หนึ่งในนั้นก็คือ George Church นักวิจัยระดับตำนานของวงการพันธุศาสตร์โมเลกุลและชีววิทยาสังเคราะห์ ที่แล็บของ Church นี่เองที่ Zhang ได้เริ่มลงมา “เล่น” ในวงการวิศวกรรมจีโนมอย่างเต็มตัว
เดี๋ยวแอดมินจะขอย้อนไปเล่าเรื่องของลุง Church แป๊บนึงเพราะท่านผู้นี้ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
George Church
แอดมินเคยเจอ Church อยู่สองสามครั้งสมัยเรียนป.เอกอยู่อเมริกา ท่านผู้นี้จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในเซเลบของวงการชีววิทยามายาวนาน นอกจากงานวิจัยขั้นเทพที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
Church เป็นชาวอเมริกันโดยกำเนิดมีพื้นเพมาจากมลรัฐฟลอริด้า ชีวิตวัยเด็กที่อยู่ติดน้ำติดทะเลมาตลอดเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เขาสนใจชีววิทยามาตั้งแต่ต้น Church ชอบใช้เวลาว่างตอนเด็กเดินตามหาดโคลนเลนเก็บหอยเก็บปลาดาวหรือตัวอ่อนแมลงมาส่องดูเล่นไปเรื่อย
อีกเรื่องประทับใจวัยเด็กคืองาน New York World’s Fair เทศกาลสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องไอพ่นลอยตัว เครืองพิมพ์สามมิติ หุ่นยนตร์พูดได้ ตึกที่สร้างจากพลาสติก ฯลฯ
Church เล่าว่าเขาในวัยเด็กผิดหวังมากที่มารู้เอาภายหลังว่าของในงาน World’s Fair มีแค่เอาไว้โชว์เท่านั้น โลกจริงๆภายนอกตอนนั้น (ปี 1965) ยังไม่มีอะไรแบบนี้อยู่ Church เลยตั้งปณิธานไว้ว่าถ้าเขาอยากจะได้ของสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำแบบนี้เขาต้องสร้างมันขึ้นมาเอง
แต่ด้วยความฮึดสู้ และการเรียนรู้ที่จะปรับตัวเขาก็เรียนผ่านจบมาได้ Church เข้าป.ตรีที่มหาวิทยาลัย Duke เรียนถึกแบบบ้าพลังจนจบปริญญาตรีสองใบ (เคมี +ชีววิทยา) ภายในเวลาแค่สองปี แถมด้วยคอร์สแอดวานส์ระดับป.โทอีกนับไม่ถ้วนที่Church ลงเรียนไปเพราะ “อยากลองของ”
Church เริ่มทำวิจัยตั้งแต่อยู่ป.ตรีปีสองเกี่ยวกับด้าน crystallography (การหาโครงสร้างสามมิติของโมเลกุลผ่านโครงสร้างคริสตัล) และมีส่วนร่วมในการค้นพบโครงสร้างของ tRNA (โมเลกุลที่เป็นกลไกสำคัญในการสร้างโปรตีนในเซลล์) Church ทำงานด้านนี้ต่อเนื่องมาถึงตอนเรียนป.โทต่อที่ Duke ...หมกมุ่นขนาดหนัก ไม่ยอมไปเรียนจนติด F ซ้ำซ้อนโดนไล่ออกหลังเรียนโทไปได้ปีกว่า
Church เคยให้สัมภาษณ์ตอนหลังว่าเขาไม่ไปเรียนเพราะเรียนวิชามาหมดแล้วตั้งแต่ป.ตรี อาจารย์อยากจะให้ F ก็ให้ไปข้าหาได้แคร์ไม่ Church ภาคภูมิใจกับการโดนไล่ออกครั้งนั้นมากขนาดโพสต์จดหมายไล่ออกครั้งนั้นไว้บนเว็บไซด์ส่วนตัวในปัจจุบันของเขา http://arep.med.harvard.edu/gmc/F.jpg
หลังโดนไล่ออก Church ทำงานต่อในฐานะลูกจ้างโครงงานในแล็บ crystallography เดิมที่เค้าทำอยู่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ปีกว่า ตีพิมพ์ห้าเปเปอร์ ก่อนจะสมัครเข้าเรียนเอกต่อที่ Harvard แบบชิลๆ Church ทำวิทยานิพนธ์กับ Walter Gilbert โปรเฟสเซอร์ชื่อดังด้านฟิสิกส์เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเคมีปี 1980 เรื่องเทคนิค DNA sequencing (การหาลำดับเบสของดีเอ็นเอ)
ยี่สิบกว่าปีให้หลังเทคนิคนี้กลายมาเป็นรากฐานสำคัญของ Next Generation Sequencing หรือเทคนิคการอ่านลำดับเบสยุคใหม่ที่ทั้งถูกทั้งเร็วกว่าสมัยก่อนเป็นล้านๆ เท่า
**อีกครึ่งหนึ่งของวิทยานิพนธ์ว่าด้วยบทบาท intron ของยีนในระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งก็ถือว่า “ล้ำ” เหมือนกันเพราะ intron เพิ่งจะถูกค้นพบในช่วงเวลาเดียวกับที่ Church เรียนเอกอยู่พอดี
Church จบป.เอกปี 1984 ด้วยวิทยานิพนธ์ที่แข็งแกร่งขนาดที่คณะกรรมการของ Harvard อ่านแล้วก็เอาแทบจะเอาตำแหน่งอาจารย์มาประเคนให้ทันที
Church เริ่มงานในตำแหน่งอาจารย์จริงๆในปี 1986 และกลายเป็นหนึ่งในทีมนักวิจัยที่ผลักดันให้เกิด Human Genome Project (HGP) หรือโครงการถอดรหัสจีโนมมนุษย์ ขณะที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นแกนนำของ HGP มุ่งแต่จะถอดรหัสจีโนมมนุษย์ให้มันเสร็จๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยีเดิมๆ
แต่อาศัยอัดฉีดเงินและแรงงานคนลงไปเยอะๆ Church กลับเห็นว่าเราควรจะไปโฟกัสกับการพัฒนาเทคโนโลยี sequencing ให้มัน “ถูก เร็ว และแม่นยำ” ดีกว่า แนวคิดนี้ต่อมากลายมาเป็นหนึ่งใน theme งานวิจัยหลักของแล็บ Church ที่ Harvard
ด้วยชื่อเสียงและทุนวิจัยที่เข้ามามหาศาล แล็บของ Church ดึงดูดทั้งนักเรียนและนักวิจัยจากทั่วทุกสารทิศ หลากหลายพื้นฐานความถนัด ปัจจุบันแล็บนี้มีคนทำงานประจำอยู่ราวๆ แปดสิบกว่าคนได้ เป็นด็อกเตอร์แล้วซะสามสิบกว่า
Church บริหารแล็บแบบปล่อยอิสระ ใครอยากทำโปรเจกแปลกประหลาดหลุดโลกอะไรก็ทำไป แต่เนื่องจากคนที่เข้ามาส่วนใหญ่ก็หัวกะทิกันทั้งนั้นแล็บก็เลยยังสามารถผลิตงานวิจัยออกมาฮือฮาโลกได้อย่างต่อเนื่อง
ถ้าจะมองภาพเป็น theme งานวิจัยกว้างๆ ก็จะออกแนวการ “อ่าน เขียน แก้ไข และใช้ประโยชน์” จากดีเอ็นเอ เช่น DNA sequencing, DNA synthesis, genome editing, DNA nanotechnology
หัวใจสำคัญของระบบนี้คือการออกแบบโมดูลของโปรตีนให้ไปจำอย่างจะเพาะเจาะจงกับลำดับเบสที่เราต้องการ ตอนที่ Feng Zhang ทำวิจัยอยู่กับ Church เขาก็พัฒนาระบบอันนึงขึ้นมาโดยใช้โมดูลโปรตีนที่ชื่อว่า TALE ซึ่งยืมมาจากแบคทีเรียศัตรูพืชชนิด Xanthomonas
ในปี 2011 Zhang และ Church ตีพิมพ์เปเปอร์ใน Nature Biotechnology ว่าด้วยการใช้โปรตีนสังเคราะห์จาก TALE ในการไปจับและควบคุมการแสดงออกของยีนในเซลล์มนุษย์ ถือเป็นผลงานเปิดตัว Zhang ชิ้นแรกในวงการ genome engineering
ปี 2011 Zhang รับตำแหน่งอาจารย์ที่ MIT และนักวิจัยที่ Broad Institute (ศูนย์วิจัยด้านจีโนม) ในต้นปีเดียวกันนั้นเอง Zhang ได้ไปเข้าฟังสัมมนาเรื่องระบบภูมิคุ้มกันของแบคทีเรียที่เรียกว่า CRISPR ช่วงปีโน้นคนอื่นๆ ที่ทำวิจัยด้าน CRISPR สนใจแต่ศึกษากลไกการทำงานของมันหรือไม่ก็การประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมโยเกิร์ต