ความแตกต่างระหว่าง Yellow Honey, Red Honey & Black Honey Process
คุณอาจจะได้ยินกันคุ้นหูกับกาแฟโปรเซสแบบ Washed process Dry process และ Honey process แต่คุณรู้หรือไม่ว่ากาแฟแบบ Honey process นั้น สามารถแบ่งแยกย่อยออกมาได้อีก วันนี้เรามาทำความรู้จักไปพร้อมๆกันว่ามีอะไรบ้าง
แต่ก่อนที่เราจะมาแยกย่อยกันนั้น เรามาทำความเข้าใจกันสักนิดก่อนว่ากาแฟแก้วโปรดของคุณมาจากไหนและ Honey process คืออะไร
กาแฟหอมกรุ่นแก้วโปรดที่หลายคนต่างหลงใหลนั้นมาจากเชอร์รี่กาแฟ ผลสีแดงสดจากต้นกาแฟ หรืออาจจะมีทั้งสีเหลือง สีส้ม ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของกาแฟ ก่อนจะได้มาเป็นเมล็ดกาแฟคั่วที่หอมกรุ่นนั้นก็ต้องผ่านกระบวนการโปรเซสกันก่อน ซึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมและพบมากที่สุดก็เห็นจะเป็น Washed process และ Dry process หรือ Natural Process นั่นเอง
และสำหรับหัวข้อหลักของเราในวันนี้อย่าง Honey Process นั้นเป็นการโปรเซสที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง Washed process และ Dry process คือมีการนำเอาเชอร์รี่กาแฟมาสีเปลือกและเนื้อของกาแฟออก และนำไปตากแห้งโดยที่ยังมีเมือกเหลืออยู่ที่เมล็ดกาแฟ
สาเหตุที่เรียกว่า Honey Process นั้น เป็นเพราะเมือกที่ติดอยู่กับเมล็ดกาแฟ มีความหวานและเหนียวเหมือนน้ำผึ้งนั่นเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเมือกที่ว่านี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับรสชาติที่เหมือนน้ำผึ้งแต่อย่างใด แต่กาแฟที่ผ่านการโปรเซสด้วยวิธีนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องของรสชาติที่มีความหวานอมเปรี้ยวจนใครๆต่างพากันเข้าใจว่ามันมีรสชาติเหมือนน้ำผึ้งนั่นเอง หรือในบางคนอาจเข้าใจไปถึงว่ามีการใช้น้ำผึ้งในการหมักกาแฟเลยก็เป็นได้
ซึ่งในกระบวนการ Honey Process จะขึ้นอยู่กับจากความร้อน ความชื้น และการทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของน้ำตาลกับออกซิเจนในอากาศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ค่อนข้างยาก โดยกาแฟที่ผ่านการผลิตแบบ Honey Process ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่แตกต่างจะแบ่งแยกได้ดังนี้
Honey Process สามารถแบ่งแยกออกมาได้ดังนี้คือ White Honey, Yellow Honey, Gold Honey, Red Honey และ Black Honey ซึ่งความแตกต่างของแต่ละแบบนั้นก็สามารถอธิบายได้ดังนี้
อันดับแรก ความแตกต่างง่ายๆ คือ White และ Yellow นั้นจะมีเมือกติดอยู่ที่เมล็ดกาแฟน้อยกว่า หลังจากที่ผ่านกระบวนการโปรเซส แต่ในทางตรงกันข้ามกัน Gold Honey, Red Honey และ Black Honey นั้นจะมีเมือกติดอยู่ที่เมล็ดกาแฟอยู่มากกว่าสองแบบแรกนั่นเอง
White honey จะผ่านกระบวนการล้าง และสีเอาเปลือกของเชอร์รี่กาแฟออกโดยที่หลังจากผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้วจะมีเมือกเหลืออยู่ที่เมล็ดกาแฟเพียงเล็กน้อย และเมื่อนำไปตากแห้ง จะมีสีออกเป็นสีขาวคล้าย Washed Process แต่ก็ไม่ได้ขาวเท่ากาแฟที่ผ่านการโปรเซสแบบ Washed
Yellow honey จะผ่านกระบวนการล้าง และสีเอาเปลือกของเชอร์รี่กาแฟออกเช่นเดียวกันกับ White Honey แต่จะต่างกันตรงที่หลังจากผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้วนั้นจะมีเมือกที่รอบๆเมล็ดมากกว่า White Honey เล็กน้อย และเมื่อนำไปตากแห้ง กะลากาแฟที่แห้งแล้ว จะมีสีออกไปในโทนสีเหลืองมากขึ้นกว่า White Honey
Gold Honey, Red Honey และ Black Honey ความแตกต่างของทั้ง 3 แบบนั้นคือระดับของเมือกที่เหลืออยู่ที่เมล็ดกาแฟหลังจากการสีเปลือกของเชอร์รี่กาแฟออกแล้ว รวมถึงการควบคุมความชื้นและระยะเวลาที่ใช้ในการตากแห้งนั่นเอง
โดยในแต่ละรูปแบบนั้นก็มีสิ่งที่แตกต่างกันดังนี้
Gold honey จะเป็นการโปรเซสที่เมื่อเชอร์รี่กาแฟผ่านกระบวนการล้าง และสีเอาเปลือกของเชอร์รี่กาแฟออกแล้วมีเมือกเหลืออยู่ที่เมล็ดกาแฟนั้น จะถูกทำให้แห้งในช่วงเวลาที่อบอุ่นและมีแดด ทำให้มีความชื้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Red Honey และ Black Honey ซึ่งการตากในเวลาที่มีแดดนั้นจะช่วยให้กาแฟแห้งเร็วขึ้น จนเมื่อเมือกกาแฟนั้นแห้งแล้วมีสีเหลืองทองที่เข้มกว่าสีเหลืองใน Yellow Honey แต่ไม่ถึงสีแดงแบบ Red Honey
Red honey เป็นการโปรเซสที่เกิดขึ้นโดยใช้พื้นที่ร่มมากขึ้น และโดนแสงแดดน้อยกว่า Gold Honey ทั้งเพื่อชะลอเวลาในการทำให้แห้ง ทำให้ความชื้นที่อยู่ที่กาแฟค่อยๆลดลงทีละน้อย จนเมือกกาแฟที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบนั้นเกิดการพัฒนาตัวเองจนเมื่อแห้งแล้วให้สีออกในโทนสีน้ำตาลแดง นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ Red Honey ในที่สุด
Black honey เป็นการโปรเซสกาแฟในรูปแบบเดียวกันกับ Red Honey คือเมื่อกาแฟผ่านกระบวนการต่างๆจนเหลือเมล็ดกาแฟที่มีเมือกกาแฟอยู่ และถูกนำไปตากแห้งในที่ร่ม โดยให้เมล็ดกาแฟค่อยๆแห้งอย่างช้าๆ และเพิ่มระยะเวลาในการตากแห้งมากขึ้น จนเมื่อแห้งดีแล้วนั้น เมือกของกาแฟได้เปลี่ยนสีเป็นสีออกน้ำตาลเข้ม ไปจนถึงสีดำแต่ไม่ใช่ดำสนิทเสียทีเดียว และด้วยสีที่ออกไปในทางเข้มจนเกือบดำนี้ เป็นเหตุผลที่การโปรเซสในรูปแบบนี้ถูกตั้งชื่อว่า Black Honey Process นั่นเอง
ทั้งนี้การโปรเซสกาแฟในรูปแบบของ Honey Process นั้นต้องใช้เวลาและความอดทนเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องควบคุมปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนารสชาติกาแฟอย่างความชื้น และอุณหภูมิ ในหลายๆครั้งจึงทำให้การโปรเซสในรูปแบบของ Gold Honey, Red Honey และ Black Honey นั้น ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก หรือหากมีก็จะอยู่ในรูปแบบของการโปรเซสในปริมาณที่น้อย แต่ถึงกระนั้น การโปรเซสในรูปแบบ White Honey นั้นเอง ก็อาจทำให้รสชาติของกาแฟที่ได้นั้นไม่แตกต่างกับ Washed Process มากนัก จึงอาจไม่คุ้มค่าที่จะทำ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ Yellow Honey Process นั้นเป็นโปรเซสที่เกษตรกรเลือกใช้มากที่สุดนั่นเอง รวมถึงบลูคอฟก็ด้วยเช่นเดียวกัน
เห็นแบบนี้แล้วขออนุญาตไปสั่งกาแฟ Americano ร้อนๆสักแก้วไว้ดื่มในวันฝนพรำก่อนดีกว่า และสำหรับใครที่สงสัยว่าแล้วบลูคอฟทำ Honey Process อย่างไรนั้น สามารถติดตามอ่านบทความดีๆแบบนี้ได้ใน Blockdit ของบลูคอฟได้เลย เพราะเราได้พาคุณบุกไปยังหมู่บ้านดอยช้าง จังหวัดเชียงรายกันอีกครั้งเพื่อไขความลับการทำกาแฟ Honey Process ในแบบฉบับของบลูคอฟ