27 ส.ค. 2021 เวลา 10:19 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
โรคระบาด หรือ Epidemic
หมายถึง ปรากฎการณ์ของโรคติดต่อที่แพร่ระบาดขึ้นในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว
ที่มา: www.washingtonpost.com
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน
ที่ยังคงทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เราจะเห็นผู้คนล้มตายกันเป็นจำนวนมาก
จากการเสพข่าวสารนี้ในทุกๆ วัน ทำให้แอดมินเกิดนึกถึงเรื่องโรคระบาดในสมัยก่อนที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา ซึ่งมันนำมาสู่บทความในวันนี้
ในปัจจุบัน เรารับรู้แล้วว่าพวกโรคต่างๆที่เกิดขึ้น มันมีสาเหตุมาจากเชื้อ แบคทีเรีย หรือ ไวรัส ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายของเราก็จะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ขึ้นมา
มันก็ดูไม่แปลกอะไร แต่ ผู้อ่านลองนึกย้อนกลับไปประมาณ 200 - 300 ปีก่อน
สมัยที่คำว่า "วิทยาศาสตร์" ยังไม่ก้าวหน้าเมื่อเกิดโรคระบาดสักอย่างขึ้นมา ด้วยความที่ขาดความรู้มนุษย์เราจึงมองหาบางสิ่งเพื่อมาอธิบายถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น
จนนำไปสู่การโยงนั้นนี้ตามธรรมชาติ ที่ ว่าเกิดแบบนั้นจะเป็นลางดี อีกแบบจะเป็นลางร้าย ใช่แล้วครับมันเป็นนิยามของคำว่า "ความเชื่อ"
แน่นอน "ความเชื่อ" เป็นสิ่งที่ลงรากฝังลึกกับคนไทยมาอย่างยาวนาน
โดยหนึ่งในแพะรับบาปยอดฮิตก็คงหนีไม่พ้น "ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์"
ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ที่ถูกโยงกับ โรคระบาด ที่เห็นภาพจัดเจนที่สุด
ก็คงจะเป็นช่วงของ "อหิวาตกโรค" ที่ระบาดอย่างหนักในช่วงต้นกรุงรัตนโกสิน
อหิวาตกโรค หรือ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ "โรคห่า" เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Vibrio cholerae
เชื้อ Vibrio cholerae
การระบาดของโรคนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วง ร.2 ต่อเนื่องจนมาถึง ร.5
หลังจากนั้นก็พอจะมีเหตุการณ์ระบาดอยู่บ้างแต่ไม่รุนแรงเท่าในช่วงเวลาที่กล่าวไป
จิตรกรรมเขียนบนแผ่นไม้คอสอง ที่ ศาลาการเปรียญ วัดท่าข้าม แสดงถึงศพของผู้ติดเชื้อที่ถูกโยนลงแม่น้ำในช่วง ร.4
โดยในช่วง ร.4 เกิดการระบาดขึ้นใน พ.ศ. 2403 โดยก่อนหน้านั้น 2 ปี
ได้มีการปรากฏตัวของดาวหางสว่างดวงหนึ่งที่มี ชื่อว่า ดาวหางโดนาติ (Donati's Comet)
ซึ่งเป็น ดาวหางใหญ่แห่งปี 1858 (พ.ศ. 2401) ในตอนนั้นผู้คนได้หวาดกลัวเป็นอย่างมาก และ ได้มีการทำนายถึง ลางร้าย ที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง
ภาพวาด: ดาวหางโดนาติ จากหนังสือ Bilderatlas der Sternenwelt
แม้ในตอนนั้น ร.4 จะออกประกาศทางการเรื่อง "ประกาศดาวหางขึ้นอย่าให้วิตก" โดยมีใจความว่า
" ดาวดวงนี้ชาวยุโรปได้เห็นในยุโรปหลายเดือนแล้ว ดาวอย่างนี้มีคติ แลทางที่ดำเนินยาวไปในท้องฟ้า ไม่เหมือนดาวพระเคราะห์อื่น และดาวพระเคราะห์ทั้งปวง เป็นของสัญจรไปนานหลายปี แล้วก็กลับมาได้เห็นในประเทศข้างนี้อีก เพราะเหตุนี้ อย่าให้ราษฎรทั้งปวงตื่นกัน และคิดวิตกเล่าลือไปต่างๆ ด้วยว่ามิใช่จะเห็นแต่ในพระนครนี้ และเมืองที่ใกล้เคียงเท่านั้นมิได้ ย่อมได้เห็นทุกบ้านทุกเมือง ทั้งพิภพอย่างได้เห็นนี้แล "
โดยประกาศฉบับนี้นับเป็นประกาศทางวิทยาศาสตร์ฉบับแรกของประเทศไทยอีกด้วย
หลังจากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันก็มีดาวหางสว่างอีกดวงปรากฏตัวขึ้นอีก
ภาพวาด: ดาวหางเทบบุตต์ จากหนังสือ Bilderatlas der Sternenwelt
ดาวหางดวงนี้ชื่อว่า ดาวหางเทบบุตต์ (Tebbutt's Comet) ซึ่งเป็น ดาวหางใหญ่แห่งปี 1861 (พ.ศ. 2404)
ปรากฏขึ้นในช่วงเข้าปีที่ 2 ของการระบาด
ในครั้งนี้ก็มีประกาศเตือนขึ้นมาอีกครั้งว่า
"ถ้าใครเห็นอย่าให้ตกใจว่ากระไรวุ่นวายไป... คือว่า กลัวฝนแล้ง เมื่อฝนยังมีอยู่ก็ให้รีบทำนาเสีย... ให้จัดซื้อข้าวเตรียมเก็บไว้ให้พอกิน อย่าตื่นขายเสียนัก... ถ้ากลัวความไข้เกลือก...ยังไม่ได้ออกฝีดาษก็ให้รีบมาปลูกฝีดาษ"
จะเห็นได้ว่าแม้จะมีประกาศที่ชี้แจงว่าการมาของ ดาวหาง ไม่ได้เกี่ยวข้องใดกับโรคระบาดหรือลางร้ายใดๆ แต่คนในสมัยก่อนก็ไม่เลือกที่จะเชื่อกันมากนัก
ต่างกับในปัจจุบันที่เราเลือกที่จะเชื่อวิทยาศาสตร์มากกว่า และ รู้แล้วว่าดาวหางเป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบสุริยะ
เป็นบริวารของดวงอาทิตย์เหมือนกับโลกของเราไม่ได้มีอำนาจอะไร หรือ เป็นตัวแทนลางร้ายเหมือนกันกับที่คนในสมัยก่อนเชื่อกัน
อย่างในตอนนี้ที่โรคโควิค-19 กำลังระบาด ถ้าดาวหางเป็นต้นเหตุจริงๆ ตอนนี้บนท้องฟ้าของเราคงมีวัตถุทางดาราศาสตร์ชนิดหนึ่งที่สวยงดงามให้ได้ชมกันแล้ว
โฆษณา