อีกหนึ่งแนวคิดใหม่ในการป้องกันและชลอการเกิดปะการังฟอกขาวในแนวปะการัง "Great Barrier Reef" ด้วยการทำให้เมฆเหนือแนวปะการังนั้นขาวสว่างเจิดจ้ากว่าเดิม
ซึ่งจะช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์กลับออกไปนอกโลกและช่วยให้ผืนน้ำทะเลที่อยู่เหนือแนวปะการังนั้นได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์น้อยลง
เรือทดสอบชุดพ่นละอองน้ำทะเลเพื่อช่วยปกป้องแนวปะการังที่อยู่ด้านล่าง
Great Barrier Reef กลุ่มพืดแนวหินปะการังขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยกลุ่มเกาะปะการังกว่า 2,900 กลุ่มและเกาะอีก 900 เกาะทอดยาวเป็นระยะทางกว่า 2,300 กิโลเมตรตลอดแนวชายฝั่งของรัฐควีนแลนด์ประเทศออสเตรเลีย
ถือเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกสามารถมองเห็นได้จากอวกาศ เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยสำคัญของสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้
แนวปะการังส่วนหนึ่งของ Great Barrier Reef
แต่มาวันนี้แนวปะการังยักษ์นี้กำลังเผชิญความเสี่ยงครั้งสำคัญที่พวกมันจะพากันตายหมดด้วยปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาว
ปะการังฟอกขาวนั้นเป็นสภาวะที่ปะการังสูญเสียสาหร่ายเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อ ทำให้ปะการังอ่อนแอเพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและปะการังอาจตายไปในที่สุดถ้าหากไม่สามารถทนต่อสภาวะนี้ได้
สาเหตุของปะการังจะฟอกขาว ส่วนใหญ่เกิดจาก
1. อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างผิดปกติ
2. ความเค็มลดลงเนื่องจากอิทธิพลของน้ำจืด
3. สารเคมีในครีมกันแดดที่คนทากันก่อนลงเล่นน้ำทะเล ซึ่งกำลังเป็นประเด็นที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดต้องเปลี่ยนส่วนผสม
ค่อย ๆ ซีดและตายลงในที่สุด นี่คืออาการของปะการังฟอกขาว
โดยสาเหตุจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างผิดปกติก็เป็นผลสืบเนื่องจากภาวะโลกร้อนซึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงมีความพยายามหาวิธีการช่วยแนวปะการังยักษ์ที่เป็นระบบนิเวศน์ทางทะเลที่สำคัญยิ่ง
ล่าสุดทีมนักวิจัยจาก Sydney Institute of Marine Science และมหาวิทยาลัย Southern Cross ก็ประสบความสำเร็จในการทดสอบไอเดียใหม่ที่เรียกว่า ‘cloud-brightening’ การทำให้เมฆขาวสว่างเจิดจ้ากว่าเดิม
ด้วยการใช้อุปกรณ์พ่นละอองน้ำทะเลที่สูบผ่านหัวฉีดน้ำแรงดันสูงซึ่งจะทำให้เป็นไอน้ำละอองฝอยละเอียด(การทำ atomizing) ก่อนที่จะใช้พัดลมเป่าละอองไอน้ำเหล่านี้ออกไปเป็นลำเหนือผืนน้ำทะเล
อุปกรณ์ที่ว่านี้ก็คือ Fog Cannon ที่เคยมีคนเอามาใช้พ่นละอองไอน้ำสู้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 นั่นเอง แต่คราวนี้เอามาติดไว้บนเรือ
ด้วยละอองที่เล็กมากทำให้ละอองไอน้ำเหล่านี้ลอยตัวฟุ้งอยู่ในอากาศและถูกกระแสลมพัดพาเอาผลึกเกลือขึ้นไปยังเมฆที่ลอยอยู่ด้านบน ซึ่งผลึกเหล่านี้ก็จะเป็นแกนกระตุ้นให้เกิดการก่อตัวของก้อนเมฆ(แบบเดียวกับการทำฝนเทียม)
ซึ่งจะช่วยให้เมฆก้อนใหญ่ขึ้นและขาวสว่างขึ้นช่วยบดบังแดดและสะท้อนแสงอาทิตย์กลับไปสู่อวกาศ อันจะช่วยลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมายังฝืนน้ำด้านล่างช่วยให้น้ำทะเลบริเวณเหนือแนวปะการังมีอุณหภูมิลดลงได้
ในการทดสอบมีการใช้เรืออีกลำแล่นตามเรือพ่นละอองน้ำทะเล และมีการบินโดรนขึ้นไปตรวจวัดสภาพอากาศ ซึ่งผลจากการทดสอบเป็นที่น่าพอใจ
มุมมองจากโดรนที่บินจากเรืออีกลำ จะเห็นได้ว่าพ่นเยอะ ๆ ก็พอเป็นเมฆได้อยู่
ทั้งนี้ทีมนักวิจัยยังคงต้องทำการทดสอบและเก็บข้อมูลอีกมาก ว่าเทคนิคนี้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างเช่นส่งผลต่อปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่ ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะกลายเป็นว่าแก้ปัญหาอย่างหนึ่งแต่ไปทำให้เกิดปัญหาอื่นแทน
นักวิทยาศาสตร์ยังคงต้องทำงานแข่งกับเวลาในการปกป้องแนวปะการังนี้ เพราะมีการประเมินว่าถ้าสภาวะโลกร้อยยังดำเนินต่อไปในสภาพนี้ ภายในปี 2100 แนวปะการังจะหายไปจากมหาสมุทรทั่วโลก
Source:
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
