Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ธ
ธรรมะจากพระไตรปิฎก
•
ติดตาม
30 ส.ค. 2021 เวลา 11:31 • การศึกษา
วิบากกรรมกาเม มานพหนุ่มช่างทอง อดีตชาติพระโพธิสัตว์
ที่มา :
คัมภีร์สัมภารวิบาก พุทธประวัติ การสร้างบารมีของพระบรมโพธิสัตว์
หนังสือ พระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็นผู้หญิง
บทความ : สัมภารวิบาก อสงไขยกาลกับปณิธานพระโพธิสัตว์ (พิสิทธิ์ กอบบุญ) หนังสือ ต้องเป็นให้ได้ (ดั่งเช่นพระพุทธเจ้า)โดย อุบาสิกาถวิล (บุญทรง) วัติรางกูล
เวปไซต์
https://www.vichadham.com/POTI/P201.html
รวบรวมเรียบเรียงโดย : นิมฺมโลภิกขุ
บุตรนายช่างทอง
กาลต่อมาพระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นบุตรของช่างทอง และเป็นมานพหนุ่มช่างทองมีรูปสิริเลิศงดงาม ในเมื่องแห่งนั้น มีฝีมือในการทำทองนั้นยอดเยียม ชื่อเสียงในการทำทองขจรไปไกล เพราะความมีฝีมือนี้เอง ได้มีเศรษฐีของเมื่องมาทำการว่าจ้างให้ทำทองรูปพรรณ ให้บุตรสาวที่จะเข้างานวิวาห์มงคล เมื่อเห็นรูปร่างของหนุ่มช่างทองก็เกิดรังเล แต่ไม่สามารถหาช่างทองที่ฝีมือดีกว่านี้ได้อีกเลย จึงกล่าวกับหนุ่มช่างทองว่า ถ้าท่านเห็นมือ และเท้าของบุตรสาวของเราอย่างเดียวท่านสามารถทำทอง ได้สวยสดงดงามหรือไม่? หนุ่มช่างทองก็บอกว่าทำได้ เหตุผลของท่านเศรษฐีทำแบบนี้ เพราะบุตรสาวเป็นหญิงที่สวดสดงดงาม เมื่อเห็นหน้าตากันจะทำให้ทั้งสองเกิดหวั่นไหว มีปัญหาในการแต่งงานของลูกสาวกับบุตรชายของเพื่อนเศรษฐี ที่หมั่นหมายไว้แล้วเป็นการตัดไฟเสียต้นลม
เมื่อถึงวันที่หนุ่มช่างทอง ทำการตรวจวัดมือและเท้าของบุตรสาวเศรษฐี ที่บ้านของเศรษฐี ท่านเศรษฐีได้ทำฉากกั่น ให้บุตรสาวยื้นเฉพาะมือและเท้าออกมาเท่านั้น แต่บุตรสาวเกิดความสงสัยว่าทำไม่บิดาจึงทำอย่างนี้ ในขณะที่หนุ่มช่างทองกำลังตรวจวัดอยู่ บุตรสาวเศรษฐี ก็แอบดูตามช่องที่มองเห็นได้ เมื่อเห็นรูปร่างหนุ่มช่างทองเกิดหลงรักทันที จึงทำการเขียนอักษร นัดแนะหนุ่มช่างทองทันที่ ว่าในค่ำคืนนี้นัดเจอกันที่ส่วนหลังบ้านที่เป็นต้นไม้ใหญ่ ฝ่ายหนุ่มช่างทองเมื่อเสร็จภารกิจ ก็กลับไปยังเรือนของตน ทำงานทำทองตลอด
เมื่อตกค่ำก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปตามนัด ที่ กาญจนวดีกุมารีบุตรสาวเศรษฐีได้เขียนอกษรไว้ แต่มานพหนุ่มช่างทองมาถึงต้นไม้ใหญ่ก่อน นั่งรออยู่ เพราะทำงานมาทั้งวัน เมื่อเจอบรรยากาศร่มรื่นจึงเผลอหลับไป เมื่อนางกาญจนวดีกุมารีมาถึงก็เห็นหนุ่มช่างทองหลับไปแล้ว ซึ่งในสมัยนั้นมีการถือกันว่า ถ้าผู้ใดนอนหลับอยู่ห้ามปลุกขึ้นมาเพราะจะเป็นบาป นางจึงนั่งรอเป็นเวลาพักใหญ่ เห็นว่าไม่ตื่น จึงว่าขันใส่ดอกไม้ไว้ แล้วเขียนอักษรไว้ว่า นางได้มาแล้วแต่ท่านหลับอยู่ จึงว่างขันดอกไม้ไว้ให้ทราบ และในราตรีต่อไปขอนัดเจอที่เดิม แล้วจากไป เมื่อหนุ่มช่างทองตืนขึ้นมาเห็นขันดอกไม้ จึงรู้ว่านางได้มาแล้วและได้อ่านข้อความที่นางเขียนไว้
ตกค่ำวันต่อมาหนุ่มช่างทองก็ออกไปตามนัดเหมือนเดิม ก็ไปถึงต้นไม้ใหญ่ก่อนอีก ด้วยความอ่อนแรงจากการงานจึงเผลอหลับไปอีก นางกาญจนวดีกุมารีเมื่อมาถึงก็เห็นหลับเหมือนเดิม จึงเขียนอักษรนัดแนะเหมือนเดิม หนุ่มช่างทองเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบอักษรที่นัดแนะ ก็ให้นึกโกรธตนเองที่เผลอหลับมาสองวันแล้ว
พอตกค่ำวันที่ 3 ครั้งนี้หนุ่มช่างทองพยายามเตือนตนเองอย่างเต็มที่ไม่ให้เผลอหลับ แต่ต้านไว้ไม่อยู่เลยเผลอหลับไปอีก เมื่อกาญจนวดีกุมารี มาเห็น ก็คิดว่า บุญไม่ต้องกันที่จะได้อยู่ร่วมกัน เพราะตนจะเข้างานวิวาห็ นางจึงวางขันดอกไม้ไว้อย่างเดียว ให้รู้ว่านางได้มาตามนัดแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ได้เขียนอักษนัดแนะประการใด เมื่อหนุ่มช่างทองตื่นขึ้นมา ก็โกรธตนเองที่เผลอหลับ จึงกลับบ้านด้วยความผิดหวังที่จะดูหน้าและรูปร่างเพียงสักครั้งแล้วนางกาญจนวดีกุมารี ก็เข้าวิวาห์กับบุตรชายเศษรฐี ตามกำหนดการ
ฝ่ายหนุ่มช่างทองก็คล่ำครวญถึงนางกาญจนวดี ว่าสมควรจะอยู่ร่วมภิรมณ์กับตนและควรเป็นของเรา เพราะหญิงก็มีใจกับตน จึงคิดหาอุบาย ได้ทำเครืองทองที่ดีเลิศขึ้นมาชุดหนึ่ง แล้วนำไปถวาย มหาอุปราช มหาอุปราชทรงพอพระทัย จึงทรงถามหนุ่มช่างทองว่า มีประสงค์อันใดที่นำเครื่องทองอันดีเลิศมาถวาย หมุ่นช่างทองจึงบอกจุดประสงค์ มหาอุปราชจึงรับปากและจะออกอุบายช่วยเหลือ หลังจากนั้นก็ให้หนุ่มช่างทองแต่ตัวเป็นสตรี ปลอมเป็นน้องหญิงของมหาอุปราช แล้วทรงกระบวนช้างผ่านไปยังบ้านเศรษฐีแล้วตรัสบอกกับท่านเศษรฐีว่า จะเอาน้องหญิงมาฝาก ที่บ้านเศรษฐี เพราะออกไปปราบข้าศึกที่ชายแดน และเห็นว่าท่านได้สร้างเรื่อนใหม่ ที่พอจะฝากน้องหญิงได้
แล้วมหาอุปราชถามอีกว่า "เรือนนั้นเป็นเรื่อนของใครของใครหรือ? "
เศรษฐีจึงตอบว่า "เป็นเรือนของบุตรสาวที่พึ่งแต่งงาน"
มหาอุปราชกล่าว "อย่างนั้นก็ดีสิ ! จะได้ให้น้องหญิงพักอยู่ที่นั้น และจะได้ให้บุตรสาวของท่านอยู่เป็นเพื่อนของน้องหญิง ให้นางงดการอยู่ร่วมกับสมามีชั่วคราว ห้ามผู้ชายแม้กระทั้งสามีของบุตรสาวท่านเข้าไปในส่วนของชั้นเรือนที่น้องหญิงพักอยู่ โดยมีบุตรสาวของท่านอยู่เป็นเพือน แล้วเราจะกลับมารับหนึ่งหญิงในภายหลัง"
เศรษฐีด้วยความเกรงในอำนาจของอุปราช และเห็นว่าท่านอุปราชทรงห่วงใยน้องหญิงคนนี้มาก จึงรับทำตามที่มหาอุปราชกับชับด้วยความเต็มใจ
หลังจากนั้นหนุ่มช่างทองได้อยูร่วมกับนางกาญจนวดี เป็นเวลา 3 เดือนโดยไม่มีใครรู้เรื่องเลย จนมหาอุปราชมารับกลับไป
ผลกรรมนี้ส่งผลแรง ทำให้พระโพธิสัตว์ตกนรก
เพราะปรทารโทษ เป็นอาจิณกรรมกายทุจริต ให้ผลเป็นอปรา
ปรเวทนียกรรม 14 กัป จากนั้นเมื่อจุติจากนรกแล้ว ด้วยเศษ
กรรมยังให้ผลทำให้พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกะเทย 500 ชาติ เป็น
ลา 500 ชาติ โค 500 ชาติ คนตาบอด 500 ชาติ คนหูหนวก
