25 ส.ค. 2021 เวลา 11:00 • สุขภาพ
ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ลดลง เสียชีวิตยังไม่ลด และแนวโน้มก่อนสิ้นปีนี้
รายงานสถานการณ์โควิดวันนี้ (25 ส.ค.) ติดเชื้อใหม่ 18,417 ราย ลดลงต่ำกว่า 20,000 เป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแต่มียอดผู้เสียชีวิต 297 ราย ซึ่งแนวโน้มไม่ได้ลดลง
จำนวนผู้ป่วยใหม่ วันที่ 20 ก.ค. - 25 ส.ค.
จำนวนผู้เสียชีวิต วันที่ 20 ก.ค. - 25 ส.ค.
5 วันก่อนผมเคยคาดการณ์ไว้ว่าเราน่าจะผ่านจุดสูงสุดของยอดผู้ป่วยใหม่รายวันมาแล้ว ซึ่งก็มีความเป็นไปได้มากขึ้นตามข้อมูล
วันนี้เราลองมาคุยกันครับว่าอะไรบ้างที่น่าจะเป็นปัจจัยทำให้ยอดผู้ป่วยลดลง และต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
มาตรการควบคุมของภาครัฐ การล็อกดาวน์ เคอร์ฟิว ช่วยชลอการระบาดเพิ่มได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรการควบคุมต่างๆที่ออกมา ช่วยให้การระบาดลดลง อันนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่เราไม่มีทางที่จะล็อกดาวน์กันแบบนี้ไปตลอด การผ่อนคลายมาตรการในเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็น
การฉีดวัคซีนคือคำตอบ
มีประเด็นและข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับวัคซีน ทั้งเรื่องการจัดหา ประสิทธิภาพและปริมาณ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาเราฉีดวัคซีนกันได้อย่างต่อเนื่อง ได้รับเข็ม1 ไปแล้ว 27% และเข็ม2 ประมาณ 8% ของประชากร ถึงแม้ไม่ได้จำนวนตามเป้าหมายก็ตาม
ผู้ที่หายป่วยแล้วมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ
ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่วิธีสร้างภูมิคุ้มกันที่ควรจะเป็นนะครับ แต่ผู้ป่วยที่หายจากโควิดมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติอยู่แล้วประมาณ 900,000 รายตามข้อมูลในระบบสาธารณสุข
แต่อย่างที่รู้กันว่า ผู้ป่วยนอกระบบและหายป่วยไปแล้วก็ไม่น้อยเช่นกัน และมีความเป็นไปได้ว่าจะมากกว่าตัวเลขในระบบ 3-5 เท่าเลยทีเดียว หลายคนที่รู้ตัวว่าป่วยจากการตรวจ ATK ก็ทำการแยกกักตัวเองโดยที่ไม่ได้ตรวจ RT-PCR ซ้ำเพื่อเข้าระบบ ซึ่งช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อได้มาก
ระบบสาธารณสุขเริ่มรับมือได้
ถึงแม้จำนวนผู้หายป่วยตามข้อมูลในระบบจะไม่สะท้อนความเป็นจริง เพราะหลายรายที่ออกจากโรงพยาบาลยังไม่หายป่วยดีแต่ให้ทำ Home Isolation
ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นการจัดการที่ดี เพราะโรงพยาบาลสามารถรับผู้ป่วยสีเหลือง สีแดงเพิ่มได้ ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการรอเตียงและผู้ป่วยถึงมือหมอได้เร็วขึ้น
แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีการรายงานจำนวนผู้ป่วยที่หายแล้วให้ถูกต้องตามความเป็นจริงครับ
แล้วต่อจากนี้สถานการณ์จะเป็นอย่างไร
ยอดผู้ป่วยใหม่น่าจะลดลงเหลือต่ำกว่า 10,000 รายช่วงประมาณปลายเดือนกันยายนตามที่ผมเคยคาดการณ์ไว้ แต่หลังจากนั้นมีโอกาสที่จะเริ่มปรับตัวสูงขึ้น
เพราะผู้ที่ได้รับวัคซีนส่วนหนึ่งภูมิคุ้มกันเริ่มตกโดยเฉพาะผู้ที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ภูมิคุ้มจะต่ำจนไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอจะป้องกันเชื้อได้ ส่วนการบูสต์เข็มที่3 ในปีนี้สำหรับประชาชนทั่วไปคงยาก เพราะคนส่วนใหญ่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบ 2 เข็ม
คาดการณ์ยอดผู้ป่วยใหม่รายวัน
ตามแผนของรัฐบาลตั้งแต่ตุลาคมเป็นต้นไป จะเน้นฉีดแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์ ไม่มีการใช้ซิโนแวคแล้ว หมายความว่าช่วงเดือน ธ.ค. สถานการณ์น่าจะเริ่มดีขึ้นอีกครั้ง
อัตราการเสียชีวิตน่าจะลดลง เพราะระบบสาธารณสุขรองรับผู้ป่วยได้ดีขึ้น แต่กว่าจะลดต่ำลงมากๆ คงเป็นช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้าหลังจากได้รับวัคซีนที่ประสิทธิภาพสูงขึ้น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการส่งมอบวัคซีนที่เกิดขึ้นจริง หากยังมีการสั่งซิโนแวคเข้ามาอีกก็คงไม่เป็นไปตามที่หวัง
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่บอกเป็นการคาดการณ์ตามข้อมูลที่มี ตามมาตรการและแผนงานต่างๆของภาครัฐที่มีอยู่ในตอนนี้ ผมหวังว่าจะมีมาตรการอื่นๆ โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีนชนิด mRNA ให้ได้มากและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ถ้าทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์ สิ้นปีนี้เราอาจจะได้ฉลองปีใหม่กัน แม้จะไม่สามารถออกไปรวมกลุ่ม ดูคอนเสิร์ตได้เหมือนเดิม แต่บรรยากาศแห่งความสุขกลับมาบ้างก็ยังดีครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา