วิชาวางแผนความฝันค่ะ
เพราะทำไมไม่มีใครเคยสอนเราเรื่องความฝันเลย
เชื่อว่าทุกคนก็อยากมีความสุข
ซึ่งความสุขมันก็เกิดจากการที่เรามีปัจจัย 4 พร้อม
ได้รับความรัก ได้รักความเคารพจากทั้งผู้อื่นและตัวเอง
ตามหลักของ maslow hierarchy ซึ่งจุดที่สูงที่สุด
คือ Self Autualization
ลองคิดดูนะคะ มันจะดีมากๆเลย
ถ้าเราได้ทำสิ่งที่มีความสุข แม้จะทุกข์บ้าง
แต่ถ้าสุขมากกว่า ก็โอเค เพราะทุกข์สุขเป็นเรื่องธรรมชาติ รวมทั้งได้เงิน เลี้ยงดูตัวเองได้ด้วย
มันยิ่งมีพลังมากขึ้นไปอีก หรือเรียกได้ว่า
เรามีอิคิไก มีเหตุผลของการตื่นมาในทุกวัน
เคยแต่ได้ยินคำพูดว่าฝันมันกินไม่ได้
(ไม่รู้ว่าใครพูดเหมือนกันค่ะ 555)
แต่เราก็อยากถามกลับเหมือนกันว่า
แล้วทำยังไงให้ฝันกินได้?
จนเราได้อ่านหนังสือ Put your dream to The test
ของ john c.maxwell
มันทำให้เราได้คำตอบในชีวิตของตัวเองชัดขึ้น
ว่าเราควรวางแผนชีวิตให้ฝันจากนามธรรมเป็นรูปธรรมได้ยังไง
เช่น เราต้องหาจุดแข็งของเราก่อน
เราต้องรู้จักตัวเองดีพอรึยัง
จุดแข็งมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ
เป็นเรื่องของพรสวรรค์
ซึ่งพรสวรรค์จะไม่ยากสำหรับเรา
แต่มันยากสำหรับคนอื่น
ซึ่งข้อนี้เรามองว่า
ระบบการศึกษาที่ดีจะช่วยเราได้อย่างมาก
1.ครูที่โรงเรียน ซึ่งใช้เวลาอยู่กับเรานานพอสมควร
ในทุกสายชั้น ต้องสังเกตุและเขียนรายงานให้ดี
ว่าจุดแข็ง จุดอ่อน เราคืออะไร และจะเอาจุดแข็ง มาพัฒนายังไงให้ดีขึ้น ส่วนจุดอ่อนทำยังไงให้ลดน้อยลง
เป็นการช่วยกันค้นหาตัวตนและพรสวรรค์เด็ก
แต่เรากลับไปดูสมุดพกของ รร. แทบจะไม่มีครูคนไหนเขียนอะไรเกี่ยวกับเราเลย มีแต่เกรด แล้วเกรดช่วยบอกตัวตนเรายังไง เพราะสิ่งที่เราเรียนมันเป็นข้อมูล สักวันก็ out ขอบอกตรงๆว่าเราได้วิธีคิดจาก รร. น้อยมาก
ยิ่ง รร. ที่ไม่สนับสนุนเรื่องชุมนุม หรือกิจกรรม อย่างจริงจัง ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
*ครูต้องเป็นที่ปรึกษา เป็น life coach เราว่ายุคนี้ต้อง coach ไม่ใช่ teach
2.พ่อแม่ พ่อแม่ก็ต้องเป็นที่ปรึกษา คอยสังเกต คอยแนะนำ เป็นเพื่อน ไม่ใช่การยัดในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ส่วนเราค้นหาจุดแข็งผ่านประสบการณ์นอกห้องเรียน ทำกิจกรรม และเอากิจกรรม+ประสบการณ์มาปรับใช้ในเนื้อหาที่เรียน เพื่อให้เชื่อมโยงเนื้อหาในห้องสู่ความเป็นจริง มันดูเป็นรูปธรรม มันทำให้ทุกก้าว เรารู้ว่าทุกเนื้อมัน connect กัน เลยเอาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตได้จริงๆ ไม่ใช่ใช้ทำงาน แต่ใช้ในชีวิตของเรา บวกกับทำแบบฝึก ของ Gullup ชื่อ Strengthsfinder มันเป็น tool ที่ยืนยันความเป็นเรา
พอเรารู้จุดแข็งแล้ว
เราก็ควรมี Vision ในตัวเองว่าเรา
อยากเห็นตัวเองเป็นยังไง
คำนิยามของตัวเอง
ต่อมาเราก็ต้องวางแผนกลยุทธ์ว่าทำยังไง
ถึงจะไปถึง vision นั้นได้
-ต้องไปอยู่ในสังคมแบบไหน เจอคนแบบไหน
-ต้องใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง เช่น เงิน เงินต้องใช้เท่าไหร่ วางแผนยังไง ทีม ต้องใช้คนกี่คน ค.สามารถ ต้องเรียนรู้อะไรเพื่อให้เราสร้างความฝันได้จริง ต้อง list ออกมา
-ต้องยอมเสียอะไรไปเพื่อให้ได้สิ่งที่ฝันไว้(trade off)
*เราว่าส่วนนี้สำคัญมาก ไม่เคยมีใครสอนเรื่อง trade off
-ต้องอดทน ถึงเท่าไหร่ ต้องใช้เวลานาน มั้ย ข้อนี้ไม่มีใครเคยสอนวิชาความอดทนจริงๆ *เราว่าข้อนี้ก็สำคัญมาก ต้องศึกษา case study ของคนที่คิดว่ามีแนวทางไปทางเดียวกับเรา คนที่สำเร็จแล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจไม่ให้เขว และหลงทาง
*พอถึงจุดหนึ่งเราจะเขวได้ ยิ่งเทคโนโลยีสมัยนี้ ที่ทำให้เห็นชีวิตคนอื่นง่ายขึ้น มันก็อดที่จะมองคนอื่นสะท้อนตัวเองไม่ได้จริงๆ
วิชาที่อยากเสนอ ก็วิชาวางแผนความฝันนี่แหละค่ะ 555
พิมพ์ซะยาวเลย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
