Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Umeshuthai 梅酒タイ
•
ติดตาม
21 ส.ค. 2021 เวลา 06:36 • ประวัติศาสตร์
ต้นกำเนิดเหล้าบ๊วย (ประวัติเหล้าบ๊วย)
เหล้าบ๊วย (梅酒,Umeshu) มีประวัติศาสตร์อันยาวนานคู่กับประเทศญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว
เริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 750 ในคอลเล็กชันบทกวี (Waka) ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น “มันโยะชู (Man’yoshu)” ดอกบ๊วยที่ดึงดูดสายตานั้นถูกรวมเข้าไปในบทกวีทั้งหมด 118 บทเมื่อเทียบกับดอกซากุระแล้วมีเพียง 42 บทเท่านั้นเอง
ค.ศ. 918 “ฮงโซวะเมียว (本草和名,Honzowamyo)” พจนานุกรมภาษาญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุดของร้านขายยาได้กล่าวถึงบ๊วย (梅,Ume) เอาไว้ด้วย
ค.ศ. 960 มีการกล่าวกันว่าจักรพรรดิมุราคามิ (Emperor Murakami) ฟื้นจากความเจ็บป่วยของเขาโดยการดื่มชาพิเศษที่ทำจาก “บ๊วยดอง (梅干し,Umeboshi และ สาหร่ายทะเล (昆布, Konbu)”
ค.ศ. 984 สรรพคุณทางยาของบ๊วย (梅,Ume) ได้รับการกล่าวถึงใน “อิชินโป (Ishinpo)” ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ทางการแพทย์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น
ค.ศ. 1550 ในช่วงยุครัฐต่อสู้ (Sengoku) ท่านลอร์ดคุโรดะ (Lord Kuroda Josui) ออกคำสั่งให้ขุนนางของเขาแต่ละคนต้องปลูกต้นบ๊วยสามต้น ในวันที่ลูกของพวกเขาแต่ละคนเกิดมา มีขุนนางศักดินาจำนวนมากในช่วงเวลานี้ที่สั่งให้ปลูกต้นบ๊วย ให้เป็นวัตถุดิบสำหรับทำยาเพื่อเตรียมทำสงคราม
ค.ศ. 1619 โทะกุงะวะโยริโนะบุ (Tokugawa Yorinobu) ได้เข้ามาเป็นเจ้าแห่งจังหวัดคิอิและในไม่ช้า อันโด อาโอสึกุ (Ando Naotsugu) ก็มีนโยบายในการส่งเสริมการเพาะปลูกบ๊วย (梅,Ume)
และแล้วในปี ค.ศ. 1697 คำว่า อุเมะชู (梅酒,Umeshu,เหล้าบ๊วย) ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในหนังสือ “ฮงโจ โชะคัง (Honcho Shokkan)” ตำราอาหารที่เก่าแก่ยอดนิยมอีกเล่มหนึ่งของญี่ปุ่น อธิบายว่า บ๊วย (梅,Ume) เป็นยารักษาโรคที่หยุดการสะสมของเสมหะ บรรเทาคอแห้ง และอาการเจ็บคอ ช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และละลายสารพิษ
ค.ศ. 1712 ในสารานุกรม วะคัน ไสไอ ซูเอะ (Wakan Saiai Zue), อธิบายว่าบ๊วยรมควัน (Ubai,Smoked Ume) เป็นยารักษาโรคที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนในปอด และม้าม
ค.ศ. 1817 รัฐ ชะโคะคุ (Shakoku) – โคเด็น (Koden) – ฮิโฮ (Hihou) ที่มีผู้ที่มีอาการอักเสบในลำไส้ควรบดผิวสีเขียวของบ๊วย (梅,Ume) กับเยื่อกระดาษและปล่อยให้แห้งภายใต้ดวงอาทิตย์ และมันเป็นวางบนท้อง
ค.ศ. 1878 มีการระบาดของอหิวาตกโรคในญี่ปุ่น และ บ๊วยดอง (梅干し,Umeboshi) เป็นที่ต้องการอย่างมาก
ค.ศ. 1886 ธุรกิจการเกษตรของบ๊วย (梅,Ume) เจริญรุ่งเรืองเริ่มต้นในภูมิภาคคิชู (Kishu)
ค.ศ. 1904 บ๊วยดอง (梅干し,Umeboshi) กลายเป็นส่วนหนึ่งของเสบียงอาหารที่ส่งไปยังทหารแนวหน้าในช่วงสงครามรัสเซีย – ญี่ปุ่น คำว่าเบนโตะ hi-no-maru (อาหารกลางวันแบบกล่อง ข้าวขาวที่มีบ๊วยดองอยู่ตรงกลางทำให้นึกถึงธงญี่ปุ่น) มีต้นกำเนิดในช่วงเวลานี้
ค.ศ. 1914 ผู้บุกเบิก CHOYA UMESHU CO., LTD. เริ่มต้นการปลูกองุ่น
ค.ศ. 1950 การวิจัยเริ่มต้นเพื่อตรวจสอบความหลากหลายของบ๊วย (梅,Ume) ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น และในที่สุด นันโค อุเมะ (南高梅,Nanko Ume) ที่มีชื่อเสียงในขณะนี้ได้รับการรับรองหลังจากนั้น 5 ปี
ค.ศ. 1952 ในอเมริกา E.T.Krebs ให้ชื่อ B17 แก่ Amygdalin ที่พบบ๊วย (梅,Ume)
ค.ศ. 1962 กฎหมายภาษีสุราฉบับใหม่ของญี่ปุ่นอนุญาตให้ผลิตเหล้าที่ผลิตจากผลไม้ได้ที่บ้าน
ค.ศ. 1965 นันโค อุเมะ (南高梅,Nanko Ume) ได้จดทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและป่าไม้
ค.ศ. 2005 การเติบโตของ อุเมะชู (梅酒,Umeshu,เหล้าบ๊วย) ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
เห็นไหมกว่าจะมาเป็น อุเมะชู (梅酒,Umeshu,เหล้าบ๊วย) ที่ทุกคนได้ดื่มจนถึงทุกวันนี้ประวัติช่างยาวแสนยาว
ไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.umeshuthai.com
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย