9 ก.ย. 2021 เวลา 07:07 • ปรัชญา
" ... พวกที่หมิ่นประมาท
ทำให้สงฆ์ที่มีโทษยังไม่ถึงอันติมะ
ให้ได้รับความเดือดร้อนถึงแก่เสื่อมจากพรหมจรรย์
ได้ชื่อว่าทำลายพระพุทธศาสนาโดยแท้ ... "
ดูกรอานนท์ บุคคลจำพวกใด
หากเบียดเบียนเสียดสีหมิ่นประมาทใจพระสังฆเถระ
และภิกษุสามเณรที่เป็นศิษย์ของพระตถาคต
โดยที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีโทษไม่ถึงปาราชิก
และบังคับให้สึกออกจากเพศพรหมจรรย์
หรือกระทำปัพพาชนียกรรมไปเสียก็ดี
บุคคลจำพวกนั้นเป็นบาปยิ่งนัก ไม่อาจไม่พ้นนรกได้
บุคคลจำพวกใดมีความเชื่อความเลื่อมใส
ในคุณธรรมคำสั่งสอนของเราตถาคต
แล้วเชิดชูยกย่องไว้ให้ดี มิได้ดูถูกดูหมิ่น
บุคคลจำพวกนั้นก็จะมีความเจริญ
ด้วยความสุขทั้งโลกนี้ และโลกหน้า
แม้ปรารถนาสุขอันใดซึ่งไม่เหลือวิสัย
ก็อาจสำเร็จสุขอันนั้นได้ตามปรารถนา
บุคคลที่ทำลายพระพุทธรูป พระสถูปพระเจดีย์
แลตัดไม้ศรีมหาโพธิ์
และบุคคลจำพวกที่กล่าวหมิ่นประมาทเย้ยหยัน
แก่สานุศิษย์ของเราตถาคตที่มีโทษไม่ถึงปาราชิก
บุคคลจำพวกนี้มีโทษหนักยิ่งกว่าจำพวกที่ทำลายพระพุทธรูป
แลพระสถูปพระเจดีย์นั้นหลายเท่า
บุคคลที่ทำลายพระพุทธรูปเป็นต้นนั้นเป็นบาปมากก็จริงอยู่
แต่ยังไม่นับถือว่าเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา
ผู้ที่กล่าวหมิ่นประมาทนั้น
ได้ชื่อว่าทำลายศาสนาของพระตถาคต
เพราะว่าผู้ที่มีความผิดโทษไม่ถึงปาราชิกนั้น
ยังนับว่าเป็นลูกศิษย์ของเราตถาคตอยู่
ต่อเมื่อเป็นปาราชิกแล้ว
จึงขาดจากความเป็นลูกศิษย์ของเรา
ถ้าเป็นโทษเช่นนั้น
แม้จะลงโทษหรือกระทำปัพพาชนียกรรมก็หาโทษมิได้
แลได้ชื่อว่าช่วยพระศาสนาของเราด้วย
การทำลายพระพุทธรูป หรือพระสถูปพระเจดีย์นั้น
ยังมีทางเป็นกุศลได้อยู่
ดังพระพุทธรูปไม่ดีไม่งามแล้วทำลายเสีย
แก้ไขให้งามให้ดีขึ้น
แม้พระเจดีย์และไม้ศรีมหาโพธิ์ก็เช่นกัน
ต้นโพธิ์ที่ตั้งอยู่ในที่ไม่สมควร
เช่นตั้งอยู่ในที่ใกล้ถาวรวัตถุ
อาจทำลายถาวรวัตถุนั้นได้ จะตัดเสียก็หาโทษมิได้
ถ้าทำลายเพื่อหาประโยชน์แก่ตน
หรือทำลายโดยความอิจฉาริษยาเช่นนั้น
ย่อมเป็นบาปเป็นกรรมโดยแท้
แม้ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ชื่อว่าเป็นการทำลายศาสนา
พวกที่หมิ่นประมาท
ทำให้สงฆ์ที่มีโทษยังไม่ถึงอันติมะ
ให้ได้รับความเดือดร้อนถึงแก่เสื่อมจากพรหมจรรย์
ได้ชื่อว่าทำลายพระพุทธศาสนาโดยแท้
ข้าแต่พระมหากัสสปะ พระพุทธเจ้า
ได้ตรัสเทศนาแก่ข้าฯ อานนท์ ดังนี้
อ้างอิง :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา