26 ส.ค. 2021 เวลา 10:11 • หนังสือ
"ผมไม่เคยหาทางกระโดดข้ามรั้วสูงสองเมตร แต่จะมองหารั้วสูงครึ่งเมตรที่ผมสามารถก้าวข้ามไปได้" - วอร์เรน บัฟเฟตต์
หากเปรียบธุรกิจเหมือนต้นผลไม้ต้นหนึ่ง การทำธุรกิจก็เหมือนการเก็บผลไม้ ถ้าเราเลือกเก็บผมไม้ที่คุณภาพดีที่สุดแต่อยู่ไกลมือ อาจจะต้องใช้พลังงานและเวลาจำนวนมาก ในทางกลับกัน ถ้าเลือกเก็บลูกที่ดีพอใช้แต่อยู่ใกล้กว่าหลาย ๆ ลูก นอกจากจะเป็นการประหยัดทรัพยากรและเวลาแล้ว ผลลัพธ์อาจจะคุ้มค่ากว่าอีกด้วย
หนังสือเล่มนี้ชื่อ "คุณเด็ดผลไม้ลูกไหนในการทำธุรกิจ: 77 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานและธุรกิจที่ง่ายและใกล้ตัวจนคุณคาดไม่ถึง (Low-hanging fruit)" เขียนโดย เจเรมี อีเดน (Jeremy Eden) และเทอร์รี่ ลอง (Terri Long) แปลโดย พรเลิศ อิฐฐ์ สำนักพิมพ์ วีเลิร์น (WeLearn) เป็นหนังสือที่พูดถึงวิธีการมองปัญหาและแก้ไขปัญหาทางธุรกิจอย่างตรงจุดผ่านมุมมองผู้บริหาร (high level) โดยเฉพาะปัญหาเล็กๆ ที่เราอาจมองข้ามแต่สามารถสร้างความแตกต่างทางธุรกิจเพื่อเพิ่มผลกำไร ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
3 สิ่งที่ได้เรียนรู้
1. บ่อยครั้งที่ธุรกิจ/องค์กรทุ่มทรัพยากรและเวลามากมายไปกับเมกะโปรเจคที่มีความเสี่ยงสูง แต่กลับมองข้ามโปรเจคหรือสิ่งเล็ก ๆ ที่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าและเสี่ยงน้อยกว่า แต่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ
งานวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์องค์กรโดยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจยุโรปและวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน (LSE) ชี้ให้เห็นว่าทุก ๆ 1 % ของเวลาที่ CEO อยู่กับทีมงาน ประสิทธิภาพของทีมงานจะเพิ่มขึ้นราว 2.12 %
2. การมองเห็นปัญหามักทำได้ยากกว่าการมองเห็นวิธีแก้ปัญหา หลาย ๆ ครั้งการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุดทำให้สูญเสียทรัพยากรอย่างเปล่าประโยชน์ การมองเห็นปัญหาที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญ
ตัวอย่างเช่น สำหรับเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า (customer service) ที่รับมือกับข้อร้องเรียนของลูกค้าเป็นประจำแล้ว ปัญหาส่วนใหญ่ในมุมองของพวกเขาคือ การรับมือกับลูกค้าที่ไม่พอใจอย่างไรให้ดีขึ้น แต่สำหรับบริษัท ปัญหาที่แท้จริงคือทำไมลูกค้าจึงไม่พอใจและจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดซ้ำ
ผู้เขียนแนะนำเทคนิคการมองเห็นปัญหา (problem diagnosis) มากมาย อาทิ การตั้งคำถามว่าทำไม (why) การตั้งชื่อให้ปัญหาเพื่อระบุปัญหา การวิเคราะห์คุณค่าของสิ่งที่ทำ รวมทั้งการระดมความคิดเห็นของทีมงานเพื่อระบุปัญหา
3. การวางเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่/สำคัญบวกที่เชื่อมโยงกับการสร้างแรงบันดาลใจ ให้ทีมมีความสำคัญในการเก็บ low-hanging fruit
ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย การให้ความสนใจทีมงาน การแลกเปลี่ยนและเก็บเกี่ยวข้อมูล/ความคิดเห็น การใส่ใจรายละเอียด การมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ รวมถึงการประเมินผลและติดตามผล ส่วนตัวมองว่า วิธีการเหล่านี้จะได้ผลสูงสุดต่อเมื่อมีการสร้างทัศนคติให้กับบุคลากรในองค์กรว่าการพัฒนาธุรกิจ/องค์กรเป็นหน้าที่หลักของทุกคน
โฆษณา