ผมเล่าเรื่องแต่งนี้ให้ฟังเพราะต้องการจะบอกว่า
บางทีความพยายามอย่างเดียว
ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราทำเป้าหมายได้สำเร็จก่อนคนอื่น
มันยังมีเรื่องของจังหวะเวลา
มีเรื่องของโชค
มีเรื่องของปัจจัยอื่นๆมาเกี่ยวข้องด้วย
.
บางทีความพยายามของเราก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
และไม่มีใครสนว่าเราพยายามขนาดไหน
เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราทำอะไรบ้างในช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
.
อย่าจริงจังกับความพยายามของตัวเองมากเกินไป
อย่าเอาความพยายามของตัวเอง
มาสร้างสิทธ์ที่ทำให้รู้สึกว่าฉันสำคัญ
ฉันควรได้รับสิ่งนั้นก่อนคนอื่น
.
ความพยายามนั้นดีครับ
ผมยังคงเชียร์ให้เราพยายามทำในสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้
เพราะนั่นคือสิ่งที่ควบคุมได้ที่สุด คือความพยายามของตัวเอง
.
แต่บางทีไม่จำเป็นต้องพยายามอะไรเยอะแยะ
ก็ทำได้เหมือนกัน
ไม่ต้องจริงจังตลอดเวลา
ก็ทำได้เหมือนกัน
.
อย่าจริงจังกับความพยายามของตัวเองมากเกินไป
จริงจังบ้าง ผ่อนเบาบ้าง หยุดพักบ้าง
ถ้าเรื่องนั้นไม่ได้ต้องรีบขนาดนั้น
บางทีเราแค่ต้องใจเย็นๆ
รอเวลาให้ลิฟต์กลับมาทำงานได้
ระหว่างนั้นถือว่าเป็นโอกาสได้แวะซื้อกาแฟดื่มให้เย็นชื่นใจ
แล้วรอขึ้นลิฟต์ไปเพื่อถึงชั้น 28 พร้อมกับชายอีกคน
.
แค่นั้นเอง... อย่าจริงจังกับความพยายามของตัวเองจนเกินไปครับ 😊