8 มี.ค. 2022 เวลา 05:49 • ความคิดเห็น
ฉันต้องการอาหารไม่ใช่ขยะ!!
อาหารเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็น เพื่ออะไร??
… เพื่อมีพลัง เพื่อเติบโต เพื่อซ่อมแซมส่วนที่ซึกหรอ
แล้วคนที่รับมากเกินไปละ??
… น้ำหนักเกิน โรคภัยลุมเล้า ปัญหาค่าใช้จ่ายการรักษา
แล้วเราได้รับครบถ้วนไหม???
ที่มาภาพ:
แล้วเรามาดูการเปรียบเทียบอาหารฝ่ายร่างกายกับอาหารทางความคิดกันนะคะ
ในยุคสมัยปัจจุบันคนเข้าถึงสื่อได้อย่างง่ายได้ เหมือนกับอาหารที่สั่งได้ง่ายๆกับapplication สีเขียว สีชมพู พร้อมเสริฟได้ทุกเมื่อที่คุณคลิก
ซึ่งการได้รับง่ายๆได้ดังใจในเวลาที่เราต้องการ
ถ้าสั่งอาหารมากิน แล้วได้รับในปริมาณที่เพียงพอต่อวันก็ดีต่อร่างกาย แต่ถ้าได้รับมากเกินไปละ และยิ่งถ้าสิ่งที่ได้รับไม่มีประโยชน์ยิ่งไปกันใหญ่ ตามมาทั้ง น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ความดัน เบาหวาน และอีกสารพัดที่ยังไม่ได้ตรวจ ต้องมากำจัดออกกันอีก ทั้งออกกำลังกาย คุมอาหาร กินยารักษา
แต่เอาหละ…ครั้งนี้ไม่ได้มาพูดถึงอาหารแน่นอนแต่จะพูดถึง “ข่าวสารDelivery”
ซึ่งในปัจจุบันการมีสมาทโฟนและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องที่แสนธรรมดา สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะในเวลานี้โควิด19ระบาดแทบทุกคนอยู่บ้านที่WFH ,LFH มีเวลาในการรับสื่อมากขึ้น
ถ้าเปรียบสื่อหรือข่าวสารที่รับโดยไม่เลือกไม่คัดกรอง หากเป็นอาหารเราคงจะมีอะไรอยู่ในจานรวมกันเต็มไปหมดโดยหาการประโยชน์ไม่ได้
ที่มารูปภาพ :
แล้วถ้าสื่อที่เรากำลังให้ความสนใจนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้กรองไม่ได้คัดว่ามีประโยชน์ต่อสมองหรือการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ก็คงเหมือนกับเอาอาหารJunk food เหล่านั้น ที่คนในปัจจุบันมันชอบกิน และตามมาด้วยปัญหาตามที่กล่าวข้างต้นในภายหลัง โชคดีที่วิทยาการทางการแพทย์มีวิธีกำจัดสิ่งเหล่านั้น แต่กับความคิดที่เป็นขยะหละจะนำมันออกอย่างไร
ลดปริมาณลงได้แต่เราทำได้ไหม คงไม่มียารักษาแล้วเราจะทำอย่างไร
มาจุดนี้เราคงต้องกลับมาตระหนักและวิเคราะห์ทบทวนแล้วว่า…
ความจริง!
1.เราจำเป็นต้องรับสื่อต่างๆขนาดนั้นไหม
2.สื่อนั้นจำเป็นกับเราอย่างไร
3.สื่อนั้นช่วยให้เราพัฒนาตนเองในเรื่องอะไร
4.เราใช้สื่อนั้นในการช่วยใครได้บ้าง
เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้และรับสื่อที่พอเหมาะกับบริบทของตนเอง และเป็นการไม่บั่นทอนการดำเนินชีวิตตนเองผ่านข่าวสารหรือสื่อเหล่านั้น
อย่าให้ความคิดจิตใจของคุณเป็นมลพิษจาก การเสพสื่อหรือข่าวสารเหล่านั้น
จนทำให้คุณมีคุณภาพจิตใจที่ย่ำแย่ หันมาบริโภคข่าวดีๆกันนะคะ
โฆษณา