24 ส.ค. 2021 เวลา 06:30 • ธุรกิจ
เปิด 10 แบรนด์รถที่จดทะเบียนป้ายแดงสูงสุดตลอด 7 เดือนของปี 2564
หากจะพูดถึงสถานการณ์และการแข่งขันของค่ายรถยนต์ในยุคปัจจุบันนี้ เราก็คงจะได้เห็นกันว่าการแข่งขันรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งจากเทรนด์ของรถยนต์ไฟฟ้า หรือการกระตุ้นให้คนมาซื้อรถมากขึ้นในสภาวะที่ตลาดกำลังซบเซาไม่น้อยเลยทีเดียว นั่นจึงเป็นหนึ่งสิ่งที่ค่ายรถยนต์ต่างๆ ต้องงัดกลยุทธ์ทางการขายออกมาให้ได้มากที่สุด ทั้งการดาวน์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย หรือการลด แลก แจก แถม และโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย เพื่อดึงดูดลูกค้าท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ล่าสุดศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb analytics) ได้ทำการสำรวจการจัดจำหน่ายรถยนต์และการจดทะเบียนรถป้ายแดงในช่วงเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2564 โดยพบว่าในปัจจุบันมีรถป้ายแดงที่จดทะเบียนอยู่ที่ 484,055 คัน สำหรับในปี 2564 ยอดขายรถยนต์เติบโตในช่วงเดือนเมษายน - มิถุนายน แต่ถ้านับยอดขายมากที่สุดจะพบว่าเดือนมกราคมมียอดขายมากที่สุด โดยอยู่ที่ 83,785 คัน และค่อยๆ ลดลงตามลำดับ เว้นในเดือนมีนาคมที่ยอดขายเด้งขึ้นมาเป็น 82,276 คัน
สำหรับแบรนด์รถยนต์ที่มีการจดทะเบียนป้ายแดงสูงสุดในรอบ 7 เดือนแรกของปี 2564 พบว่า TOYOTA ยังคงเป็นแกนนำ โดยยอดขายเติบโตจากปีที่แล้วร้อยละ 95 และมียอดการจดทะเบียนป้ายแดงรวมอยู่ที่ 19,898 คัน โดยรุ่นที่ติดตลาดได้แก่ COROLLA CROSS ที่ขายได้มากกว่า 12,709 คัน, COROLLA ALTIS ขายได้ 3,527 คัน, CAMRY ขายได้ 2,672 คัน ซึ่ง 3 รุ่นนี้ยังติด 3 อันดับแรกของรถที่จดทะเบียนป้ายแดงสูงสุดในรอบ 7 เดือนนี้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีรุ่น ALPHARD HYBRID ที่ขายได้ 856 คันอีกด้วย
ในขณะที่ HONDA นั้นยอดขายกลับลดลงจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 37.8 โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 1,406 คัน โดยมีรุ่นที่ขายดี ได้แก่ ACCORD HYBRID ที่มียอดขายอยู่ที่ 1,376 คัน ตามมาด้วย MG ที่เติบโตร้อยละ 117.2 และมียอดขายอยู่ที่ 1,405 คัน โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากรุ่น HS PHEV ที่ขายได้มากกว่า 842 คัน
2
BMW ที่เติบโตจากปีที่แล้วร้อยละ 82 มียอดขายรวมอยู่ที่ 1,389 คัน โดยมีรุ่น 330E ที่ขายได้มากที่สุด คือ 641 คัน ขณะที่คู่แข่งอย่าง MERCEDES BENZ นั้นยอดขายลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 20.3 และมียอดขายรวมอยู่ที่ 1,204 คัน โดยมีรุ่น C300 E PHEV ที่ขายดีที่สุด มียอดจดทะเบียนป้ายแดงอยู่ที่ 489 คัน และ NISSAN มีการเติบโตจากปีที่แล้วมากที่สุดถึงร้อยละ 2,413.5 โดยมียอดขายอยู่ที่ 930 คัน และส่วนใหญ่มาจากรุ่น KICKS ที่ขายได้มากกว่า 898 คัน
ในส่วนของแบรนด์ PORSCHE นั้นมียอดขายลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 6.7 โดยมียอดขายอยู่ที่ 490 คัน และมีรุ่นที่ขายดีที่สุดคือ CAYENNE E HYBRID ที่ขายได้ 433 คัน นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ LEXUS ที่ยอดขายลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 20.4 และมียอดขายรวมอยู่ที่ 168 คัน, MITSUBISHI ยอดการจดทะเบียนไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว โดยปีนี้ขายได้ 160 คัน และสุดท้ายคือ TESLA ที่ยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 87.3 และมียอดขายรวม 103 คัน
นอกเหนือจากนี้ ttb analytics ยังวิเคราะห์เพิ่มเติมถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ว่าสถานการณ์ยอดขายรถยนต์ในช่วงปี 2564-2565 จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยยอดการขายรถยนต์ในปี 2563-2565 จะไม่เติบโตเท่ายอดการขายรถยนต์ทั้งปี 2562 ปีเดียว และผู้ผลิตรถยนต์จะใช้ความระมัดระวังในการบริหารคลังสินค้ามากขึ้นให้สอดคล้องกับทิศทางการขาย ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลสำคัญเป็นอย่างมากก็คือหนี้สินครัวเรือนที่สูงขึ้น ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในประเทศและทั่วโลก รวมไปถึงการแข่งขันของบรรดาค่ายรถยนต์ที่พยายามระบายคลังสินค้าให้ได้มากที่สุดอีกทางหนึ่งด้วย
ข้อมูลจาก ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทยธนชาต
CONTENT : KRITTHANAN DITTHABANJONG
ARTWORK : RATTANAKORN HUAWIANG
1
ติดต่อโฆษณา: kritthanan@songsue.co
โฆษณา