1 ก.ย. 2021 เวลา 03:25 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 1 ก.ย. 2021
"ยอดส่งออกของเกาหลีใต้เดือนส.ค.พุ่งขึ้น 35%
การใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทญี่ปุ่น ดีดตัวขึ้น 5.3%
GDP อินเดีย ขยายตัว 20.1% ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.
บ่งชี้ถึงการขยายตัวมากเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 2539"
5
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com
📌 ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 +0.84% ​(ที่ 4,846 จุด), ดัชนี HSTECH +1.55% (ที่ 6,710 จุด)
📌 ส่วนทองคำราคาอยู่ที่ 1813 ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 23.86 USD/Oz.
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 53 (Greed > Fear) (ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
📌 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งรวมถึงหุ้น Zoom Video Communications ที่ทรุดตัวลงกว่า 16% ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาตลอดทั้งเดือนส.ค.พบว่าดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีมีการปรับตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 1.2% ขณะที่ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 2.9% และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 4%
📌 ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 0.56% นำโดยหุ้น Zoom Video Communications ร่วงลง 16.69% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าความต้องการใช้บริการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ของทางบริษัทจะชะลอตัวลง หลังจากที่รัฐบาลหลายประเทศเริ่มเปิดเศรษฐกิจและผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
📌 ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 0.84% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.56% หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 0.34% หุ้น Nvidia ร่วงลง 1.32%
📌 หุ้นโมเดอร์นา ดีดตัวขึ้น 1.62% หลังจากผลวิจัยจากเบลเยียมระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นาสามารถสร้างแอนติบอดี้ในร่างกายได้มากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค ขณะที่หุ้นไฟเซอร์ปิดตลาดร่วงลง 1.48% หลังมีการเปิดเผยผลวิจัยดังกล่าว
1
📌 นักวิเคราะห์จากบริษัท New York Life Investments กล่าวว่า นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เพราะอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เมื่อใด โดยขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 4 เดือนก่อนที่จะสิ้นปี 2564 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าการปรับลดวงเงิน QE จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.หรือเดือนธ.ค.
📌 ด้านนักวิเคราะห์จากบริษัท Grant Thornton คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง 675,000 ตำแหน่ง โดยชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัวแข็งแกร่งถึง 943,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
📌 สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 18.6% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2530 จากระดับ 16.8% ในเดือนพ.ค.
📌 ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 113.8 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. จากระดับ 125.1 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 124.0 โดยได้รับผลกระทบจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
📌 ปธน.สี จิ้นผิงของจีน ได้ทดสอบนโยบาย "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" ในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอาลีบาบา แผนดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า จีนต้องการเพิ่มรายได้ผ่านการลงทุนของภาคเอกชนในพื้นที่ยากจน และเพื่อส่งเสริมให้คนในชนบทเริ่มธุรกิจของตนเอง ซึ่งหากแผนนี้ประสบความสำเร็จก็จะสามารถนำร่องออกสู่พื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศได้
1
📌 ในขณะเดียวกัน สี จิ้นผิง ยังเป็นประธานการประชุมระดับสูงที่ "ทบทวนและอนุมัติ" มาตรการเพื่อต่อสู้กับการผูกขาดตลาด การต่อสู้กับมลพิษ และสนับสนุนการสำรองเชิงกลยุทธ์ ตลอดจนนโยบายอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่า จีนวางแผนที่จะคุมเข้มการกำกับดูแลบริษัทอีคอมเมิร์ซเช่นอาลีบาบาและ Pinduoduo อย่างจริงจัง
📌 กองทุนเฮดจ์ฟันด์ของจีนเสนอเงินเดือนให้บัณฑิตจบใหม่ที่มีผลการศึกษายอดเยี่ยมสูงสุด 300,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 3 เท่าของวอลล์สตรีทกองทุนที่ใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อการซื้อขายนั้นกำลังต้องการนักศึกษาจบใหม่อย่างมาก ซึ่งได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินไหลเข้าจากบรรดาบุคคลที่ร่ำรวยในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ค่าแรงที่สูงขึ้นนั้นสอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลกในวงกว้าง เนื่องจากธุรกิจในบริษัททางการเงินกำลังเฟื่องฟูอย่างมาก
1
📌 ผลสำรวจของ Bloomberg เกี่ยวกับธุรกิจขนาดใหญ่ 45 แห่งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย แสดงให้เห็นว่า บริษัท 84% วางแผนที่จะใช้จ่ายน้อยลงในด้านการเดินทาง หลังจบการระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ ความสะดวกและประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์เสมือนจริง การประหยัดต้นทุน และการปล่อยคาร์บอนต่ำนั้น เป็นเหตุผลหลักที่บริษัทเลือกลดจำนวนการเดินทางลง ซึ่งอาจะส่งผลให้การใช้จ่ายสำหรับการเดินทางขององค์กรอาจลดลงเหลือ 1.24 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2567 จากระดับสูงสุดก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2562 ที่ 1.43 ล้านล้านดอลลาร์
📌กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทญี่ปุ่นในไตรมาส 2/2564 ดีดตัวขึ้น 5.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ การลงทุนของธุรกิจนอกภาคการเงินญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงการลงทุนในการสร้างโรงงานและเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ นั้น คิดเป็นมูลค่ารวม 10.15 ล้านล้านเยน (ประมาณ 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
📌กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 35% แตะที่ระดับ 5.32 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 โดยได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของสินค้าประเภทชิปและรถยนต์ นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชียนั้น มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนยอดนำเข้าเดือนส.ค.ของเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 44% แตะที่ระดับ 5.15 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้า 1.67 พันล้านดอลลาร์ และเป็นการเกินดุลติดต่อกันยาวนานถึง 16 เดือน
📌กระทรวงสถิติแห่งชาติอินเดียเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 20.1% ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีงบประมาณของอินเดีย ตัวเลข GDP ดังกล่าวบ่งชี้ถึงการขยายตัวมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่รัฐบาลเริ่มเก็บข้อมูลตัวเลข GDP นับตั้งแต่ปี 2539 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 20.0%
📌 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) หลังจาก Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
📌 ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อาจจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินตามมา แต่ตลาดหุ้นยุโรปยังบวกขึ้นได้ 2.6% ในเดือนส.ค. โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
📌 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.24 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ การเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้น่าจะยังเป็น sideway โดยทิศทางยังไปทางด้านแข็งค่า เนื่องจากปัจจัยหลายตัวทำให้ sentiment ของตลาดดีขึ้น เช่น ยอดการติดเชื้อโควิดในประเทศรายวันมีจำนวนลดลง, มี flow เข้ามาในตลาดพันธบัตร รวมทั้งตลาด หุ้นไทยยังปิดบวก นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.10 - 32.40 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดติดตามการรายงาน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือนส.ค.ในคืนวันศุกร์นี้
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1. KT-PRECIOUS
2. SCBGOLD (แบบไม่ Hedge)
3. SCBGOLDH (แบบ Hedge)
4. ASP-DISRUPT
5. ASP-EUG
6. ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
7. ASP-JHC
8. ASP-ROBOT
9. B-GTO
10.K-CHANGE-A
11.K-HIT
12.K-USA-A
13.K-USXNDQ-A
14.KF-EUROPE
15.KF-GTECH
16.KF-ORTFLEX
17.KF-US
18.KFHTECH-A
19.KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
20.KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
21.KT-EURO/K-EUSMALL
22.KT-WTAI-A
23.LHESPORT-A / WE-PLAY
24.LHINNO-A
25.BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
26.MATECH-A 💵💵💵
27.M-EM 💵💵💵
28.MFTECH
29.ONE-DISC-RA
30.ONE-UGG-RA
31.ONE-GECOM 💵💵💵
32.PRINCIPAL GCLOUD-A
33.PRINCIPAL GHEALTH-A
34.PWIN
2
35.SCBKEQTG
36.SCBUSSM
37.TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
38.T-ES-GGREEN
39.T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO
40.T-GLOBALENERGY / MRENEW
41.TBIOTECH
42.TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
43.TCLOUD
44.TGENOME
45.TGHDIGI
46.TNEXTGEN / WE-CYBER
47.TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
48.TMBAGLF 💵💵💵
49.TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
50.TMBGQG
51.UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
52.UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
53.UEDTECH 💵💵💵
54.UEV
55.WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
56.WE-GOLD 💵💵💵
57.KFINFRA-A
58.B-INNOTECH
59.KFGBRAND-A
60.SCBS&P500
61.SCBDJI(A)
62.SCBNK225
63.WE-TENERGY / SCBCLEANA
64.K-WORLDX
65.T-Premium Brand
67. P-CGREEN
68. K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
69. KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70. WE-CANB, MCANN 💵💵💵
71. LHMOBILITY
72. TNEWENGY
73. PRINCIPAL GCLEAN-A
74. BCAP-CLEAN
2
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021 ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ที่เข้ามาช่วยลดความกังวลจากรัฐบาลจีนที่อาจกระจายการควบคุมไปยังอุตสาหกรรมอื่น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
2
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1700, หรือ 1730, 1775 , 1800 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1840, 1890, 1900, หรือ 1920 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22 ส.ค. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/612b5e1d161b220c93063df8
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
1. กองทุนอินเดีย
2. กองทุนดัชนี Nasdaq เช่น K-USXNDQ-A
3. กองทุนดัชนี S&P 500 เช่น SCBS&P500
4. กองทุนทั่วโลก : TMBGQG/K-WORLDX, B-GTO หรือ กองทุนที่เน้นหุ้นใหญ่อย่าง Microsft, Facebook
5. UEV
6. ONE-UGG-RA, K-CHANGE-A, K-HIT (คนที่ซื้อกลางพ.ค.)
7. KFGBRAND-A
8. กองทุนหุ้นสหรัฐ Mid-small caps : SCBUSSM, ABAGS
9. กองทุน Tech เช่น B-INNOTECH, KF-GTECH, KFHTECH-A
10. กองทุนหุ้นสหรัฐ เช่น K-USA-A, KF-US, SCBUSAA
11. กองทุนยุโรป เช่น ASP-EUG, KF-EUROPE, KT-EURO/K-EUSMALL
12. Cloud computing เช่น Tcloud, Principal Gcloud-A
3
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50
ประจำวันที่ 28 ส.ค. 2021
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ :
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, XRP, BNB, ADA, LTC, DOGE
ประจำวันที่ 29 ส.ค. 2021 : https://www.blockdit.com/posts/612b9eeb318bec0c8fb83033
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
2
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Blockdit - blockdit.com/needoy
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - bit.ly/lineneedoy
📌YouTube - bit.ly/youtubeneedoy
📌Spotify : spoti.fi/2NLRVBK
📌Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
📌Podbean : bit.ly/podbeanneedoy
📌Google Podcast : bit.ly/googlepodcastneedoy
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา