18 ส.ค. 2021 เวลา 11:42 • ธุรกิจ
หมวก 9 ใบกับการสร้างธุรกิจ Coaching-Training
“คุณอยากจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไหม?” นี่เป็นคำถามที่ทุกคน
ก็น่าจะให้คำตอบว่า “ใช่ อยากจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
“อยากประสบความสำเร็จ” อย่างแน่นอน และการพัฒนาตัวเอง
คือสิ่งที่จะช่วยยกระดับชีวิตให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ มิติ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อารมณ์ ความรัก ครอบครัว การเงิน ฯลฯ
ในเมื่อมีความต้องการเกิดขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนักที่จะมี “อาชีพ”
เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น หลายคนอยากเป็น หรือ
เลือกที่จะผันตัวมาเป็นโค้ช ศึกษาอย่างเข้มข้น ฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังจะใช้ความรู้เหล่านี้มาประกอบอาชีพที่สามารถยกระดับชีวิตผู้อื่นได้
แต่สิ่งที่มักจะพบเห็นได้คือ โค้ชที่ยอดเยี่ยมและมากความสามารถหลายๆ คน ไม่สามารถเปลี่ยนทักษะเหล่านี้ให้กลายเป็นอาชีพจริงๆ ได้ นั้นเป็นเพราะว่า โค้ชเหล่านั้นยังสวม “หมวกโค้ช” เพียงแค่ใบเดียว ซึ่งหมวกใบนี้จะทำให้โค้ชเหล่านี้ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม แต่โค้ชจะไม่สามารถเปลี่ยนทักษะเหล่านี้ให้กลายเป็นธุรกิจได้เลยถ้าหากว่าขาด
“หมวกผู้ประกอบการ” ไป
ดังนั้นหากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการสวม “หมวกผู้ประกอบการ”
เพื่อสร้างธุรกิจการโค้ชให้มั่นคง และเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
คุณต้องการ “หมวก” ใบอื่นๆ อีก บทความนี้จะอธิบายถึง “หมวก”
ใบอื่นอีก 9 ใบที่คุณต้องเข้าไปสวม และเปลี่ยน Mindset ของตัวเอง
จาก “โค้ช” ให้กลายเป็น “ผู้ประกอบการ”
1. #หมวกMarketing
คำถามแรกที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจคงจะหนีไม่พ้น
“หาลูกค้าจากไหนดี” ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนเลยว่า ลูกค้ามีอยู่ 2 ประเภท
คือ ลูกค้าที่รู้จักเราเป็นคนใกล้ตัวเรา (Warm Contact) และลูกค้าที่ไม่รู้จักเรา ไม่เคยเห็นหน้าเรามาก่อน (Cold Contact) หลายๆ คนมักจะหันไปหา
Warm Contact ก่อนเป็นอันดับแรก พอไปได้ไม่นานลูกค้าเหล่านี้หมดลง
จะหวังให้เกิดโฆษณาปากต่อปากเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ ดังนั้นโจทย์คือ
จะเปลี่ยน Cold Contact ให้กลายมาเป็น Warm Contact ได้อย่างไร
การเปลี่ยน Cold Contact มาเป็น Warm Contact ถ้าพูดกันตามภาษาง่ายๆ ก็คือ “เราจะทำให้เขามารู้จักเราได้ยังไง” คำตอบง่ายๆ ถ้าคุณอยากให้คนรู้จักคุณ อยากให้คนสนใจในความสามารถของคุณ หลักการง่ายๆคือ “Give First“ คุณต้องให้ก่อน ให้ข้อมูลที่คุณมี หากว่าข้อมูลเหล่านั้นเป็นประโยชน์และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ ลูกค้าเหล่านั้นก็จะเริ่มสนใจคุณเอง โค้ชหลายๆ คน อาจจะแคลงใจที่จะให้ข้อมูลหรือเผยความรู้,ทักษะที่ตัวเองมีเพราะ “กลัวคนรู้แล้วจะไม่ซื้อ”
หยุดความคิดที่จะกั๊กข้อมูล ความคิดที่จะวางตัวเองเป็นคมในฝักได้แล้ว
เพราะคนที่อยากพัฒนาวิ่งหาข้อมูลทั้งนั้น ถ้าคุณยังกลัว และไม่กล้าที่จะให้ข้อมูลเหล่านี้ คุณจะถูกคู่แข่งที่พร้อมจะให้ข้อมูลเหล่านี้ก่อน ดึงความสนใจของลูกค้าออกไปจากคุณอย่างแน่นอน จะเห็นได้ว่า Media Online คือสิ่งที่ผู้ประกอบการหลายๆ คนใช้เป็นเครื่องมือในการทำการตลาด เพราะฉะนั้นจงให้ไปเรื่อยๆ ให้เพื่อที่จะให้คนสนใจเรา เพราะยุคนี้
Attention is Currency ถ้าผู้คนได้ประโยชน์จากสิ่งที่คุณให้ เห็นคุณค่าจากข้อมูลของคุณ เขาเหล่านั้นจะให้ความสนใจกับคุณเอง
2. #หมวกSales
ถ้า Marketing ของคุณได้ผล เข้าถึงผู้คนได้มาก จะมีผู้สนใจติดต่อ
เข้ามาหาคุณมากกว่าที่คุณคนเดียวจะบริการลูกค้าทั้งหมดได้แน่นอน
ดังนั้นทีม Sales / Admin เป็นทีมที่คุณจะขาดไม่ได้เลย หลายๆ ครั้ง
ลูกค้าของคุณอาจจะไม่ได้ตัดสินใจซื้อตั้งแต่ครั้งแรก ทีม Sales / Admin
เหล่านี้จะเป็นคนที่คอยติดตามดูแลกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ของคุณ ด้วยศิลปะ
การพูดคุย การผูกสัมพันธ์ที่เหมาะสม และการปิดการขายที่มีประสิทธิภาพ
โค้ชหลายคนมองข้ามการปิดการขายที่ดีไป เพราะทะนงในตัวเองว่า
“Content ของฉันดีอยู่แล้ว คนก็ต้องสนใจแล้วก็ซื้อสิ” แต่หลายๆ ครั้ง
แค่ความสนใจอย่างเดียว ไม่ได้ทำให้ตัดสินใจซื้อ ถ้าคุณไม่มีศิลปะ
การปิดการขายที่ดี คุณจะแพ้คู่แข่งที่ทำ Content ให้คุณค่าได้พอๆ
กับคุณแต่ปิดการขายได้ดีกว่า
ดังนั้นทักษะต่างๆ ในการปิดการขาย การสังเกต และตัดสินให้ขาด
ว่าลูกค้าแต่ละคน ต้องการสินค้าแบบไหน คุณจะใช้วิธีสื่อสารแบบใด
และคุณจะจบบทสนทนาเพื่อให้เกิดการขายได้อย่างไร เป็นทักษะที่คุณ
ควรจะศึกษา ฝึกฝน และถ่ายทอดให้ทีมของคุณ
3. #หมวกBranding
เมื่อมีผู้สนใจ มีทีมที่สามารถปิดการขายได้ เท่ากับว่ามีลูกค้าเข้ามาเห็น
มารู้จักคุณมากขึ้น คำถามต่อมาที่คุณควรจะคิดให้ดีคือ “คุณอยากจะให้
ผู้อื่นจำคุณอย่างไร” หรือก็คือ Branding นั่นเอง ดังนั้นตัดสินให้ชัดเจนว่า
คุณอยากให้คนอื่นติดตามคุณเพราะอะไร เป็น Branding แบบไหน
Co-Operate Branding / Personal Branding ฯลฯ
การวาง Branding ให้ชัดเจนประกอบไปด้วยหลากหลายองประกอบทั้ง
Font โทนสี Mood&Tone เสียงเพลง แค่ประกอบเหล่านี้จะรวมมาเป็น
Character ที่คุณต้องการให้ผู้คนเห็น ว่า Brand ของคุณเป็นแบบไหน
มีเสน่ห์อะไร เช่น ก้าวร้าว แสดงความเห็นรุนแรง / อ่อนโยน ให้กำลังใจ
หรูหรา มีระดับจับต้องยาก / เป็นกันเอง เข้าถึงง่าย ฯลฯ ทั้งหมดนี้
คือการวางจุดยืนของ Brand คุณ และเป็นแนวทางให้ทีมของคุณ
ปฏิบัติกับกลุ่มลูกค้าไปในทางเดียวกัน
4. #หมวกCRM
นอกจากหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น สามารถทำให้ลูกค้าเก่าซื้อซ้ำได้หรือไม่
ลูกค้าเก่าจะซื้อซ้ำต่อเมื่อคุณมีสินค้าอื่นๆ ที่ลูกค้ากลุ่มเดิมเห็นคุณค่าได้
และคุณมีการดูแลและบริการที่ดี ดังนั้นหมวก CRM
จึงเป็นหมวกอีกหนึ่งใบที่คุณต้องให้ความสำคัญ
การจัดการข้อมูลลูกค้าที่ดี ทำให้คุณสามารถจัดการและวางแผน
กับทีม Sales ได้ว่าลูกค้ากลุ่มไหน สนใจสินค้าแบบใด จะทำให้คุณ
สามารถวางสินค้าตัวต่อไป ที่ต่อยอดคุณค่าที่ลูกค้าคุณเคยได้รับ
และประทับใจกับ เช่น ถ้าคุณทำสัมมนาสอนให้ผู้คนรู้จัก
และจัดการตัวเองได้ ลูกค้าคุณประทับใจและมี Feedback
กลับมาว่า “ถ้าอยากจะใช้วิธีเหล่านี้กับคนอื่น ได้ไหม?”
คุณอาจจะทำสัมมนาต่อไปที่มีเนื้อหาเหล่านั้นก็ได้
นอกจากนี้ยัง ทำให้คุณสามารถดูแล และสร้างความประทับใจ
ให้ลูกค้าเดิมได้ เช่น ถ้าเป็นลูกค้า VIP ของคุณ ในวันเกิดของลูกค้า
คุณดูแล และให้ความสำคัญกับวันเกิดนั้นอย่างไรบ้าง? นี่ก็เป็นโอกาส
ที่จะสร้างความประทับใจกับกลุ่มลูกค้าที่เห็นคุณค่าในสินค้าของคุณได้
ดังนั้นการมีปฏิสัมพันธ์ และติดต่อกับกลุ่มลูกค้าของคุณอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ
5. #หมวกResearch&development พัฒนาสินค้า
เมื่อมีระบบ CRM ที่ดี แน่นอนว่าคุณจะเห็นการตอบรับของลูกค้า
ที่มีต่อสินค้าต่างๆ ของคุณ แน่นอน ดังนั้นเรื่องต่อมาที่ต้องทำคือ
ศึกษาและพัฒนา หลายๆคนทำการสินค้า ขึ้นมาให้ตัวเองพอใจว่า
“ฉันทำเรื่องนี้ ด้วยวิธีนี้ ดีที่สุดแล้ว” บางคนรู้ตัว บางคนไม่รู้ตัว
สังเกตตัวเองดีๆ ว่าคุณกำลังทำสินค้าบางอย่าง เพื่อให้ตัวเอง
พอใจอย่างเดียวหรือไม่ วิธีสังเกตง่ายๆคือ ถ้าคุณเห็น Feedback
ทางลบจากลูกค้า หรือได้รับคำแนะนำจากลูกค้าแล้วคุณไม่พอใจ
นั่นคือคุณกำลังทำสินค้าเพื่อเอาใจตัวเองอยู่ หยุดความคิดนั้นได้เลย
เพราะสินค้าที่คุณทำ คุณทำเพื่อบริการลูกค้าไม่ใช่ตัวคุณเอง
ดังนั้นวาง EGO ของคุณลงแล้วหันมาใช้ข้อมูลที่ลูกค้าตอบกลับ
มาปรับปรุง และแก้ไขให้เกิดประโยชน์สูงสุด
6. #หมวกHumanResource
หลังจากที่สวมหมวกมาหลายใบแล้ว สิ่งที่คุณจะสังเกตได้คือ
ทั้งหมดนี่คุณจะทำเองทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้นคุณจะต้องมีทีมที่ดี
และแข็งแรง และถ้าคุณอยากได้ทีมที่ดี คุณก็ต้องดูแลทีมคุณให้ดี
ดังนั้นหมวก HR นี้เป็นอีกเรื่องนึงที่ขาดไม่ได้ และแน่นอนว่า
เมื่อทำงานกับคน การบริหารย่อมมีรายละเอียดมากมาย
- เงินเดือน : คุณให้ผลตอบแทนเท่าเทียมกับเนื้องานและความสามารถ
- เวลาทำงาน : เหมาะสม มีเวลาพัก มีสวัสดีการวันหยุดตามกฏหมาย
- ระเบียบขององค์กร : ชัดเจน ครอบคลุม และยุติธรรมต่อทีมงานทุกคน
- KPI : ประเมินผลการทำงาน เพื่อใช้พิจารณาการเพิ่มเงินเดือน
เพิ่มสวัสดิการต่างๆ
- Job Description : เนื้อหางานชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
และทำให้กระจายงานได้ดี
- การจัดจ้าง : เลือกคนให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน ทั้งใน ด้านบุคลิก ความสามารถ ฯลฯ
- การพัฒนาบุคลากร : ปิดจุดด้อย ดันจุดเด่น ให้ทีมงานมีความสามารถเพิ่มขึ้น พร้อมรับกับความท้าทายใหม่ๆ ด้วยการใช้วิธีที่ต่างกันให้เหมาะสมกับทีมงานแต่ละคน
ถ้าคุณสามารถจัดการสิ่งเหล่านี้ให้ดี ทีมงานของคุณจะเป็นทีมที่แข็งแรง
เป็นระบบ มีคุณภาพ ทำให้ธุรกิจคุณเติบโตได้ง่าย ทีมงานที่ทำงานดี
ก็คู่ควรกับรางวัลที่เหมาะสมตามโอกาส และเมื่อองค์กรเติบโตขึ้น
วัฒนธรรมที่ดีก็จะเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นหากคุณอยากให้ทีมคุณทำงานดี
ได้พัฒนาตัวเอง ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี คุณควรจะศึกษา และจัดหาบุคลากร
ที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ดีเพื่อมาดูแลทีมของคุณ
7. #หมวกการบัญชี
ถึงตรงนี้ น่าจะเป็นจุดที่คุณเห็นได้ชัดแล้วว่า คุณไม่ใช่โค้ช Freelance
ไม่ใช่ธุรกิจ SME มีคนเดียว ทำอะไรง่ายๆ เหมือนเดิมแล้ว คุณมีทีมงาน
มีลูกค้ามากขึ้น มีกำไรมากขึ้น การจัดตั้งบริษัทให้ถูกต้องคือ สิ่งที่นอกจาก
จะทำให้ลูกค้าคุณไว้วางใจแล้ว ทีมงานของคุณก็จะสบายใจในการทำงานกับคุณด้วย และเมื่อจัดตั้งบริษัท สิ่งที่คุณจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือเรื่อง ภาษี เพราะฉะนั้นการศึกษาหาความรู้ด้านการบัญชี และบุคลากรทางบัญชีที่มีความสามารถจัดการภาษีและไว้ใจได้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในองค์กร
8. #หมวกFinance
ทุกคนเข้าใจดีว่า ธุรกิจอยู่ได้ด้วยเงิน ดังนั้นคงจะเข้าใจกันดีอีกเช่นกันว่าการบริหารรายรับ
– รายจ่ายเป็นเรื่องสำคัญมากแค่ไหน รายรับรายจ่ายหลักๆที่ทุกคนมักจะคำนึงถึงก็จะมี
- สินค้าตัวนี้ทำกำไรเท่าไหร่? มีต้นทุนเป็นอะไรบ้าง และใช้เยอะไหม?
