29 ส.ค. 2021 เวลา 08:33 • นิยาย เรื่องสั้น
1️⃣0️⃣ ยอดฝีมือ 🦸
1️⃣0️⃣ ยอดอาวุธ ⚔️🛡
จากตำราอาวุธของแป๊ะเฮี่ยวเซ็ง
....ในความมากมายของจอมยุทธ์และอาวุธนั้น แม้การจัดอันดับยอดฝีมือและความร้ายกาจอำมหิตของอาวุธแต่ละชนิดจะเป็นความยากลำบากอย่างยิ่ง เสี่ยงต่อการวิจารณ์แห่งวิจารณ์เป็นอย่างยิ่ง
แต่กระนั้น ยุทธจักรยังมีอุตส่าห์มี “สัพพัญญู” เยี่ยง “แป๊ะเฮี่ยวเซ็ง”
แต่งตำราอาวุธ (เปี่ยซี่โพ้ว) ขึ้นมา
ทางหนึ่ง “ตำราอาวุธ” เป็นเหมือนบรรทัดฐานการจัดอันดับ
และความร้ายกาจของอาวุธแห่งยุทธจักร
แต่อีกทางหนึ่ง ตำรานั้นกลับเป็นเครื่องกระตุ้นเร้า
นำไปสู่มรสุมโลหิตแห่งการเข่นฆ่าทำลาย
เข่นฆ่าเพื่อการไต่อันดับ ทำลายเพื่อเข้าไปแทนที่
เข่นฆ่า ทำลาย และนองเลือดเพื่อทะยานขึ้นสู่ยอดสูงสุดแห่งบู๊ลิ้ม
....
บทความนี้ข้าพเจ้าคัดมาจากหนังสือ "#ชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์” ของอ.เสถียร จันทิมาธร ซึ่งควรค่าแก่การศึกษา
เป็นอย่างยิ่ง ด้วยว่าได้ วิเคราะห์ สังเคราะห์นิยายท่านโกวเล้งออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับผมยึดถือเป็นตำราครูเล่มหนึ่งเลยครับ
ในความเห็นของข้าพเจ้า (อนันตทวิ) ตำราอาวุธเป็นสิ่งที่
เร่งเร้าการประหัตประหารของยอดฝีมืออันดับ 1-10 อย่างยิ่งยวด
ก่อให้เกิดมรสุมการนองเลือด
เพราะ ชื่อเสียง ย่อมนำมาซึ่งอำนาจ
อำนาจ ย่อมนำมาซึ่งเงินตรา
เงินตรา ย่อมนำมาซึ่ง #หญิงงาม
.
🍁🍁ชื่อเสียง เงินทอง อำนาจ สตรีโฉมสะคราญ เป็นกิเลสที่เหล่าจอมยุทธมิอาจผ่านได้มาแต่โบราณครับ ..
📚
“ตำราอาวุธ” ของแป๊ะเฮี่ยวเซ็ง ได้รวบรวมและประมวลขึ้น
จากความเป็นจริงของยุทธจักร
มีขอบเขตและห้วงเวลามากกว่า 20 ปีขึ้นไป
เป็นการประมวลจากยอดฝีมือจำนวนนับหมื่น
คั้นกลั่นเอาไว้เพียงเกือบ 100 คน
และจากจำนวนเกือบ 100 คนนั้น มีที่สามารถติด 10 อันดับ
โดยเรียงจากอันดับ 10 ไปสู่อันดับ 1ดังนี้ครับ
อันดับ 10 ได้แก่ “ขลุ่ยหยก” (เง็กเซียว) ของ
1
“ตังไฮ้เง็กเซียว” (ขลุ่ยหยกแห่งทะเลตะวันออก)
อันดับ 9 ได้แก่ “หัตถ์อสูรเขียว” (แชม้อชิ้ว) ของอีเข่า
1
อันดับ 8-7-6 ในหนังสือ อ.เสถียรฯ บอกว่าค่อนข้างมีปัญหาในรายละเอียด ทั้งนี้ เนื่องจาก
ในยุทธนิยายเรื่อง “ฤทธิ์มีดสั้น” กำหนดให้ ไม้เท้าเหล็กเทวราช (กิมกังทิไกว้) ของจูกัวะกังอยู่อันดับ 8 และ
“แส้เทพเจ้า” (เปียงซิ้ง) ของ “ไซมึ้งยิ้ว “ อยู่อันดับ 7
แต่ในยุทธนิยาย เรื่อง เหยี่ยวเดือนเก้า กลับให้ “แส้เทพเจ้า “ของ ไซมึ้งยิ้ว ขึ้นอยู่อันดับ 6 และ
“ไม้เท้าเหล็กเทวราช” ของจูกัวะกัง เป็นอันดับ 7 โดยที่ฤทธิ์มีดสั้น ไม่กล่าวถึงอันดับ 6 และเหยี่ยวเดือนเก้า
ไม่เอ่ยถึงอันดับ 8
(ดังนั้น ขอให้ชาวยุทธจักรโกวเล้ง อนุโลมให้ทั้งจูกัวะกังและไซมึ้งยิ้วครองระหว่างอันดับ 8-7-6 ไปโดยพื้นฐานก่อนครับ)
..หากไปถามแป๊ะเฮี่ยวเซ็งให้จัดอันดับใหม่ก็ไม่สามารถ เพราะท่านลี้คิมฮวงซัดเซี่ยวลี้ปวยตอปักคอหอยไปเรียบร้อยแล้วครับ^^😏
อันดับ 5 ได้แก่ หอกเงินของ “เจ้าแห่งหอกเงิน” (อุนโฮ้วงึ่นเก็ก) ลู่ฮงเซย
อันดับ 4 ได้แก่ “กระบี่เหล็กซงเอี้ยง” (ซงเอี้ยงทิเกี่ยม) ของก๊วยซงเอี้ยง
อันดับ 3 ได้แก่ “มีดบิน” (ปวยตอ) ของลี้คิมฮวง
อันดับ 2 ได้แก่ “ สองห่วงหงส์มังกร ” (เล่งหงส์ซ่งฮ้วง) ของเซี่ยงกัวกิมฮ้ง
อันดับ 1 ได้แก่ “กระบองสมปรารถนา” (ยู่อี้ปัง) ของ “เทียนกีเล่านั้ง” (ผู้เฒ่าลิขิตฟ้า)
**หมายเหตุ การจัดอันดับตำราอาวุธมิได้จัดอันดับ
จอมยุทธ์ที่เป็นสตรีร่วมอันดับด้วย
และยังไม่รวมถึง “ โอ้วปุกกุ้ย ” (ไม่กลับ) ซึ่งมีฝีมือสูงส่งและลี้ลับ อาวุธที่ใช้คือ กระบี่ไม้ไผ่ซึ่งพิสดารอย่างยิ่ง
ความรอบรู้ก็กว้างขวางเจนจบ กระทั่งสามารถ “สยบ” (เพียง “สยบ”)
ลี้คิมฮวงได้ ถึงกระนั้นบุคคลผู้นี้ก็มิได้ติดอันดับ 1 ใน 10
เหตุเพราะ โอ้วปุกกุ้ยมีความฟั่นเฟือน บางครั้งเลิศล้ำสุดยอด
แต่บางครากลับเหลวไหลบัดซบยิ่ง
แป๊ะเฮี่ยวเซ็งเห็นถึงความ “ไม่แน่นอน” จึงไม่จัดเข้าใน 10 อันดับ
🍂🍃
อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับ “ ตำราอาวุธ ” อาจมิได้บ่งบอกถึงฝีมือที่แท้จริง ดั่งเช่นอันดับ 1 กระบองสมปรารถนา ก็พ่ายแพ้อันดับ 2 “สองห่วงหงส์มังกร” และอันดับ 2 เอง ก็พ่ายแพ้แก่ มีดบิน เซี่ยวลี้ปวยตอของลี้คิมฮวง
ข้าพเจ้าจึงขอเล่าถึง 10 อันดับตำราอาวุธ
เมื่อต้องประลองยุทธจริง จักเป็นเช่นไร ?
1. ตังไฮ้เง็กเซียว ขลุ่ยหยกแห่งทะเลตะวันออก
นักพรตชราผู้นี้ ต่อมากลายเป็น 1 ใน 4 เจ้าฟ้าแห่งนิกายอสูร (ม้อก้า)
เป็นผู้ชมชอบสตรีแรกรุ่นดรุณวัยอย่างไม่เคยแปรเปลี่ยน
ขลุ่ยหยกขจีสีเขียวอ่อนมันเหน็บกับสายรัดเอวสีทองอร่าม
ขลุ่ยนี้สามารถใช้ต่างพู่กันจี้จุด ใช้ต่างกระบี่
นอกจากนั้น ในตัวขลุ่ยยังซ่อนอาวุธลับคล้ายตะปูอาบยาพิษ
ขณะบรรเลงเพลงขลุ่ย มันยังสามารถปล่อยอาวุธลับ
ออกมาได้อย่างนอกเหนือการคาดคิด
แม้มันจะมีวิชากว้างขวางลึกซึ้งครอบคลุมถึง 13 สำนัก
แต่มันก็เอาสังขาร 60 ปี มาตายด้วยคมกระบี่
ของ “ก๊วยเต๋ง” ทายาทเพียงหนึ่งเดียว
ของกระบี่เหล็กก๊วยซงเอี้ยง
2. แชม้อชิ้ว หัตถ์อสูรเขียวอีเข่า
แม้คำร่ำลือในยุทธจักรกล่าวกันว่า หากใครถูกพิษจาก “#หัตถ์อสูรเขียว”
ยิ่งหากสามารถตายเร็วมากเท่าใดก็ยิ่งสุขสบายไม่ทรมานมากเท่านั้น
เมื่อใดที่ “ หัตถ์อสูรเขียว ” ของมันยื่นออกมา
ควันสีเขียวสายหนึ่งจะพุ่งและส่งแรง
ระเบิดเบา เบาคล้ายเป็นควันกลุ่มใหญ่ แผ่กระจายกลิ่นความคลุ้งตลบ
ดั่งคำพังเพยที่ว่า
“ บู๊ลิ้มมีเจ็ดพิษ อำมหิตที่สุดคือแชม้อชิ้ว ”
อันสำแดงถึงความร้ายการของอาวุธชนิดนี้
แต่ “ เหนือฟ้ายังมีฟ้า ” เหนือคนยังมีคน
แชม้อชิ้ว อีเข่ากลับตายภายใต้คมกระบี่อันเฉียบคมฉับไวของอาฮุย
3. กิมกังทิไกว้ ไม้เท้าเหล็กเทวราช
ไม้เท้าเหล็กเทวราชเป็นไม้เท้าเหล็กหนัก 62 ชั่ง
ซึ่งอยู่ในมือจูกัวะกง คนกลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์
จูกัวะกงแม้ชั่วร้ายอำมหิต แต่วาจากลับนุ่มนวลอ่อนละมุน
น้ำเสียงน่าฟังนอกจากนั้นภายในอกเสื้อของมัน
ยังมีซองมีดเรียงรายอยู่ 2 แถว มีทวนซัดสั้น- ยาว เสียบอยู่ 49 เล่ม
พู่ที่หัวทวนแดงฉานปานโลหิตสด!
กระบวนท่าอันสร้างชื่อให้กับมันคือ “#ฟาดกวาดทั้งกองทัพ”
(ฮ้วยเล่าเชยกุน) ที่มองเผินเผินเหมือนธรรมดาสามัญ
หากแต่เมื่อสำแดงออกกลับเปี่ยมอานุภาพเข้มแข็ง
ทรงพลังยิ่งแม้ไม้เท้าเหล็กจูกัวะกังจะมีความเหนือกว่า
แส้เทพเจ้าไซมึ้งยิ้ว แต่เมื่อปะทะกับกระบี่เหล็กก๊วยซงเอี้ยง
ไม้เท้าเหล็กก็ถูกฟันขาด 2 ท่อน และตายอย่างรวดเร็วจนเหลือเชื่อ
4. เปียงซิ้ง แส้เทพเจ้าไซมึ้งยิ้ว
แส้เทพเจ้าของมันสีดำมะเมื่อม ยาวเกือบ 5วาเศษ แต่ไม่ถึง 6 วา
กล่าวกันว่าการฝึกอาวุธอ่อนนั้นยิ่วยาวยิ่งใช้ยากลำบาก
แต่เมื่อมาอยู่ในมือของไซมึ้งยิ้วคล้ายดั่งพลันมีชีวิต
และคล้ายดั่งพลันมีดวงตาคมกล้างอกขึ้นมา
ไซมึ้งยิ้วเมื่อสะบัดมือ วูบ! แส้พลันม้วนขึ้นเป็น 7-8 วง
แม้ยาวแต่หมุนไม่หยุดยั้ง
กระทั่งทั่วทั้งร่างมันคล้ายดั่งลูกข่ใหญ่
แส้ยิ่งม้วนเร็ว ร่างยิ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
ยิ่งม้วนยิ่งเร็ว ยิ่งม้วนยิ่งสูง
ในยามแส้ม้วนตัว หากมีอาวุธใดซัดเข้าไปต่อให้
เป็นทวนเหล็กก็ยากที่จะไม่หักสะบั้น
ภายหลังเมื่อปะทะกลับจูกัวะกัง ไม้เท้าเหล็กเทวราช
และยอดฝีมือของพรรคกิมจี้ปัง (พรรคเหรียญทอง)
ณ หมู่ตึกเมฆโรจน์ (อึ้งฮุ้น)
ยามเมื่อใกล้แพ้พ่ายลี้คิมฮวงได้ช่วยชีวิตเอาไว้
นับเเต่นั้นมันก็หายสาบสูญไปจากยุทธจักรอย่างไร้ร่องรอย...
5. อุนโฮ้วงึ้นเก็ก เจ้าแห่งหอกเงิน
เจ้าแห่งหอกเงิน ลู่ฮงเซย ผู้นิยมชมชอบการแต่งการชุดขาว
โดยหอกเงินถูกจัดอยู่ในอันดับ 5 แห่งตำราอาวุธ
แม้อันดับไม่ต่ำ แต่กับลู่ฮงเซย ถือเป็นความอัปยศอดสู
ถึงกับตัดสินใจทำลาย “หอกเงิน”
เเละฝึก “ มือ ” ของมันเพียงประการเดียวจนแกร่งกร้าวราวดั่ง “ เหล็ก ”
เพียงมันใช้นิ้วมือ หนีบเบา เบา ก็สามารถตัดแท่งเงินออกเป็น
16-17 ท่อนภายในพริบตา
ในความเห็นข้าพเจ้าแม้มันพากเพียรสร้างมรรคาขึ้นใหม่ จาก “เจ้าแห่งหอกเงิน” มาเป็น
“เจ้าแห่งมือเหล็ก”
แต่ดั่งคำภาษิตโบราณ วีรบุรุษยากผ่านด่านหญิงงาม
โดยเฉพาะหญิงงามนั้นคือ “ลิ่มเซียนยี้”
ทำให้ยามเมื่อประสบกับเซี่ยงกัวกิมฮ้ง และเจอ “#ลิ่มเซียนยี้” ทรยศ
เซี่ยวกัวกิมฮ้ง ในมือแม้ไม่มีห่วงแต่ในใจมีห่วง
มิต้องออกกระบวนท่าใด กลับทำลายลู่ฮงเซยพ่ายแพ้ยับเยิน
จนต่อมาตกต่ำกลายเป็นปีศาจสุราและสาบสูญไปจากยุทธจักร
🌿🌿
อีก 20 ปีต่อมา “ลู่เต็ก” ทายาทเพียงหนึ่งเดียวของมันผู้แสนกลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์ก็ตายด้วยมือของเซี่ยงกัวเซียนเซียน
บุตรีของเซี่ยงกัวกิมฮ้ง ซึ่งมารดาของนางคือ ลิ่มเซียนยี้ นั่นเอง
นับว่าชะตาชีวิตของบุรุษ แซ่ “#ลู่” น่าอนาถยิ่งนัก !!!
6. ซงเอี้ยงทิเกี่ยม กระบี่เหล็กซงเอี้ยง
ก๊วยซงเอี้ยงชมชอบแต่งกายชุดดำ
โพกผ้าดำ รองเท้าถุงดำ แม้ด้ามกระบี่และฝักกระบี่ที่อยู่กลางหลังก็เป็นสีดำ
กระบี่เหล็กของมันเมื่อหลุดออกจากฝัก
มีเสียงกระหึ่มปานมังกรคำราม
ตัวกระบี่เหล็กก็เป็นสีดำ
ก๊วยซงเอี้ยง
แม้รูปร่างมันสูงใหญ่ล่ำสัน แต่กลับเข้มแข็ง ปราดเปรียว
ก๊วยซงเอี้ยง ได้ท้าประลองกับลี้คิมฮวงเพื่อพิสูจน์ฝีมือ
ระหว่างอันดับ 3 กับอันดับ 4 แห่งตำราอาวุธ
แม้กระบี่เหล็กของมันจะฟันมีดบินของลี้คิมฮวงหักปลาย
แต่เป็นเพราะลี้คิมฮวงเองคำนึงถึงน้ำใจมิตรสหาย
แม้มีโอกาสถึง 3 ครา กลับไม่ซัดมีดบินออกไป
นับแต่นั้นมา น้ำใจมิตรสหายของสองบุรุษแนบแน่นยิ่ง
กาลต่อมา ก๊วยซงเอี้ยงยอมพลีชีพสังเวยภายใต้กระบี่ของ “จิ้นบ้อเมี่ย”
(ไม่มีชีวิต) ยอดฝีมือของพรรคกิมจี้ปัง (พรรคเหรียญทอง)
เพื่อที่บาดแผล 19 แห่ง อันกรีดไปตามร่างของมัน
จะเป็นเสมือนสารที่มิต้องเอ่ยวาจาต่อลี้คิมฮวง
ให้ลี้คิมฮวงได้รับรู้ด้วยตา ในยามเมื่อต้องประลองกับจิ้นบ้อเมี่ย
นับเป็นน้ำใจของสหาย นี่คือคุณธรรม น้ำมิตร ที่หาได้ยากยิ่งในบู๊ลิ้ม
ต่อมาภายหลัง “ มีดบิน ” ของลี้คิมฮวง
ได้รับการยอมรับจากชาวยุทธจักร ให้ขึ้นสู่อันดับ 1
คงเป็นเพราะ 1 กับ 2 ได้สิ้นชีพไปหมดแล้ว เเละอันดับ 2 ก็ได้ตายภายใต้มีดบินของลี้คิมฮวง
ส่วนกระบี่ของอาฮุยในช่วงวัยกลางคน ที่บรรลุถึงขั้นสุดยอดแล้ว
ในทรรศนะของข้าพเจ้า หากมีการจัดอันดับใหม่ย่อมติดทำเนียบ 10 อันดับตำราอาวุธเช่นกันครับ
🍁🍁
แง่คิดในการทำงานจากนิยายฤทธิ์มีดสั้น
โดย อ. ธงชัย โรจน์กังสตาล
นิยายกำลังภายในเรื่องดังของโกวเล้ง “ฤทธิ์มีดสั้น” ให้ข้อคิดด้านการสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล , การฝึกทักษะ และพลังใจ
กล่าวถึงตัวเอกของเรื่องชื่อ “ลี้คิมฮวง” ผู้มีฉายาว่า “เซียวลี้ปวยตอ” หรือ
ลี้น้อยมีดบิน ผู้ใช้มีดสั้นเป็นอาวุธประจำตัว เป็นจอมยุทธ์ที่มีฝีมือสูงส่งเป็นอันดับสามของแผ่นดิน
ถึงแม้ว่า "ฤทธิ์มีดสั้น" เป็นนิยายกำลังภายในที่ดำเนินเรื่องในอดีต
แต่มีข้อคิดบางอย่างที่เราใช้ในการทำงานยุคปัจจุบันได้ครับ
1. อาวุธภายนอกไม่สำคัญเท่าผู้ใช้อาวุธ🧘‍♂️
ในนิยายฤทธิ์มีดสั้น มีการจัดอันดับฝีมือของจอมยุทธ์
ซึ่งฝีมือของลี้คิมฮวงอยู่ในอันดับสาม
จัดว่าเป็นระดับสุดยอดคนหนึ่งของยุทธจักร
ตอนหนึ่งของนิยายกล่าวว่า ลิ่มเซียนยี้ (ผู้หญิงที่สวยและร้ายกาจที่สุดในเรื่องนี้) ต้องการเกราะป้องกันตัวจากลี้คิมฮวง
จึงเสนอว่าขอแลกเปลี่ยนเกราะที่ลี้คิมฮวงครอบครองกับ
“ถุงมืออสูรเขียว” ที่ลิ้มเซียนยี้มี
ถุงมืออสูรเขียวสร้างจากการหลอมโลหะที่ดีที่สุดในแผ่นดิน
และแช่อยู่ในพิษร้อยชนิดเป็นเวลาเจ็ดปี
อันดับฝีมือของถุงมืออสูรเขียวคือ อันดับเก้า
ลี้คิมฮวงโต้ตอบว่า “มีดสั้นของข้าพเจ้า ช่างเหล็กธรรมดาใช้เวลาตีสามชั่วยาม แต่ตำราอาวุธจัดไว้ในอันดับสาม”
หมายความว่า มีดสั้นของลี้คิมฮวงเป็นอาวุธธรรมดา
ไม่มีอะไรพิเศษหรือพิสดาร
แต่เนื่องจากลี้คิมฮวงมีฝีมือเก่งกาจมาก
จนทำให้มีดสั้นธรรมดาที่อยู่ในมือของลี้คิมฮวง
กลายเป็นอาวุธล้ำเลิศของยุทธจักร
ในขณะที่ถุงมืออสูรเขียวซึ่งเป็นอาวุธวิเศษ
ใช้เวลาหลายปีในการสร้าง แต่อยู่ในมือของคนด้อยฝีมือกว่า
จึงอยู่ในอันดับเก้า
คนทำงานหลายคนมักขวนขวายหาอุปกรณ์ไฮเทคหรือราคาแพงมาช่วยในการทำงาน แต่บางครั้งอุปกรณ์เหล่านี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
เพราะสิ่งสำคัญคือมนุษย์ไม่ใช่อุปกรณ์🦸
มีอุปกรณ์หรือเครื่องมืออะไรบ้างที่ผู้อ่านจำเป็นต้องใช้จริง และมีอุปกรณ์ใดบ้างที่เป็นแค่ส่วนเสริมซึ่งตัดทิ้งได้ครับ
2. เก่งจริงหนึ่งเรื่อง🖕☄️
.
