19 ส.ค. 2021 เวลา 14:52 • ประวัติศาสตร์
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโมริโอรี: การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สุดโหดในนิวซีแลนด์ที่ชาวเมารีเป็นผู้กระทำซะเอง
1
ประวัติศาสตร์นั้นมักจะมี 2 หน้า ผู้ที่ถูกกระทำครั้งนึงก็มักเคยเป็นผู้กระทำซะเอง กรณีนี้เข้ากันได้ดีกับบทความต่อไปนี้ที่จะมาเปิดมุมมองให้เราเห็นว่าชาวเมารีที่เราได้รู้มาตลอดว่าถูกชาติอาณานิคมกดขี่อย่างไม่เป็นธรรม ครั้งนึงก็เคยกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวเกาะรักสงบอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา
ห่างออกไปจากเกาะหลักของนิวซีแลนด์ทางตะวันออกประมาณ 800 กิโลเมตร บนเกาะแชทัม มีชาวเกาะที่ใช้ชีวิตอย่างสันติและสมถะเรียบง่ายอยู่ประมาณสองพันคน ชาวเกาะพวกนี้คือชาวโมริโอรี คาดการณ์ว่าพวกเขาได้อพยพมาจากเกาะใต้ของนิวซีแลนด์เมื่อประมาณปีค.ศ. 1200-1600 (ชาวเมารีมาถึงนิวซีแลนด์เมื่อประมาณ ค.ศ.1200-1300)
เกาะชาทัม
ชาวโมริโอรีมีลักษณะพิเศษต่างจากชาวโพลีนีเซียอื่นตรงที่ว่าพวกเขามีวัฒนธรรมรักสงบและจะไม่ใช้กำลังแก้ปัญหาเด็ดขาด ตามกฏของนูนุงคู ซึ่งตั้งชื่อตาม”นูนุงคู-เวนูอา”หัวหน้าเผ่าคนแรกๆของพวกเขา ความรักสงบนี้เองที่ทำให้พวกเขาแทบจะหายไปจากโลกจากการรุกรานของชาวเมารีเวลาต่อมา
ในเดือนพฤศจิกายนปีค.ศ.1791 เรือแชทัม(เกาะแชทัมถูกตั้งชื่อตามเรือลำนี้)ของสหราชอาณาจักรได้มาแล่นลงที่เกาะแชทัมโดยบังเอิญ กะลาสีชาวบริติชตั้งใจเข้าหาชาวโมริโอรีด้วยความเป็นมิตร มีการมอบหมวกเล็ก ลูกปัดและผ้าสีแดงให้เพื่อหวังจะแลกเปลี่ยนกับอาหารเล็กน้อย แต่ด้วยความที่เป็นครั้งแรกที่ชาวเกาะได้เจอกับคนต่างถิ่นเลยทำให้ไม่รู้จะปฏิบัติตัวอย่างไร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและทะเลาะกันจนทำให้ชาวโมริโอรี 1 คนถูกยิงเสียชีวิต หลังเหตุการณ์นี้ชาวโมริโอรีกลับโทษตัวเองว่าเป็นฝ่ายผิดและละเมิดกฏของนูนุงคู หนึ่งในสาเหตุที่พวกเขาคิดเช่นนี้เพราะศพของชาวเกาะที่เสียชีวิตไม่ถูกกิน ซึ่งเป็นสัญญาณของการมาอย่างสันติในความคิดของชาวโมริโอรี (ก่อนย้ายมาเกาะแชทัม ชาวโมริโอรีก็คือชาวเมารีพวกหนึ่ง ซึ่งชาวเมารีมักจะกินศพของศัตรูเป็นอาหาร)
ในระยะเวลา 50 ปีต่อมา ชาวโมริโอรีอยู่ร่วมกับชาวนิวซีแลนด์และชาวยุโรปอย่างสงบสุข ถึงต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไปบ้างจากการที่เรือล่าแมวน้ำจากตะวันตกล่าแมวน้ำอย่างไม่คำนึงถึงสภาพแวดล้อม ทำให้แมวน้ำที่เป็นอาหารเดิมของชาวโมริโอรี ไม่มาที่เกาะอีก ชาวโมริโอรีเลยต้องเปลี่ยนมากินหมูที่ชาวตะวันตกนำเข้ามาแทน แต่ถึงอย่างงั้นชีวิตก็ยังสงบสุข ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรมก็ยังดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุข จนฝันร้ายมาถึงเมื่อชาวเมารีได้มารุกราน
การรุกรานของชาวเมารีต่อชาวโมริโอรี เป็นส่วนหนึ่งของสงครามปืนคาบสิลา (Musket war) คือ สงครามระหว่างชาวเมารีกลุ่มต่างๆ ที่เกิดจากความขัดแย้งที่มีมาอยู่ก่อนแล้วระหว่างชาวเมารีเผ่าต่างๆ แต่ด้วยการมาของชาติตะวันตก ทำให้ชาวเมารีกลุ่มต่างๆ สามารถซื้ออาวุธปืนเป็นของตนเองได้ ส่งผลให้เกิดความรุนแรงมากขึ้นเป็นเท่าตัว มีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 คน ( จากประชากรประมาณ 100,000 คน) และอีกจำนวนมากถูกจับเป็นทาส
ชาวโมริโอรีคือหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากสงครามนี้ เมื่อชาวเมารีเผ่าทารานากิ (Taranaki) จากเกาะใต้ (ก่อนการมารุกรานได้ย้ายไปอยู่แถวเวลลิงตันซึ่งอยู่ก็เหนือทางใต้) 900 คนได้เข้ามารุกรานในเกือนพฤศจิกายนปีค.ศ.1835 ชาวเมารีนั้นได้ลงมือฆ่าทันทีที่ถึงชายหาด โดยศพแรกคือเด็กหญิงอายุ 12 ที่ถูกนำมาเสียบไม้ประจานเพื่อแสดงความดุร้ายข่มขวัญขาวเกาะคนอื่นๆ ต่อมาชาวเมารีก็ได้รุกรานและยึดพื้นที่ต่างๆบนเกาะชาทัมไปด้วยความโหดเหี้ยม ในขณะที่ชาวโมริโอรีกลับไม่ยอมสู้กลับตามกฏของพวกเขา
ผลคือชาวโมริโอรีทุกคนที่ขัดขืนโดนฆ่า บางร้ายถูกนำไปเป็นอาหาร ผู้รอดชีวิตที่เหลือถูกนำกลับไปเป็นทาส เพียงปีแรกของการรุกรานชาวโมริโอรีก็ถูกสังหารไปแล้วกว่า 220 คน ตามการบันทึกของชาวโมริโอรี 2 คนได้บันทึกไว้ว่า “พวกเขาฆ่าพวกเราอย่างกับแกะ” “พวกเขาฆ่าพวกเราทุกที่ที่เจอ” สาเหตุที่ชาวเมารีโหดเหี้ยมกับชาวโมริโอรีมีนัยยะทางเชื้อชาติด้วย โดยชาวเมารีเชื้อว่าชาวโมริโอรีเป็นเผ่าพันธุ์อื่นที่ด้อยกว่า โง่กว่าและขี้เกียจทั้งที่ความจริงแล้วความแตกต่างด้านชาติพันธุ์นั้นไม่มีเลย
30 ปีแห่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทำให้เหลือชาวโมริโอรีเพียงแค่ 100 คนซึ่งเกือบทั้งหมดถูกจับไปเป็นทาสที่เกาะหลักนิวซีแลนด์
นายทอมมี โซโลมอน (Tommy Solomon) ถือเป็นชาวโมริโอรีแท้ๆ คนสุดท้ายคนเดียวที่เหลืออยู่บนเกาะแชทัม เมื่อเขาได้เสียชีวิตลงเมื่อปีค.ศ.1933 หลายคนถือว่าชาวโมริโอรีได้สูญชาติพันธุ์ไปแล้วอย่างเป็นทางการ (ที่เป็นเช่นนั้นเพราะชาวโมริโอรีเป็นกลุ่มเชิงวัฒนธรรมไม่ใช่เชื้อชาติเพราะเชื้อชาติเดียวกับเมารี ลูกหลานที่เกิดและเติบโตที่นิวซีแลนด์เลยไม่ถูกนับว่าเป็นชาวโมริโอรีแท้ๆ)
ทอมมี โซโลมอน
ในนิวซีแลนด์ก่อนปีค.ศ.1980 แทบไม่มีการรับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับชาวโมริโอรีเลย แต่ในภายหลังจากการเคลื่อนไหวของลูกหลานที่เหลืออยู่ของชาวโมริโอรีในนิวซีแลนด์ราว 900 คน ทำให้เริ่มมีความตระหนักถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้มากขึ้น ในปีค.ศ.1994 ได้มอบที่ดินบนเกาะแชทัมส่วนนึงคืนให้ชาวโมริโอรี ในปีค.ศ.2011 รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการได้ไปเยี่ยมชาวโมริโอรีที่ย้ายกลับมาที่เกาะแชทัมพร้อมหนังสือแบบเรียนที่มีการเอาเรื่องของพวกเขาอย่างถูกต้องและในปีค.ศ.2020 รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้มอบสิทธิ์คุ้มครองพิเศษ เงินสิบแปดล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์และร่างที่เหลือบางส่วนของผู้ที่ถูกสังหารในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คืนแก่ชาวโมริโอรี และมีการขอโทษอย่างเป็นทางการต่อชาวโมริโอรีที่ยังหลงเหลืออยู่
จากข้อมูลของรัฐบาลนิวซีแลนด์ในปีค.ศ.2013 มีชาวโมริโอรีในนิวซีแลนด์อยู่ 738 คน 354 คนอยู่ที่นิวซีแลนด์เกาะเหนือ 348 คนอยู่นิวซีแลนด์เกาะใต้และ 36 คนอยู่ที่เกาะแชทัม
โฆษณา