- ค่าเช่าสถานที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน หรือสถานที่จัดสัมมนา
- ค่าอุปกรณ์สำนักงาน ทั้งจัดซื้อใหม่ และบำรุงรักษา
- เงินเดือนพนักงาน เป็นต้น
เมื่อบริษัทคุณโตขึ้น ลูกค้าเยอะขึ้น ทีมงานเพิ่มขึ้น Cost จุกจิกต่างๆ นอกจากต้นทุน
– กำไร ของสินค้าก็จะเกิดมากขึ้นตามไปด้วย เช่น
- งบประมาณสำหรับดูแลลูกค้า VIP
- งบประมาณสังสรรค์ของทีมงาน (กินเลี้ยง / Company trip / วันเกิด)
ดังนั้น นอกจากจะต้องจัดการเรื่องบัญชีภาษี ให้ถูกต้อง ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
ที่เป็นค่าใช้ข่ายยิบย่อยเหล่านี้ต้องชัดเจน ดังนั้นการบริหารการเงินเพื่อสร้าง Cashflow ที่ดีจะทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้โดยที่ไม่สะดุดกับปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย วางกลยุทธที่ทำเงินได้มากที่สุด ประหยัดที่สุด และคุ้มค่าที่สุดสุด
9.#หมวกCEO
ถ้าคุณเป็นโค้ชที่อยากจะเปลี่ยนมาเป็นผู้ประกอบการ
คุณจำเป็นจะต้องสวมหมวกทุกใบที่อธิบายมาทั้งหมดก่อนหน้านี้
หมายความว่า คุณจะต้องรู้เกี่ยวกับเนื้อหาของส่วนต่างๆ
ในองค์กรของคุณเองทั้งหมด เพื่อที่คุณจะสามารถบริหารจัดการ
สอนและพัฒนาทีมงานในตำแหน่งต่างๆได้ นอกจากเนื้อหางานในส่วนต่างๆขององค์กรแล้ว CEO ที่ดี จะต้องรู้ว่าโตอย่างไร กล้าวางกลยุทธให้ชัด
ตัดสินการใช้งบประมาณ วิเคราะห์ต้นทุนและกำไรอย่างไร และที่สำคัญคือ
จ้างคนที่มีความสามารถ ยุติธรรม มีภาวะผู้นำที่มากพอและนิสัยเข้ากับ
ทีมงานของคุณได้ ให้มายืนในตำแหน่ง CEO แทนคุณ และเมื่อคุณทำ
กระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว คุณได้สร้าง Automation หรือคุณได้
สร้างระบบธุรกิจที่สามารถเดินหน้าต่อไปโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วม
กับทุกอย่างตลอดเวลา คุณจะเป็นผู้บริหารที่มีดูกระแสเงินว่าเป็นอย่างไร
รับฟังและช่วยในตัดสินใจต่างๆ ร่วมกับทีมบริหารของคุณ
ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่าการจะสร้าง Automation ที่ดีคุณจะต้องเก่งเรื่องงาน คุณต้องเก่งเรื่องคนมากๆ และคุณต้องแม่นยำในเรื่องระบบ
จึงจะประกอบกันออกมาเป็นธุรกิจที่สามารถโตได้ด้วยตัวเอง
หมวกทั้งผู้ประกอบการทั้งหมดนี้ เมื่อวิเคราะห์ออกมาแล้วจะเห็นได้ว่า
ไม่ได้มีข้อจำกัดแค่อาชีพโค้ช หรือ เทรนเนอร์เท่านั้น
แต่เป็นหมวกสำหรับผู้ที่อยากจะผันตัวเองจากกาเป็น SME มีคนเดียว
ทำอะไรง่ายๆ แต่เติบโตได้จำกัด มาเป็นบริษัท เป็นองค์กรที่มีทีมงาน
มีระบบ ถ้าคุณเลือกที่จะสวมหมวกผู้ปประกอบการแล้ว คุณต้องกล้า เด็ดขาด ให้กำลังใจทีมเป็น พัฒนาทีมได้ เดินหน้าอย่างต่อเรื่อง ลุกขึ้นได้เสมอ
สร้าง Connection ที่ดี หา Partner ที่ให้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน
วางทิศทางบริษัทให้ชัด วางกลยุทธที่ชัดเจน ทั้งหมดนี้ จะทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไป และโตได้โดยที่ไม่มีคุณอยู่ในนั้น
โฆษณา