ในเรื่องนี้ ตัวละครแต่ละคนจะใช้อาวุธที่แตกต่างกัน
และมีฉายาตามอาวุธที่ใช้ เรียงตามลำดับความเก่งดังนี้
- อันดับหนึ่งคือ กระบองลิขิตฟ้า
- อันดับสองคือ ห่วงหงส์มังกรคู่ ( ผู้ร้ายของเรื่อง )
- อันดับสามคือ ลี้น้อยมีดบิน ( พระเอกของเรื่อง )
- อันดับสี่คือ กระบี่เหล็ก
.....ถ้าใช้คำสมัยใหม่ ฉายาของจอมยุทธ์แต่ละคนคือ
แบรนด์ประจำตัวหรือ Personal Branding ครับ
นิยายกล่าวว่า มีคนฝากคัมภีร์สุดยอดวิทยายุทธให้แฟนเก่าลี้คิมฮวง
แต่แฟนเก่าไม่ได้มอบให้ลี้คิมฮวง กลับมอบให้ลูกชายตัวเองเพื่อศึกษา
นางเอกในเรื่อง ( แฟนใหม่ ) บอกว่า ทำถูกต้องแล้ว
ที่ไม่ได้มอบคัมภีร์ให้ลี้คิมฮวง เพราะลี้คิมฮวงโฟกัสที่การฝึกมีดสั้นจนเก่งในระดับสุดยอด แต่ถ้าลี้คิมฮวงได้คัมภีร์เล่มนี้ไป
อาจทำให้ไม่มีสมาธิในการฝึกมีดสั้น ทำให้ฝีมืออ่อนด้อยกว่าเดิม
นอกจากลี้คิมฮวงแล้ว อาฮุย หนุ่มน้อยไร้เดียงสาที่เป็นคู่หูลี้คิมฮวง
ก็เป็นสุดยอดฝีมือในกระบี่
นิยายเล่าว่า อาฮุยไม่มีกำลังภายในเพราะไม่มีอาจารย์สอน
แต่มีกระบี่เร็วที่สุดในแผ่นดิน ท่วงท่าไม่ซับซ้อน แต่รวดเร็วจนพิชิตจอมยุทธ์ชั่วร้ายหลายคนได้ เพราะอาฮุยฝึกเรื่องเดียวคือ #กระบี่
ดังนั้นเราควรโฟกัสในเรื่องที่เราเก่งกาจ และพัฒนาจนเก่งกาจถึงที่สุด แทนที่จะวอกแวกสนใจหลายเรื่อง จนไม่เก่งสักเรื่อง
ถ้ามีคนถามว่า ผู้อ่านเชี่ยวชาญหรือรู้จริงเรื่องอะไร ผู้อ่านตอบได้ไหมครับ
3. ฝึกฝนทักษะสำคัญเสมอ🤸‍♂️🤺
ลี้คิมฮวงชอบแกะสลักไม้เป็นรูปแฟนเก่าตัวเอง
เพราะชอบนึกถึงอดีตเสมอ แต่จุดประสงค์ของการแกะสลักนี้
ไม่ใช่เพียงแค่คิดถึงเท่านั้น แต่ยังเป็นการฝึกฝนการใช้นิ้วให้คล่องแคล่ว
เพราะการซัดมีดสั้นให้แม่นยำ จะต้องใช้พลังนิ้วที่แข็งแรงมาก
ถึงแม้ว่า ลี้คิมฮวงเป็นจอมยุทธ์อันดับสามของยุทธจักรแล้วก็ตาม
แต่ก็ยังฝึกทักษะอยู่ตลอดเวลา
เพราะฉะนั้น เราก็ควรฝึกทักษะของเราให้ชำนาญอยู่เสมอเช่นกัน
ไม่ควรประมาทหรือคิดว่า เราเก่งแล้ว ก็จะทำให้ฝีมือของเราย่ำอยู่กับที่ หรือที่แย่กว่านั้นคือ ถอยหลังเข้าคลองครับ
....ผู้อ่านฝึกฝนทักษะสำคัญในการทำงานบ่อยแค่ไหนครับ🏆
🍁🍁
ขอคารวะชาวยุุทธทุกท่าน🙏
อนันตทวิ☯️
.
🎋🎋🎋
.
◼️ อ้างอิง
.
📖 หนังสือ : ชุมนุมมังกรซ๋อนพยัคฆ์ : อ. เสถียร จันทิมาธร
.
📜บทความเเง่คิดในการทำงานจากนิยายฤทธิ์มีดสั้น
: ธงชัย โรจน์กังสตาล
.
🙏🙏ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ทครับ
โฆษณา