Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โบราณนานมา
•
ติดตาม
26 ส.ค. 2021 เวลา 00:00 • ประวัติศาสตร์
วันนี้เมื่อ ๑๐๓ ปีก่อน
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรส ระหว่าง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา กับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ ณ พระที่นั่งวโรภาสพิมาน พระราชวังบางปะอิน เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๔๖๑
ความรักครั้งนี้เริ่มต้นที่วังพญาไท เมื่อหม่อมเจ้ารำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ ถวายตัวมาอยู่ภายใต้การดูแลของสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง) เพื่อมาถวายการรับใช้
วันหนึ่ง เมื่อว่างเว้นจากภารกิจต่าง ๆ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ (รัชกาลที่ ๗) เสด็จมาพบหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี ณ วังพญาไท จึงเกิดเป็นรักแรกพบ
ในขณะนั้น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราช ทรงเล็งเห็นว่า พระเจ้าน้องยาเธอฯ พระองค์นี้ทรงเป็นพระราชกุมารลำดับสุดท้ายในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ที่ร่วมพระราชชนนีเดียวกันถึง ๕ พระองค์ ดังนั้นโอกาสที่จะได้สืบราชสมบัติจึงเป็นได้ยาก เพราะต้องทรงผ่านลำดับถึง ๔ พระองค์
สมเด็จพระสังฆราช กราบทูลเชิญพระองค์ให้คงอยู่ในสมณเพศ เพื่อได้ทรงเป็นประมุขปกครองฝ่ายศาสนจักรต่อไป แต่พระองค์ทรงปฏิเสธ โดยทรงมีพระราชดำรัสว่า ทรงมีรักกับหญิงคนหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือ หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณีนั่นเอง
ในปี ๒๔๖๑ พระองค์ได้ทรงมีหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต อภิเษกสมรสกับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี ซึ่งพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาต และในพระราชพิธีสมรสในครั้งนี้ ได้เป็นครั้งแรกที่ทรงริเริ่มให้มีการจดทะเบียนสมรสในหมู่พระราชวงศ์ไทย
(ในตอนนี้ บางตำราก็เล่าว่า ทรงไปอ้อนสมเด็จพระศรีพัชรินทราฯ ให้ไปขอหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณีให้ สมเด็จพระศรีพัชรินทราฯ ยังไม่ยอม เพราะต้องถามฝ่ายนู้นให้รู้เรื่องซะก่อนจึงดำเนินการ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าฯ ทรงงอนไม่เสวยอะไรจนพระมารดายอมใจอ่อน)
ในเวลาต่อมา เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา ได้เสด็จขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ และหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี ได้รับพระราชอิสริยยศ เป็น สมเด็จพระนางเจ้า รำไพพรรณี พระบรมราชินี
ในปี ๒๔๗๕ เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร์ ซึ่งขณะนั้นทั้งสองพระองค์ยังประทับอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล ได้มีตัวแทนจากคณะราษฎร์ กราบบังคับทูลเชิญทั้งสองพระองค์เสด็จกลับพระนคร ซึ่งในตอนนั้น พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสถามความเห็นจากสมเด็จฯ ในฐานะคู่ชีวิตว่า
“...หญิงว่ายังไง...”
ทางด้านสมเด็จฯ นั้น แม้จะทรงเป็นสตรีเพศ แต่ได้กราบบังคมทูลด้วยความเด็ดเดี่ยวไปว่า
“...เข้าไปตายไม่เป็นไร แต่ต้องมีศักดิ์ศรีมีสัจจะ...”
ซึ่งทำให้พระเจ้าอยู่หัว ตัดสินพระทัยเสด็จกลับพระนคร และแล้วในวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๔๗๖ ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จอังกฤษและนั่นเป็นการอำลาสยามครั้งสุดท้ายของรัชกาลที่ ๗ เนื่องจากขณะที่ พระองค์ทรงรักษาพระเนตรจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศอังกฤษ ต่อมาได้ทรงขัดแย้งกับคณะรัฐบาล จึงตัดสินพระราชหฤทัยสละราชสมบัติ เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๔๗๗ (นับตามศักราชเก่า)
ในเดือนพฤษภาคม ๒๔๘๔ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมี พระอาการประชวร และเสด็จสวรรคต โดยมีพระชนมายุ ๔๘ พรรษา
ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์นั้น มีความรักเพียงครั้งเดียวคือ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย