24 ส.ค. 2021 เวลา 02:21 • ท่องเที่ยว
ทุ่งหราแลนด์ (แดนออฟโรด) ,พังงา
เช่นเคยครับ เที่ยวอยู่ในจังหวัดพังงา เพราะเดินทางออกนอกไปไหนไม่ได้ มันจะลำบากทั้งไปและกลับ แต่แล้วอยู่มาวันนึง ออฟ(นายหัวรถ,เพื่อน) ก็ส่งลิงค์เก่ากึ้ก อายุราวๆ 10 ปีที่แล้ว เป็นเส้นทางใกล้ๆ ที่มันเคยไปตอนเด็กๆ ตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ตอนนี้... ฮ่าๆๆ
ทุ่งหรา ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองของพังงา (ไม่เกิน 20 กิโลเมตร) นับช่วงที่เป็นทางดิน ทางชัน ทางลื่น ทางทราย ทางหลุม ทางมันส์ๆ ได้ระยะเท่ากับ 4.5 กิโล จะถึงจุดกางเต็นท์ที่พวกเราถ่ายภาพมาฝาก แต่ขอวงเล็บไว้เลยว่าใช้เวลาแค่ 35 นาทีถึงจุดหมายแน่นอน *ถ้ารถไม่ไปติดหลุมติดโคลนซะก่อนนะครับ
โถ่!!!! ระหว่างนั่งรอออฟมารับฝนตกลงมาแบบ ใจหายใจคว่ำ แต่โชคดีที่มีความอยากมากพอสมควร เพื่อนผมประเมินแล้วว่าไปได้ก็ไปคือไปได้ แม่ฝนจะตกก็ตาม
บ่ายสามหน่อยๆ ออกเดินทางจากตลาดพังงา ด้วยบรรยากาศหลังฝนตก เมฆหมอกลอยอยู่บนยอดเขา ถนนเปียกๆ ขับไปครู่เดียวถึงตีนเขา แวะซื้อ้ำแข็งจากร้านชำแถวๆนั้น
: พักแถวไหนกันครับนี่
ผม : ผมจะไปกางเต็นท์ที่บนทุ่งหรานู้นครับ
: โอ้ ระวังนิดนึงนาาา โฟร์วีล ก็จริงต้องเชี่ยวชาญนะลูกบ่าว
ผม : ครับๆๆๆ
---- ปิดประตูรถ -----
ออฟ : ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะเขาให้ระวังนิดเดียว
***ขอโทษครับพวกผมกวนตีน
สองภาพนี้แคปมาจากส่วนหนึ่งของวิดีโอ
เวลา 15:45 "เนินแรก"
สบายครับถ้าทางแบบนี้ วิ่งได้ทั้งคืน แต่พอผ่านไปสักสองสามโค้งถ้าจำไม่ผิด มีจังหวะให้ตื่นเต้นนิดหน่อย คือ รถหมุนอยู่กับที่ เพื่อนผมเปลี่ยนเกียร์อยู่สองสามที ถอยหลัง พุ่งใหม่ ผ่านยาว แล้วก็ยาวๆไปจนถึงจุดกางเตนท์
แต่ข้างทางนี่สิครับ หมอกลง โอ้โห สวยสบายใจขึ้นเยอะ อากาศก็หนาวๆ สลับกับฝนตกปรอยๆ
บ่ายสามสี่สิบห้า เนินแรก
เวลา 16:20 "โค้งสุดท้าย"
ถึงแล้วครับ จุดกางเต็นท์ของเรา ไม่มีคนตามที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะว่าใครละจะว่างมาเที่ยววันศุกร์อย่างพวกเรา "จุดนี้คนในพื้นที่หรือขาประจำจะเรียกว่า โหนทราย" ลักษณะรอบๆขงตรงนี้คือ มีสันทราย สูง ที่ถูกน้ำเซาะเป็นร่อง มีน้อยๆนิดเดียว ที่เหลือก็เป็นป่าเขาล้อมรอบทุกด้าน ลมแทบจะไม่พัด
เลือกทำเลทองได้อย่างสบายเพราะไม่มีใครมาแย่ง หลังจากนั้นก็รีบทำหลังคากันฝนให้จุดที่เราจะนั่ง ขนเก้าอี้โต๊ะลงมากองหลบฝนรวมกันไว้ใต้หลังคาน้อยๆของเรา เสร็จก็รีบกางเต็นท์ จัดของ พอจะมีเวลาได้เก็บภาพบรรยากาศบ้างนิดหน่อย แต่ก็ตามที่เห็นถ่ายยังไงให้สวยครับเนี่ย ใครถ่ายภาพสวยๆ รอบหน้ารบกวนหน่อยสิครับ (ถ้าอ่านอยู่นะ 555) ทุกอย่างถือว่าเป็นไปตามช่วงเวลาได้ดีพอเริ่มมืดก็ติดตั้งไฟแสงสว่างเสร็จ เริ่มทำไส้กรอกที่เตรียม ส่วนเครื่องดืม มันเริ่มตั้งแต่ก้าวลงจากรถอยู่แล้วครับ
พออากาศเริ่มต่ำลง นาฬิกาผมวัดได้ 25 องศา ก็ถือว่าหนาวนิดๆ ตอนพูดก็มีควันออกปากด้วย แน่นอนว่าคนอย่างผมต้องการตัวช่วยก็เลย หยิบเอากางเกงขายาวมาใส่ หลังจากนั้นก็พยายามจะก่อกองไฟ จากกิ่งไม้เปียกๆ พยายามอยู่นาน ติดเรื่อยๆ จุดเรื่อยๆ เกือบชั่วโมงสุดท้ายพอเริ่มติด ก็เริ่มไม่ไหวเอง ควันเต็มแสบตา ตาแดงกันหมด สุดท้ายก็ไม่ก่อดีกว่าครับ โถ่
เปลี่ยนไฟกองกลาง เป็นหลอดไฟที่ต่อพ่วงมาจากแบตเตอรี่รถ แสงดีกว่าเดิม ส่วนหลอดไฟเดิมก็ประดับเต็นท์ เอ้อ ก็สวยดี ออกไปถ่ายรูปสักหน่อย พวกเราเจอกันค่อยข้างจะบ่อยพอสมควร เรื่องที่คุยกันก็เป็นเรื่องทั้่วไป ไหลไปเรื่อยๆ ไม่เงียบ น่าจะดีถ้าได้แย่งกันคุย ใช่มั้ยครับทีมงาน นอนดีกว่าครับบบ เจอกันพรุ่งนี้เช้า
5:50 "เสียงโทรศัพท์ดัง"
แง้มประตูเต็นท์ออกไปดู แง่วววววว หมอกไม่คลุมเลยยย มีแค่หมอกบนปลายไม้เหมือนตอนเย็น ก็เลยขออีก 20 นาที 6:10 เพื่อนอีกสองคน ก็ยัง หาเรื่องสักหน่อยละกัน ถอยรถ บีบแตรเบาๆ!!!!สองสามครั้ง ได้ผลเช่นเคย
มาครับ กาแฟยามเช้า เตรียมนมมาจากบ้าน เพื่อแก้วนี้โดยเฉพาะ ส่วนอีกสองคนก็จัดการขนมปังกระเที่ยม บวกกับไส้กรอกที่เหลือจากเมื่อคืนนิดหน่อย ตบท้ายด้วยโจ๊กกกกก เสร็จแล้วค่อยไปแปรงฟัน เอ้ะ!!!! ปกติแปรงฟันก่อนกินข้าว หรือกินข้าวก่อนแปรงฟันเนี่ย ชั่งมัน เดินไม่ไกล 100 เมตรน่าจะได้ มีลำธารน้ำเย็นเจี๊ยบให้แปรงฟัน ล้างหน้า แล้วกลับมาเก็บของ แต่อยู่ๆเห็นที่ง่ามนิ้วเท้า มีเลือดออกเยอะพอสมควร หาแผลไม่เจอ คิดว่าน่าจะโดนปลิงหรือทากกัดตอนเดินไป ล้างหน้า ถ้าใครกลัวเจ้าพวกนี้ก็ระวังกันด้วยนะครับ
เก็บของ เก็บขยะ ขึ้นรถกลับบ้านกันเถอะ
เดี๋ยว !!!!!!!!!!!
จำเป็นต้องเตือนไว้ก่อนเลยว่า ไม่มีสัญญาณ ทั้งค่ายสีส้มและสีฟ้า ส่วนสีเขียวก็คิดว่าไม่มี แค่นี้แหละครับ เผื่อคนที่บ้านจะเป็นห่วง ขอบคุณมากๆครับที่อ่านจนจบ ติชมได้เลยนะครับ ถ้าเขียนมั่วไปหน่อย
โฆษณา