25 ส.ค. 2021 เวลา 06:05 • เกม
เคยเป็นกันบ้างไหมครับ ซื้อเกมที่ราคาถูกๆ ลดราคามา กราฟฟิคงั้นๆ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก กะเล่นแก้เบื่อเฉยๆ ซื้อมาเพราะถูกดี
แล้วเล่นไปสักพักเราพบว่าไอ้เกมนี้แม่งสนุกกว่าพวกเกมใหญ่ๆ ดังๆ Big name ทั้งหลายเยอะ นี่มันคือเพชรในตมเลยทีเดียว ทำไมไม่มีใครรู้จักเกมนี้กันเนี่ย
ผมจำประสบการณ์นี้ครั้งแรกได้เลย น่าจะประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว ผมเป็นคนชอบเล่นเกมแนว RPG ตอนนั้นคอมที่มีผมมีมันเริ่มเก่ามากแล้ว เกมใหม่ๆ ส่วนใหญ่ในยุคนั้นอย่าได้ไปลงเลย เพราะสเป็คมันห่างมากเล่นไม่ได้แน่นอน ไล่มาเรื่อยๆ มาสะดุดกับเกมนึง เฮ้ย! ทำไมมันใช้สเป็คเครื่องน้อยนักนะ ดูวันที่ลงมันก็พึ่งลงปีนี้นี่นา คือคอมผมที่ว่าเก่าๆ นี่ สามารถเล่นได้สบายเลย แต่เราก็เห็นในภาพตัวอย่างแล้วแหละว่ากราฟฟิคมันก็ไม่ได้ว้าวอะไร ก็ลองโหลดมาเล่นดูละกัน คอมเราแรงแค่นี้ ก็คงเล่นเกมได้กราฟฟิคประมาณนี้แหละ
อย่างแรกที่สัมผัสได้เลยคือ ดนตรีมันทำออกมาดีนี่หว่า แม้จะไม่ได้อัดจากเครื่องดนตรีจริง แต่ว่าแต่งออกมาดีทีเดียว ฟังแล้วเพราะดี
เล่นต่อมาหลายๆ วันเรื่อยๆ ชักวางไม่ค่อยได้แล้วแฮะ เนื้อเรื่องมันชวนให้ติดตามต่อเรื่อยๆ เลย ถึงแม้ว่าฉากต่อสู้มันจะค่อนข้างยากก็ตาม แต่ยิ่งเราเล่นเราก็อยากรู้เนื้อเรื่องต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น มันน่าสนใจมากจนเราสามารถมองข้ามภาพกราฟฟิคย้อนยุคของมันไปได้เลย
เล่นจนจบ ปราบบอสเสร็จ เฮ้ย! พี่จบแบบจบตอนละครซีรี่ส์เลยอะ ค้างเติ่งมาก ความจริงปรากฏว่าพระเอกคือใคร แล้วนางเอกจะทำอย่างไรต่อไป (ไม่อยากเล่าละเอียด เดี๋ยวจะสปอยล์) จบแบบค้างๆ งี้เลย เอาสิ โหลดภาค 2 ต่อเลยไง มันไม่ได้อะ เราอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ ของมันต้องเล่นต่อ ต้องโหลด
ภาค 2 ก็ทำออกมาได้ดี ไม่ทิ้งคุณภาพเลย จุดเด่นๆ ยังคงเดิม เนื้อเรื่องชวนติดตามตลอด ดนตรีดี กราฟฟิคย้อนยุคคอมกากแค่ไหนก็เล่นได้ ฉากต่อสู้ยังยากเหมือนเดิม ดีไม่ดียากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เล่นต่อจนจบ เพราะด้วยความที่เกมสามารถเล่าเรื่องได้ดีมากๆ มันทำให้เราอยู่กับมันจนจบได้ แต่ฉากต่อสู้ก็ยากเอาเรื่องเหมือนกัน อ่อ! เรื่องที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างของเกมนี้ก็คือ มันสร้างโลกที่มีรายละเอียดสูงมาก รายละเอียดในที่นี้ไม่ใช่ด้านกราฟฟิค แต่มันคือการผู้สร้างทำให้ทั้ง PC และ NPC ทุกตัวเหมือนมีชีวิตจริงๆ NPC ทุกตัวมีชื่อหมด เมื่อในเกมมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น NPC ทุกตัวได้รับผลกระทบ บางคนตกงานย้้ายไปเมืองอื่น บางคนยังเปิดร้านต่อ บางคนแต่งงาน ฯลฯ ซึ่งการวางพลอตได้ขนาดนี้นับว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
จริงๆ มันมีภาค 3 ต่อด้วยนะ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกฟินกับตอนจบภาคสองละ เลยไม่ได้เล่นต่อ จนมาถึงตอนนี้ยังคิดว่าจะกลับไปเล่นต่อภาค 3 ให้มันจบเหมือนกันหาโอกาสอยู่ (คือรอเกมมันลดราคานั่นแหละ 555)
เล่ามาถึงตรงนี้ หลาย คนน่าจะอยากรู้แล้วมันคือเกมไหนนะ แต่คนที่รู้จักเกมนี้อาจพอเดาออกแล้วหละ เกมนี้ก็คือ -แต่น แตน แต๊น- Trails in the Sky จากค่ายเกม Falcom นั่นเอง
จากที่ผมหาข้อมูลอ่านมา แรกเริ่มเดิมที Trails in the Sky ภาคแรกกับภาคสองนั้น วางขายในญี่ปุ่นเมื่อราวๆ ปี 2004-2005 บนเครื่อง PSP แต่กว่าเกมนี้จะมาสู่ตลาดนานาชาตินั้น ก็ปาเข้าปี 2015 แล้ว!
หลายคนก็น่าจะงงเช่นเดียวกับผม ว่าทำไมมันนานจังวะ เฮ้ย! เดี๋ยวนี้เกมญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดวันวางจำหน่ายในญี่ปุ่นกับนานาประเทศนั้นก็เกือบจะพร้อมๆ กันเลยนะ ถูกต้องครับ แต่ไม่ใช่กับ Falcom
Nihon Falcom นั้นเป็นบริษัทเกมเล็กๆ ที่มีมาตั้งแต่ต้นยุค 80s ถึงตอนนี้ครบรอบ 40 ปีแล้วเขาก็ยังควความเป็นบริษัทเกมเล็กๆ อยู่ เกมดังๆ จากค่ายนี้ทั้งหมดเป็นเกมแนว JRPG ทั้งหมดเลยครับ เช่น Ys, Trails, The Legend of Heroes. ด้วยความที่เป็นบริษัทเล็กๆ ด้วยความที่เป็นบริษัทเล็กๆ นี่แหละ ทำให้เขาไม่สามารถทำเกมได้ทั้งภาษาญี่ปุ่น และ อังกฤษ ไปพร้อมๆ กัน และก่อนหน้าปี 2010 Falcom ก็ไม่เคยคิดจะบุกตลาดนานาชาติเลยด้วยซ้ำ ต่างกับพวกบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Square Enix ที่สามารถพัฒนาเกมได้ทั้ง 2 ภาษา (หรือมากกว่า) ไปพร้อมๆ กันเลย
เมื่อ Falcom ตั้งใจจะโกอินเตอร์ ตอนนั้นก็ได้จับมือกับทาง XSEED ให้เป็นคนเผยแพร่ในภาคภาษาอังกฤษให้ แต่เจ้ากรรมด้วย Trails in the Sky อน่างที่ผมเล่าแล้วเขาละเอียดละออเรื่องเนื้อเรื่องมาก ทำให้มี text มหาศาลที่ทาง publisher ต้องแปลและจัดการ เยอะขนาดไหนนะเหรอ Jessica Chavez ซึ่งขณะนั้นเป็น editor ของ XSEED บอกว่าเมื่อแปลเสร็จมีจำนวนคำทั้งหมด 716,401คำ ถ้าเทียบกับนิยาย The Lord of The Rings ทั้ง 3 ภาครวมกันมีจำนวนคำ 455,125 คำ (อ้างอิง https://en.m.wikipedia.org/wiki/The_Legend_of_Heroes:_Trails_in_the_Sky_SC#:~:text=The%20script%20was%20edited%20by,and%20Peace%20(587%2C287%20words). )
น่าจะพอเห็นภาพนะครับว่าทีม localisation ต้องทำงานหนักขนาดไหน ซึ่ง XSEED ก็เช่นเดียวกับ Falcom ครับ ไม่ได้เป็นบริษัทใหญ่โตอะไร โปรเจคนี้ต้องทำกัน 3 ปีครับ กว่าจะได้ก้าวสู่ตลาดโลก
นั่นละครับจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้กำเนิดฐานแฟนคลับของเกม Falcom ในระดับนานาชาติ จริงอยู่ ณ ขณะนี้บริษัทก็ไม่ได้เป็นบริษัทเกมที่ดังเปรี้ยงป้างอะไรหากคุณเทียบกับบริษัทใหญ่ มีแต่เพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ทว่าเป็นกลุ่มที่เหนียวแน่น เพราะ Falcom ทำตลาดแบบ niche market เขาไม่ค่อยแคร์คนหน้าใหม่ว่าคุณอยากซื้อเกมเขาหรือไม่ แต่ถ้าคุณเล่นเกมของเขาแล้วละก็ หึๆ โอกาสที่คุณจะซื้อเกมต่อๆ ไปของเขามีสูงแน่นอน
Trails in the Sky นั้นถือเป็นภาคแรกของซีรี่ส์ Trails ผมจะขอเรียงลำดับเกมในซีรี่ส์นี้ตามลำดับที่เกมออกวางขายในญี่ปุ่นนะครับ
1. Trails in the Sky FC
2. Trails in the Sky SC
3. Trails in the Sky 3rd
4. Trails from Zero (จะวางจำหน่ายภาษาอังกฤษในปี 2022)
5. Trails to Azure (จะวางจำหน่ายภาษาอังกฤษในปี 2022)
6. Trails of Cold Steel I
7. Trails of Cold Steel II
8. Trails of Cold Steel III
9. Trails of Cold Steel IV
10. Trails into Reverie (จะวางจำหน่ายภาษาอังกฤษในปี 2023)
11. Kuro no Kiseki (จะวางจำหน่ายในญี่ปุ่นปลายปีนี้)
สังเกตุเกมที่ 4,5 นะครับ Cold Steel มีภาคภาษาอังกฤษมาสักพักละ ทำไมเกมก่อนหน้าถึงไม่เคยทำภาษาอังกฤษ? เรื่องนี้ยาวมากครับ จะขอมาอธิบายในคราวหน้าละกันนะครับ
โฆษณา