทางการเล่นซึ่งแตกต่างออกไปจากกุนซือคนก่อนหน้าที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก และแน่นอน ทีมได้รับชัยชนะด้วย
(เรียบเรียงจากบทความ How Nuno repeated Tuchel’s trick by using narrow attack to beat Manchester City
เขียนโดย ไมเคิล ค็อกซ์ ลงในเว็บไซต์ theathletic.com เมื่อ 17 สิงหาคม 2021
เรียบเรียงโดย ณัฐดนัย เลิศชัยฤทธิ์)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
