24 ส.ค. 2021 เวลา 06:46 • หนังสือ
5 เทคนิคสู่ความสำเร็จ ฉบับเป็ดปีกแข็ง
หลายๆคนคงอาจจะเคยได้ยินคำนี้กับมามากแล้วนะครับ การเก่งแบบเป็ด
คือ โลกของการทำงานจะมีคนที่เก่งเฉพาะด้านกับคนที่ทำงานได้หลายอย่าง
บางคนคงจะชอบทำอะไรเรื่อย ๆ พอทำเป็นแล้วก็ไปทำอย่างอื่นที่เราไม่เคยทำต่อ
แต่แล้ว...ก็ไม่ได้สุดสักทาง
ซึ่งในอดีตสังคมมักจะปลูกผังให้เราหาด้านที่ถนัดให้เจอ แล้วฝึกให้เก่งในด้านใดด้านหนึ่งให้สุดไปเลย
ทำให้มองว่าคนที่เป็น ‘เป็ด’ คือคนที่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรซักด้านในชีวิต
จนกลายเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับใครหลาย ๆ คน
จนนำไปสู่...การรู้สึกหมดคุณค่าในตัวเองเลขทีเดียว
แต่สำหรับปัจจุบันนี้เป็ดนั้นไม่ได้ถูกมองว่าไม่ดีอีกต่อไป
เพราะคนที่สำเร็จในปัจจุบันนี้มักจะทำอะไรได้หลายอย่าง
เกลาได้ #สรุปหนังสือเรื่อง ‘วิถีผู้ชนะฉบับเก่งแบบเป็ด’
หนังสือแนวพัฒนาตนเองที่เป็นหนังสือขายดีทั่วอเมริกา เขียนโดย Pat Flynn ดังนี้ครับ
#1โฟกัสทักษะตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
หลายครั้งที่คนเรามักจะเสียเวลาไปกับการเรียนรู้สิ่งที่ไม่ได้มีประโยชน์ต่อเป้าหมายของชีวิตเรา
เราก็ต้องรู้ซะก่อนว่า "เป้าหมายในชีวิตของเราคืออะไร"
เช่นถ้าเราอยากเป็นเชฟด้านการทำอาหารญี่ปุ่น
เราก็ไม่จำเป็นต้องเรียนการทำบอนชอน บิงซู อาหาร ไทย
แต่ให้เอาเวลาไปฝึกฝนทักษะที่จะส่งเสริมให้เราไปถึงเป้าหมายแทนดีกว่า
#2เรียนรู้ทักษะหลายด้าน แล้วนำมาใช้ร่วมกัน
เพราะในโลกใบนี้ มันมีสิ่งที่น่าสนใจเต็มไปหมด
จึงไม่แปลกหากคุณจะมีความชอบในหลาย ๆ ด้าน
แต่เราขอแนะนำว่าให้คุณเริ่มฝึกไปทีละทักษะ โดยสิ่งสำคัญ คือ
 
‘การจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังให้ดีว่าอะไรควรฝึกก่อน และ อะไรควรฝึกหลัง’
และต้องหมั่นฝึกฝนให้สม่ำเสมอ หลังจากนั้นก็ให้เราเอาทักษะ หลายๆด้านที่เรามีมารวมประยุกต์ใช้ด้วยกันให้เกิดประโยชน์
#3เริ่มพัฒนาจากทักษะฟื้นฐาน
.
เพราะทักษะพื้นฐานด้วยทักษะ ดังนี้
#ทักษะด้านระเบียบวินัย
เพราะมันจะทำให้ราทำอะไรเป็นแบบแผนและเป็นระบบ
ซึ่งถือเป็นพื้นฐานนำไปสู่การฝึกฝนทักษะใหม่ๆ อีกด้วย
เริ่มง่ายๆ จากการให้เราลิสต์สิ่งที่ต้องการจะฝึกฝน
หรือ ต้องการจะทำในแต่ละวัน
จากนั้นก็ให้เราติดตามและจับตาดูทุกอย่างใกล้ชิด
เช่น ถ้าคุณฝึกฝนทักษะทางด้านการเต้น ก็ให้คุณอัดคลิปตอนที่ฝึกเอาไว้ด้วย
เพราะจะทำให้คุณจริงจังกับการฝึก
มองเห็นความก้าวหน้าและยินดีไปกับความสำเร็จของคุณเอง
#ทักษะด้านสมาธิ
เพราะสมาธิจะช่วยให้เรามีการขับยั้งชั่งใจ ไม่ขาดสติ
ทำให้เราโฟกัสกับเรื่องที่สำคัญได้ดี ฝึกฝน ได้ไว และ มีประสิทธิภาพ
ซึ่งการฝึกทักษะนี้ไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตาขัดสมาธิเพียงอย่างเดียว
เราอาจจะเดิน นอน ยืน หรือนั่งบนโซฟาสบาย ๆ ก็ได้ จากนั้นก็กำหนดลมหายใจเข้าออก หรือ
พยายามท่องคำภาวนาสั้น ๆ อะไรก็ได้ ให้ใจเรามีฐานที่ยึดเหนี่ยว
จากนั้น พยายามไม่คิดฟุ้งซ่าน และ มีสติจดจ่อกับสิ่งที่เราทำอยู่
#ทักษะด้านการใช้เหตุผล
เพราะเหตุและผล มันจะช่วยจัดระเบียบความคิดของเรา
ซึ่งการคิดอย่างเป็นระบบนี้จะช่วยให้เราเข้าใจโลกและคนอื่น ๆ มากขึ้น
ด้วยวิธีง่ายๆ ที่จะฝึกทักษะ เช่น การฝึกไขปริศนาตามแอพพลิเคชั่นหรือเกมต่าง ๆ หรือ
ลองฝึกพูดคุยและถกเถียงกับคนอื่นเพื่อแก้ต่างหรือแสดงจุดยืนของตัวเอง
ซึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการพัฒนาทักษะนี้ คือ
‘การยอมรับความจริง’ การพยายามลดอคติของตัวเองลง
และไม่ใช้อารมณ์มาเป็นพื้นฐานของความคิด
#ทักษะโน้มน้าวผู้คน
ซึ่งการโน้มน้าวนี้ ไม่ใช่การประจบสอพลอ
แต่เป็นการ ‘หาผู้คนที่เขาเห็นด้วยกับเราอยู่แล้วและชักชวนให้เขาปฏิบัติตามแนวทางของเรา’ต่างหาก
ซึ่งหลักการสำคัญคือ ‘การพูดจากใจจริงและพูดออกไปอย่างมั่นใจ’
เพราะความมั่นใจตัวนี้จะทำให้คนอื่นเชื่อมั่น
ในตัวเรา วิธีง่าย ๆ ที่จะพัฒนาทักษะนี้ คือ
การพูดคุยและแนะนำตัวเองเพื่อทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ อย่างน้อย 1 คนต่อวัน
จากนั้นก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือถามไถ่แนวทางที่คุณจะช่วยเหลือเขาได้
 
หรือไม่ก็ฝึกแสดงความคิดเห็นที่ดีและเป็นประโยชน์ผ่านการเพจเกลาก็ได้เช่นกันนะครับ 🙂
#ทักษะทางค้นความเชื่อ
เพราะถ้าเราไม่ฝึกฝนและห่างหายจากมันไปนาน ๆ เราก็จะหมดศรัทธาและความพยายามในสิ่งนั้น ๆ
ซึ่งวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยฝึกทักษะนี้ก็คือ
การที่เราเชื่อก่อนว่า "เราทำได้!!" เพราะมันจะทำให้เรามีกำลังใจ
ไม่หลุดโฟกัส และ พยายามไปอยู่ในเส้นทางที่จะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้จริง ๆ
#4ฝึกฝนการปรับตัว
เพราะ เทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกวัน
เราสามารถปรับตัวได้โดยดูคนที่ประสบความสำเร็จเป็นแบบอย่าง
(สามารถดูได้จากหลายๆคลิปที่เกลาได้ไปขอสัมภาษณ์ได้เลยนะครับ)
ดูว่าเขามีทักษะอะไรและไม่มีทักษะอะไรบ้าง
แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณไปลอกเลียนแบบเขานะครับ
การดูเพื่อเป็นแนวทางหรือตัวอย่างในบางเรื่องก็เท่านั้น
เช่น ถ้าเราอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพ
ก็ให้เราไปดูว่าเขามีวิธีดูแลสุขภาพอย่างไร ศึกษาเทรนด์ต่าง ๆ ตามบริบทนั้น ๆแล้วนำมาปรับใช้ครับ
#5ลงมือทำ
ไม่ว่าเราจะมีเทคนิคหรือเคล็ดลับที่ดีเลิศมากแค่ไหน
แต่ถ้าไม่ลงมือทำมันก็ไม่มีวันสำเร็จแน่นอน
ดังนั้น...จงเรียนรู้ทฤษฎีแค่พอประมาณและหมั่นฝึกฝนให้มากเข้าไว้
เพราะยิ่งคุณลงมือจริงมากเท่าไร คุณก็จะเก่งทักษะในด้านนั้นๆ เอง
ยกตัวอย่างเช่น บางคนอาจจะศึกษาเรื่องกองทุนหรือหุ้นมาเป็นปี ๆ
แต่ก็ไม่กล้าที่จะลองหรือลงมือทำซักที
และสุดท้ายแล้ว...ต่อให้เรารู้ทฤษฎีมาลึกซึ้งแค่ไหน
มันก็เสียเวลาและเปล่าประ โยชน์ ‘หากเราไม่นำมาใช้จริง’
ทีนี้เราก็รู้กันแล้วใช่ไหมครับว่า การเก่งแบบเป็ดนั้นมันไม่ใช่รื่องแย่เลยซักนิด
เราไม่จำเป็นต้องเจ็บปวดเพราะไม่เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งอย่างใคร ๆ เขา
เพราะเราสามารถเรียนรู้ที่จะมีความสุขจากทักษะหลายๆอย่างของชีวิตเราได้
และสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มฝึกฝนจากทักษะอะไรดี
เราก็แนะนำให้คุณเริ่มฝึกทักษะจากสิ่งที่ตัวเองชอบก่อนก็ได้
ซึ่งคนที่หาความชอบของตัวเองไม่เจอก็อย่าเพิ่งเสียใจ ไปนะครับ
เพราะการที่เรายังหาไม่เจอ มันก็ไม่ได้แปลว่าไม่มี
แต่มันเป็นเพราะเรายังลองไม่มากพอต่างหาก
อีกทั้งบางทีเราก็ไปตีกรอบว่าไม่ชอบมันตั้งแต่ยังไม่ได้ลองทำเลยด้วยซ้ำ
.
ฉะนั้นอย่าลืมให้โอกาสตัวเองกันด้วยนะครับ เพราะยังมีทักษะใหม่ ๆ
อีกมากมายรอให้เราข้าไปเรียนรู้อยู่ทุกแห่งหน
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนโชคดีและประสบความสำร็จฉบับเป็ดปีกแข็งไปด้วยกันนะครับ
มาฟังเรื่องราวละเอียดมากยิ่งขึ้น กับรายการ 'เกลาไปเล่าไป' ep.9
แล้วมาเป็นเป็ดปีกแข็งไปด้วยกันนะครับ 🙂

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา