Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Jitn
•
ติดตาม
29 ส.ค. 2021 เวลา 23:59 • นิยาย เรื่องสั้น
[เรื่องสั้น] สาคูไส้หมู chapter 1.
"แห้ง หิวว่ะ " เสียงจากหญิงสาวที่นั่งพิงหมอนบนเตียงเอ่ยขึ้น
"หมูมึงนี่โรคจิตมากเลยนะ หนัง Meat grinder มันชวนหิวตรงไหน แหวะ กูจะอ้วก"
ชายหนุ่มพูดพร้อมลุกขึ้นเดินไปเปิดไฟ
"แล้วอีกอย่างนะ กูขอร้องเลิกปิดไฟดูหนังผีดึกๆ ดื่นๆ สักที กูหลอนจนเก็บไปฝันหลายรอบละเนี่ย"
" เลิกบ่นแล้วไปซื้อเดี๋ยวนี้เลย ไอ้แห้ง ไอ้แห้งแล้ง "
เธอพูดปนหัวเราะพร้อมปาหมอนไปยังชายหนุ่มผอมสูงที่เธอเรียกเขาว่าแห้งแล้ง ซึ่งกำลังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ข้างเตียง
ชายหนุ่มหันมาทำตาขวาง ตวาดกลับ
"เอาไร !!!"
"สาคู ไส้หมู ที่เดิม ตัวเองกินมั้ย "
หญิงสาวเปลี่ยนเป็นพูดเสียงอ้อน อมยิ้มน้อยๆ
"ดึกดื่นค่อนคืนยังจะแดกอีก แม่งเอ๊ย!ลำบากกูทุกที "
ชายหนุ่มบ่นกระปอดกระแปดแต่ยังคงลุกไปสวมเสื้อกีฬา หยิบกระเป๋าสตางค์เดินออกจากห้องเดินมาถึงชั้นล่างตรงลานจอดรถค่อยนึกขึ้นได้
"อ้าว ! เชี่ยเอ๊ย ลืมกุญแจมอไซค์"
ชายหนุ่มอุทานกับตัวเองเบาๆ แล้วหันกายออกมาจากลานจอดรถ เดินผ่านป้อมยามหน้าหอที่มียามซุกหน้าอยู่กับหมวกประจำกายออกไปยังถนนด้านหน้า เขาเหลือบมองนาฬิกาในสมาร์ทโฟนแวบหนึ่ง แสดงตัวเลข 00.12 น.
ย่านที่เขาพักอาศัยอยู่นี้ ปกติจะคึกคักมากแม้ในยามราตรี ร้านอาหาร ร้านขายของชำ หรือแม้แต่รถเข็นขายกับข้าวจะเรียงรายกันอยู่ตามทางเท้าริมถนน แต่หลังจากผ่านวิกฤตโรคระบาดมา ร้านรวงหลายร้านทยอยปิดตัวลง ผู้คนจากเดิมที่เคยพลุกพล่านก็ดูเงียบเหงาลงอย่างเห็นได้ชัด
ร้านสาคูที่เขากำลังจะไปซื้อก็เช่นกัน แต่ก่อนเคยเป็นร้านอาหารตามสั่ง ขายอาหาร ขายก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นทอด หมูปิ้ง หมูทอด ไก่ทอด เป็นร้านที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เคยมีลูกจ้างในร้านถึงเกือบสิบคน แต่ด้วยวิกฤตจากโรคร้าย และพิษเศรษฐกิจ กอบกับภรรยาและแม่ของเถ้าแก่ร้านเสียชีวิตนอนตายคาตึกแถวที่ร้าน เพราะโรคระบาด เป็นข่าวครึกโครมทั้งในทีวีและอินเทอร์เน็ตเขายังจำได้ดี และก็เพราะเหตุนี้ลูกค้าประจำ และลูกค้าในระแวกนี้อย่างเช่นเขา จึงแวะเวียนไปให้กำลังใจและอุดหนุนลุงเถ้าแก่ร้านอย่างไม่ขาดสาย จนแกกลับมามีพลังต่อสู้และกลับมาเปิดร้านอีกครั้ง
หอพักกับร้านสาคูอยู่ห่างกันแค่ระยะไม่เกินสองสามร้อยเมตร แต่ต้องเดินเลี้ยวทะลุสามซอย ค่อยไปถึงจะบอกว่าไกลก็ไม่ไกล จะบอกว่าใกล้ถ้าเดินก็คงพอหอบหายใจ
บรรยากาศยามต้นฤดูฝนดูขมุกขมัว กลางคืนในฤดูฝนยิ่งขมุกขมัว แผ่นฟ้าคล้ายจะมืดกว่าทุกๆวัน แสงจากไฟกิ่งเหมือนไม่ค่อยสว่างอย่างเช่นเคย เสียงดีดกระทบจากรองเท้าแตะก็คล้ายจะดังกว่ายามปกติ เสียงสุนัขเห่าหอนดังแว่วมากระทบโสตเป็นระยะๆ เป็นแบ็กกิ้งแทร็คเหมือนหนังผียุค 90
จิตใจคนเราเมื่อยามอยู่ในภาวะแวดล้อมเช่นนี้มักจะไม่ปกติ พยายามแล้วที่จะไม่คิด แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ เขาไม่เชื่อเรื่องภูตผีปีศาจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กลัว
โทรศัพท์เป็นสิ่งเดียวในตอนนี้ที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจ พอจะคลายความหวาดกลัวลงได้บ้าง เขาถือมันไว้ก้มหน้ามองอย่างจดจ่อ เหมือนกำลังอธิษฐาน ปลุกเสกพุทธคุณพระเครื่อง
ไม่นานก็มาถึงถนนหลัก เดินอีกเพียงสองช่วงตึกก็ถึงร้าน ที่นี่ถนนกว้างขวางและสว่างกว่าซอยที่พึ่งผ่านมา ผู้คนแม้บางตาแต่ยังพอพบเห็นได้เรื่อยๆ เขาเห็นแสงไฟวอร์มไลท์หน้าร้านยังส่องแสงเรื่อเหลืองอยู่จึงรีบเดินเข้าไป
"วังนี้มาซะดึกเลยน๊า เกือบจะปิกร้างเลี้ยว"
ลุงเถ้าแก่ใบหน้าเปื้อนยิ้มพูดติดสำเนียงแปร่งๆแบบคนจีน มือขยับเปิดฝาซึ้งนึ่ง ควันลอยกรุ่น กลิ่นหอมของสาคูใส้หมูโชยเข้าจมูกชวนน้ำลายสอ
"เอาสิบลูกครับเถ้าแก่ "
"สิบลูกสามสิบบาก เหลืออีกสองลูกอั๊วแถมให้เลย"
พูดจบก็หยิบกล่องกระดาษแบบแข็งจะหยิบสาคูใส่ให้ แต่ง่วนหากระดาษรองกล่องที่หมดไปจากซองข้างแผง แกจะเดินหันเข้าหลังร้าน ชายหนุ่มจึงบอกว่าไม่ต้องใส่ก็ได้
ระหว่างรอเขามองผ่านเข้าไปทางในร้านผ่านประตูเหล็กเฟี้ยมที่ปิดไว้ครึ่งหนึ่ง เห็นโต๊ะไม้ที่เคยเป็นที่นั่งทานตอนยังขายอาหารตามสั่งวางกองอยู่เรียงราย บนผนังมีรูปแขวนอยู่สองรูป มองเห็นไม่ค่อยชัด แต่เขาแน่ใจว่าเป็นรูปภรรยาและแม่ของลุงเถ้าแก่
สมองประหลาดอยู่ๆ ก็หวนคิดถึง ภาพที่มีคนโพสต์ลงโซเชียลแม้จะเป็นภาพแบบเบลอๆ ไม่ได้ให้ความรู้สึกหลอนจนติดตา แต่เรื่องราวใต้ภาพยังคงน่าสงสารจนจับใจ ยังไม่พอ ความคิดเจ้ากรรมยังนึกโยงไปถึงหนังที่แฟนเขาพึ่งดู ปะติดปะต่อเป็นเรื่องราวชวนสยอง เขาหันไปมองตึกข้างๆ ที่เคยเป็นร้านเก่าของแกซึ่งปัจจุบันแปะป้ายขายด่วนสีแดงซีดๆไว้ มองเลยไปถึงกองขยะจากตึกถัดไปที่มีหนูวิ่งหลบไปมาอยู่ด้านใต้ เงาตะคุ่ม จากไม้กระถางทรงสูงที่มองผ่านๆ คล้ายผมทรงพุ่มของผู้หญิงในสมัยก่อน ยิ่งมองยิ่งคิดจิตใจยิ่งไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"ด้ายเลี้ยว"
เสียงแหบยานๆ ของเถ้าแก่ร้านพูดพร้อมยื่นถุงหิ้ว ที่ข้างในมีกล่องสี่เหลี่ยมใส่สาคูอยู่ให้
ชายหนุ่มสะดุ้งน้อยๆ หันมา ยื่นเงินที่เตรียมไว้ให้เถ้าแก่พร้อมกับรับถุงหิ้วมา หันหลังออกเดิน พอจะเลี้ยวเข้าซอยอดหันมองกลับไปยังร้านสาคูไม่ได้ เห็นเถ้าแก่ง่วนกับการเก็บของ แว่วเสียงของแกผ่านม่านวิกาลมากระทบโสต ใจก็ฉุกคิด คุยกับใครว่ะ?
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย