ขิงดองบุพชาติบานสะพรั่ง ณ แดนสรวง
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มปลูกขิงมากว่า 3,000 ปีที่แล้ว
เชื่อกันว่าชาวจีนน่าจะเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่ใช้ขิงในการปรุงอาหาร
ด้วยมีบันทึกไว้ว่า ขิงปรากฎในประเทศจีนตั้งแต่ 2,500 ปีมาแล้ว
จากหลักฐานที่เก่าที่สุดเขียนขึ้นโดย ‘เสินหนง’ เทพเจ้าแห่งชาวนา
เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งยาจีนพื้นบ้าน เพราะบันทึกสมุนไพรต่างๆ ไว้ จนกลายเป็นตำรา
เขาบันทึกถึงขิงไว้ว่า มีสรรพคุณที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดี
ทั้งยังมีบันทึกไว้อีกว่าอาหารทุกมื้อของขงจื้อต้องมีขิงอยู่ด้วยเสมอ
ขิงเดินทางจากจีนจนไปถึงศรีลังกาและได้รับการยกย่องขึ้นตำราอายุรเวทของอินเดีย
ซึ่งเขียนขึ้นประมาณ 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช
บรรยายถึงการใช้ขิงเป็นรักษาโรค โดยเฉพาะระบบย่อยอาหาร
ขิงจัดเป็นหนึ่งในสามของเครื่องเทศที่สำคัญ ถึงขั้นมีคำกล่าวว่า ทุกคนควรกินขิงก่อนกินข้าวกลางวันและข้าวเย็นเพื่อช่วยย่อยอาหาร
มหากาพย์สำคัญของศาสนาฮินดู อย่าง”มหาภารตะ” ก็กล่าวถึงอาหารจานหนึ่งที่ทำจากเนื้อ ผสมขิงและเครื่องเทศอื่นๆ ลงไปด้วย
ในอินเดียใต้ ขิงเชื่อมของชนชาวทมิฬเป็นที่นิยมมาก เรียกว่า “อินจิมุรัปปะ”
ในทมิฬมักนำขิงที่เผ็ดน้อยเอามาใช้ดองกับน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู เกลือ และพริกเขียว เก็บไว้ได้ 5 วันเพื่อเพิ่มรสของขิงให้เข้มขึ้น
คนญี่ปุ่นเริ่มรู้จักขิงผ่านจีนและเกาหลีตั้งแต่ช่วงพ.ศ. 710-794 ที่ศาสนาพุทธจากจีนเข้าไปในญี่ปุ่น
พระในยุคนั้นใช้สมุนไพรซึ่งรวมทั้งขิงรักษาโรคให้ชาวบ้าน
สำหรับชาวญี่ปุ่น ขิงเป็นทั้งอาหารและยา และยังถูกจัดอยู่ในวัตถุดิบโรยหน้าอาหารที่สำคัญ
เช่นเดียวกับต้นหอม วาซาบิ หัวไชเท้า ที่เรียกว่า ‘ยาคุมิ’ อาหารที่ทั้งเพิ่มรสชาติ สีสัน และเป็นยาด้วย
ในญี่ปุ่นยังมีเทศกาลขิงซึ่งจัดขึ้นในเดือนกันยายนของทุกปี เช่น ที่ศาลเจ้าขิบะ ไดจิงกุ กลางโตเกียว และที่ศาลเจ้านิโนมะยะที่อาคิรุโนะ
ในช่วงเทศกาลจะมีการแห่ศาลเพื่อแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าในลัทธิชินโต
ตัวศาลจะประดับด้วยขิงสด คนที่แบกจะตะโกนว่า “ปกป้องจากปีศาจร้าย” ซึ่งหมายความถึง “ถ้าคุณกินขิง คุณจะไม่เป็นหวัด”
นานวันเข้าอยู่พัฒนาการทางด้านอาหารได้เปลี่ยนไป การปรุงอาหารให้เป็นยาในรสชาติที่ถูกปากไปด้วยนั้นเริ่มเป็นที่นิยมโดยเฉพาะชาวจีน
ห้องเครื่องสำหรับในมหาราชวังจึงจัดทำขิงดองเพื่อใช้เสิร์ฟให้กับฮ่องเต้หรือองค์มหาจักรพรรดิ
และนั่นคือที่มาของขิงดองและวัฒนธรรมของกินขิงดองก็กระจายไปทัวร์เอเชียตะวันออกเชียงใต้
แต่ไม่ว่าวัฒนธรรมของที่ใด ขิงดองของไทยก็ติดอันดับหนึ่งในสามของเอเชียตะวันออกเชียงใต้เสมอ
ด้วยเพราะวิธีการดองที่วิจิตรบรรจงให้รสชาติที่ดีและให้รูปลักษณ์ที่สวยงามเจริญตาในขณะรับประทาน
วันนี้ฉันรู้สึกปลื้มใจเหลือเกินที่มีคนนำเอาขิงดองฝีมือ เช่นชาวราชสำนักไทยโบราณมาเยี่ยมหลังจากฟื้นตัวจากอาการป่วย
กราบขอบพระคุณ พี่หญิงอ๊อด ปัทมที่เป็นห่วงน้องสาวคนนี้ และอุสาสละเวลาปรุงขิงดองสูตรของต้นตระกูลอันแสนจะรสเลิศมาเยี่ยมน้องคนดี
กราบขอบพระคุณอย่างสูง
Unakan Yai komon
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
