เศร้า ! เมื่อห้ามแม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
canva
สวัสดีค่ะ วันนี้แม่เป้ จะมาเล่าถึงภัยร้ายของน้ำยาปรับผ้านุ่มกันค่ะ
ย้อนไปเมื่อ10 ปีที่แล้ว เมื่อลูกชายเป็นภูมิแพ้หนักมากค่ะ
แม่ก็เลยไปค้นหาข้อมูล จนได้เจอบทความนี้ เขาได้บอกว่า
น้ำยาปรับผ้านุ่มคือ กรดมันน้ำ ซึ่งกรดน้ำมันนี้อาจซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังของคุณ หรือจากการสูดดม
นอกจากนี้น้ำยาปรับผ้านุ่มยังประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายอีกหลายชนิดได้แก่ เอทิลเอซิเทต, เบนซิน เอซีเทต, เบนซิน แอลกอฮอล์ ,เอทานอลและคลอโรฟอร์ม
โดยสารเคมีเหล่านี้ป็นพิษต่อร่างกายก่อให้เกิดการระคายเคืองและทำลายสุขภาพ มีพิษต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้รู้สึกมึน และเวียนศีรษะ ทำลายตับ ไต โรคโลหิตจาง ซึ่งมีผลต่อระบบประสาทและร้ายที่สุดอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้
ซึ่งสารเคมีมี๕ ชนิด เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดดังนี้
1. สารเอทิลอะซีเตท (Ethyl acetate) ไอระเหยของมันอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึมและเวียนศีรษะ ทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ตา และทางเดินหายใจ ใครที่มีอาการเหล่านี้บ่อยๆ แนะนำให้ลองสังเกตตัวเอง และลองปรับเปลี่ยนการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม
2. สารคลอโรฟอร์ม(Chloroform) ไอระเหยของมันทำให้ร่างกายหมดความรู้สึกหรืออาจถึงขั้นสลบได้ และไอระเหยของมันมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางทำให้มีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ถ้าคุณหายใจเอาสารที่ความเข้มข้นสูงเข้าไปเป็นประจำจะทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้
3. สารเบนซิลแอลกอฮอล์ (Benzyl alcohol) การหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือก ทำให้ลำคออักเสบ เกิดอาการไอ หายใจถี่รัว เวียนศีรษะง่วงนอน
หากสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผื่นแดง เจ็บปวด การกลืนหรือกินเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองลำคออักเสบ ปวดท้องคลื่นไส้
การสัมผัสถูกตา จะก่อให้เกิดการระคายเคืองตาแดง เจ็บตาตาพร่ามัว
เมื่อสารดูดซึมผ่านร่างกาย ทำให้ระบบประสาทส่วนกลางผิดปกติ
4. สารเบนซิลอะซีเตท (Benzyl acetate) การหายใจเข้าไปทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือกมีอาการไอ เวียนศีรษะ
เมื่อสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผื่นแดงการสัมผัสถูกตาจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ตาแดง เจ็บตาตาพร่ามัว
5. มัสไซลีน (Musk xylene) เป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งน่ากลัวมาก
เมื่อสิบปีก่อน ลูกชายคนโตอายุ 1 ขวบ มีปัญหาเรื่องน้ำมูก ไอ จาม บ่อยมากๆ มีเสลด ติดในคอ หายใจลำบาก เป็นๆหายๆ
แม่เป้ก็ได้ไปปรึกษาคุณหมอ ซึ่งบอกได้เลยว่า ไปเกือบทุกเดือน และก็ไม่คิดเลยว่า สาเหตุของอาการเหล่านี้ มาจากน้ำยาซักผ้าหอมๆ และน้ำยาปรับผ้านุ่มสุดที่รัก
จากข้อมูลเบื้องต้น แม่เป้ก็เกิดความรู้สึก...เห้ย จริงหรือนี่ แล้วทำไมเขาถึงโฆษณากันโครมๆ เพื่อลูกที่คุณรัก .... ณ ตอนนั้นอึ้งมาก เพราะติดกลิ่น ติดความหอมของผ้าอ้อม ช่วยให้ผ้านุ่ม ฆ่าเชื้อ บลาๆๆ
เลยตัดสินใจว่าถ้าลองหยุดไป แล้วอาการของลูกจะดีขึ้นไหม ก็หยุดไปประมาณ 3 เดือนค่ะ ก็เริ่มเห็นได้ชัดว่า ลูกไม่ค่อยมีอาการ ไอ จาม มีน้ำมูก ซึ่งลดลงและแทบไม่มีเลย
เมื่อได้ผลดังนั้น แม่เป้ก็เลยเลิกใช้ถาวร มาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
และที่สำคัญ เมื่อก่อนเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตที บอกเลยว่าของใช้ของลูกเต็มรถเข็นค่ะ และก็ที่ดีมากที่สุดนั่นก็คือ โคตรเซฟ ประหยัดเงินสุดๆเลยค่ะ
หลังจากนั้น แม่เป้ก็จะเลือกใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติจริงๆเท่านั้นค่ะ
จากข้อมูลข้างบน เพื่อนๆก็ลองไปพิจารณาเอาอีกทีนะคะ ว่ามีผลดีผลเสียยังไง เราเท่านั้นค่ะที่เป็นผู้เลือก
ถ้าหากว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ ก็อย่าลืมแชร์ให้กับคนที่เรารักได้อ่านกันนะคะ
ด้วยรัก
แม่เป้
ดูแลลูกและตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติบำบัดมาเกือบ 10 ปี
pixabay
Reference
- 46
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
