แฟชั่นกับความเจ็บปวด ….ลม ความเย็น ความชื้นกับอาการปวดข้อ??
Q: ***รู้ไหมว่าสิ่งมีชีวิตที่ทนหนาวได้มากที่สุดในโลกคืออะไร???
A: คำตอบก็คือ….ผู้หญิงนั่นเอง เผื่อความสวยงามแล้ว พวกเทอสามารถใส่แค่ถุงน่องบางๆหรือถุงเท้าสั้นๆในสภาวะอุณหภูมิติดลบได้ ถึงแม้พวกกายของเทอจะสั่นสำท้านก็ตาม แต่ใจของพวกเทอนั้นบอกว่าไม่หนาว หลายคนที่เคยไปต่างประเทศ มักจะเห็นสาวๆสวยๆใส่เสื้อกันหนาวครึ่งบนหนาๆ แต่ช่วงขากลับใส่แค่กระโปรงสั้นๆเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่น เพราะมันแลกมาด้วยความสวยนั่นเอง
Q: ***เคยสังเกตมั้ยว่าทำไมผู้หญิงญี่ปุ่น เกาหลีที่อายุมากมักแต่งตัวมิดชิด ในขณะที่ช่วงสาวๆพวกเทอมักใส่กระโปรงสั้นกับถุงเท้าใต้เข่ากัน??
A: เมื่อไปสัมภาษณ์ผู้หญิงเหล่านี้ พวกเทอก็ตอบด้วยความเสียใจว่า สาเหตุมาจากอาการปวดเข่าปวดข้อของพวกเทอนั่นเอง ซึ่งเกิดจากนิสัยที่พวกเทอชอบใส่กระโปรงสั้นหรือถุงน่องบางๆในช่วงวัยรุ่น เมื่ออายุมากขึ้นมักมีปัญหาปวดข้อ ปวดเข่าก็เลยมารุมเร้า พวกเทอจึงต้องแต่งตัวให้มิดชิดเพื่อป้องกันไม่ให้อาการกำเริบได้ง่าย เรียกว่าเป็นค่าตอบแทนของความสวยเมื่อครั้งยังสาวทีเดียว หลายคนเล่าว่าแม่ของพวกเทอเตือนแล้ว แต่พวกเทอก็ไม่ฟัง เพราะตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรนั่นเอง
แล้วมันเกี่ยวกันยังไง？ความสวยกับอาการปวดข้อ
วันนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุที่ของอาการปวดข้อในผู้หญิงพบมากสุดตามมุมมองแพทย์แผนจีน และวิธีป้องกัน
Q: อาการปวดเกิดจากอะไร
A: แพทย์แผนจีนเรียกกลุ่มอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อ กระดูก ว่าปี้เจิ้ง ซึ่งเชื่อว่ามีสาเหตมาจากร่างกายถูกรุกรานจากลมปราณก่อโรค(ลม ความเย็น ความชื้น ความร้อน และอื่นๆ) อันเป็นเหตุให้การไหลเวียนของเลือดลมในเส้นลมปราณอุดตัน เมื่อไหลเวียนไม่คล่องจึงทำให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ไขข้อมีอาการปวดเมื่อย ระบม ชา ประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวลดลง บางรายพบอาการปวดข้อร่วมกับอาการบวม แดง ร้อน ซึ่งลักษณะการปวดอาจแตกตางกันออกไป ขึ้นกับชนิดของลมปราณก่อโรค เช่นถ้าเกิดจากลม ตำแหน่งที่ปวดมีการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดจากความเย็นก็จะปวดที่ตำแหน่งคงที่ และมีอาการแย่ลงเมื่อเจอความเย็นเป็นต้น
แพทย์แผนจีนเราเชื่อว่าอาการปวดหลักๆมีผลมาจากเส้นลมปราณไหลเวียนไม่สะดวก ซึ่งสามารถเกิดได้จากสองสาเหตุคือพร่องจากเลือดลมไปเลี้ยงไม่พอ และจากมีของเสียอุดกั้น ทำให้การไหลเวียนไม่สะดวกซึ่งพบในคนส่วนมาก
Q:แล้วทำไมไม่ใช่ทุกคนที่เป็น
A: หลายคนคงสงสัยว่าทำไมหลายคนที่รุ่นราวคราวเดียวกันถึงไม่เป็น ในคัมภีร์โบราณได้ให้คำตอบไว้แล้วค่ะ กุญแจสำคัญอีกหนึ่งดอกก็คือ “เจิ้งชี่” หรือลมปราณภูมิคุ้มกันนั่นเอง ซึ่งสามารถมองเป็นลมปราณภูมิคุ้นกัน เป็นพลังในการดำรงชีวิต ฟื้นฟู ซ่อมแซม และป้องกันร่างกายเราไม่ให้ถูกรุกรานจากลมปราณก่อโรค ซึ่งพลังส่วนหนึ่งได้มาจากพ่อแม่เป็นทุนก่อนกำเนิด และอีกส่วนมาจากอาหารที่เราทานเข้าไป ซึ่งสามารถูกบั่นทอนได้จากการใช้ชีวิตที่ไม่เป็นกิจวัตร อารมณ์ อาหาร การตรากตรำ และตามอายุขัยนั่นเอง นี่ก็คืออีกเหตุผลว่าทำไมพบกลุ่มอาการนี้มากในกลุ่มผู้สูงอายุ
Q: อธิบายเรื่องสาวญี่ปุ่น
A: อย่างที่เราทราบถ้าเจิ้งชี่มีมากพอก็จะไม่ถูกรุกรานจากลมปราณก่อโรค อันเป็นเหตุให้เกิดอาการเจ็บปวด นี่ สาวญี่ปุ่นที่ปวดข้อก็เกิดจากเหตุนี้ เนื่องจากพวกช่วงสมัยวัยรุ่น ร่างกายยังแข็งแรง เจิ้งชี่มีพลังในการต้านลมปราณรุกราน(ลม ความเย็น ความชื้น) เมื่อพวกเทอสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นในอากาศหนาวจึงไม่มีอาการใดๆ แต่ในขณะเดียวกัน การกระทำเช่นนี้ทำให้ร่างกายก็ต้องใช้พลังในการต่อสู้กับรมปราณก่อโรคที่มีปริมาณมาก เจิ้งชี่ของเราก็ถูกบั่นทอนไปด้วย เจิ้งชี่ถูกบั่นทอนและลดลงตามอายุขัย เมื่อถึงช่วงที่เจิ้งชี่ของพวกเทอเริ่มพร่อง ไม่สามารถสู้กับลมปราณก่อโรคได้ ร่างกายจึงถูกรุกราน การไหลเวียนของเลือดลมติดขัด พวกเทอจึงเริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ข้อและกระดูก และมักมีอาการกำเริบในช่วงที่ลมปราณก่อโรคมีจำนวนมาก เช่นในฤดูหนาว ฤดูฝน หรือเมื่อยู่ในห้องแอร์เวลานาน
Q: แล้วเมืองร้อนแบบประเทศไทยเกี่ยวอะไรด้วย
A: ตามธรรมชาติของมนุษย์ เท้าหรือช่วงล่างจะเป็นบริเวณที่ถูกความเย็นและความชื้นรุกรานง่าย ถ้าตามกายภาพแล้วก็เป็นเพราะเป็นตำแหน่งที่ไกลจากหัวใจที่สุด ถ้าตามทฤษฎีแพทย์แผนจีนแล้ว ถ้าเปรียบหยิน-หยาง ความร้อนเป็นหยาง ความเย็นและความชื้นเป็นหยิน ช่วงบนเป็นหยาง ช่วงล่างเป็นหยิน ช่วงล่างจึงรุกรานบริเวณที่เป็นหยินได้ง่าย
ประเทศไทยมีอากาศร้อนชื้น ผู้คนจึงมักใส่เสื้อผ้าบางๆ แขนสั้น หรือขาสั้นและรองเท้าแตะ อีกทั้งเครื่องปรับอากาศ พัดลม หรืออุปกรณ์คลายร้อนต่างๆมักจะถูกออกแบบให้เป่าลงช่วงล่างของเรา หรือตามข้อมือ ข้อเท้า บริเวณที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมนั่นเอง ที่พบเจอบ่อยคือคนเป่าพัดลมก็มักเลือกให้เป่าตำแหน่งเท้า ข้อเท้าหรือหัวเข่า พื้นห้องที่ติดแอร์ก็มักทำจากกระเบื้องหรือปูนซึ่งเมื่อสัมผัสนานๆก็ทำให้เท้าเย็น รวมถึงการนั่งบนโต๊ะทำงานเป็นเวลานานทำให้การไหลเวียนของเลือดลมของขาน้อยลง เราจึงถูกความเย็นและความชื้นรุกรานบ่อยๆ
ตอนที่ร่างกายยังแข็งแรง พวกนี้เป็นภัยเงียบที่เราสะสมวันละนิดทุกวันโดยไม่รู้ตัว เพราะมันจะบั่นทอนเจิ้งชี่เรา เมื่อร่างกายเราอ่อนแอร์ลงเราก็จะถูกรุกรานได้ง่าย มารู้ตัวอีกทีอาการ ปวดข้อปวดกล้ามเนื้อก็มาเยือนแล้ว
Q: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าที่เราปวดข้อมีสาเหตุมาจากความเย็นหรือความชื้น
A: ข้อสังเกตง่ายก็คือ เราไม่มีประวัติการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ อาการปวดเข่านั้นจะกำเริบเมื่อเราอยู่ในอิริยาบถเดิมนานๆ อาการแย่ลงเมื่ออากาศเย็น หรือช่วงฝนตก อาการทุเลาลงเมื่ออยู่ในอากาศอุ่น ประคบอุ่น หรือนวดด้วยน้ำมันหรือที่มีฤทธิ์ร้อน -----ในบางคนอาจกลายเป็นนักพยากรณ์ที่เก่งกาจ คือพวกเธอจะมีอาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัวก่อนที่ฝนจะตกหรืออากาศจะเปลี่ยนนั่นเอง บางทีอาจแม่นยำกว่ากรมอุตุซะอีก
บทนี้เรากล่าวถึงความเย็น หนึ่งภัยเงียบของอาการปวดข้อกันไปแล้ว บทหน้าเราจะมาพูดถึงวิธีป้องกันและรักษาสุขภาพจากอาการปวดข้อกันนะคะ
ท้ายที่สุด การป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้ผลอย่ายั่งยืนก็ยังคงหนีไม่พ้น “4อ” อารมณ์ อากาศ อาหาร และออกกำลังกาย
และอย่าลืม กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และใส่แมสกันนะคะ
ด้วยความปรารถนาดีจาก TCM for life สุขภาพดีไปกับแพทย์จีน
โดย: พจ. วชิราภรณ์ ผดุงเกียรติวงษ์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