500 ชาติ สตรีเพศ 500 ชาติ
เกิดเป็นกะเทย 500 ชาติ
เกิดเป็นโค 500 ชาติ
เกิดเป็นลิง 500ชาติ
เกิดเป็นลา 500 ชาติ
ในพระชาตินี้แสดงให้เห็น
วิบากของผลกรรมจากการประพฤติผิดในกาม แม้เพียงครั้ง
เดียว แต่พระโพธิสัตว์ต้องตกนรกรับกรรมจากอกุศลกรรมครั้ง
นี้ ต้องเวียนว่ายในวัฏสงสารยาวนานมาก
เกิดเป็นสตรี
กว่าที่จะหมดกรรม
ก่อนการเป็นนิยตโพธิสัตว์ พระพุทธเจ้าเป็นสตรีในต้นนันทะ
อสงไขยเป็นพระนางสุมิตตาเทวี แม้จะประพฤติกุศลกรรมแล้ว
แต่ด้วยเงื่อนไขการเป็นสตรีก็ทำให้ไม่สามารถได้รับการ
พยากรณ์ได้
เจ้าหญิงสุมิตตาเทวี
เจ้าหญิงสุมิตตาเทวี
สมเด็จพระปุราณทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นพระเชษฐาของเจ้าหญิงสุมิตตาเทวีนั้น ทรงบำเพ็ญบารมีมาแล้ว ๑๖ อสงไขยแสนกัป ชาติที่ตรัสรู้นี้ทรงครองเพศฆราวาสอยู่ในโลกียสุขนานถึงหนึ่งหมื่นปี จึงทรงทอดพระเนตรเห็นนิมิต ๔ ประการ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ ทรงสลดพระทัยแล้วเสด็จออกบวชมหาภิเนษกรมณ์ ทรงทำความเพียรอยู่เพียง ๗ วัน ก็ทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระโพธิสัตว์นั้นจึงออกเดินบิณฑบาตน้ำมัน เพื่อไปใส่ในดวงประทีปจนเย็นแล้วก็ยังไม่ได้น้ำมันเลยแม้แต่หยดเดียว แต่ก็ไม่สิ้นความพยายาม จึงไปยืนบิณฑบาตอยู่ที่ประตูวังใกล้ตำหนักพระราชบิดาสุมิตตาเทวี พระราชธิดาทอดพระเนตรเห็นรับสั่งให้นางกำนัลไปถามความประสงค์ ทรงทราบแล้วเจ้าหญิงทรงถวายน้ำมันเมล็ดพันธุ์ผักกาดที่ทรงมีอยู่ทั้งหมด พร้อมทั้งทรงฝากข้อความเพื่อทูลถามพระบรมศาสดา ผู้ทรงเป็นพระเชษฐาว่าพระนางปรารถนาจะเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบ้างจะสำเร็จหรือไม่
โดยปกติแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะไม่ทรงพยากรณ์เรื่องนี้แก่สตรีเป็นอันขาด เพราะไม่ใช่วิสัยกระทำได้ เพศสตรีเป็นเพศที่อ่อนแอ มีใจคอคับแคบ โลเลง่าย จะประทานพุทธพยากรณ์แก่มนุษย์เพศชายที่สั่งสมบารมีมาดีแล้ว มีธรรมสโมธานครบ ๗ ประการ เช่นอยู่ในเพศบรรพชิต เป็นต้น
พระปุราณทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสพยากรณ์ให้เฉพาะพระโพธิสัตว์ปัจฉิมทีปังกรเท่านั้น ว่าจะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า ส่วนเจ้าหญิงสุมิตตาเทวี ชาตินี้ยังพยากรณ์ไม่ได้ แต่ในชาติใดที่พระปัจฉิมทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้น พระพุทธจ้าพระองค์นั้นจะทรงพยากรณ์ให้เจ้าหญิงเอง เพราะในชาตินั้นพระนางจะเกิดเป็นเพศชาย มีคุณสมบัติครบ ควรได้รับสัทธเทศ(คำพยากรณ์)แล้ว
แต่ด้วยกุศลกรรมที่ทำในอดีตทำให้เมื่อนางสิ้น
ชีวิตแล้ว ได้เสวยสมบัติในสวรรค์ชั้นดุสิต 57 โกฎิกับเศษ 60
แสนปี จุติจากสวรรค์ เวียนว่ายในสวรรค์และมนุษย์จนถึงสาร
มัณฑกัปในนันทะอสงไขย จึงได้เกิดเป็นชาย ได้สร้างกุศล
กรรมอีก 14 อสงไขย จึงได้รับการพยากรณ์
สุเมธดาบสโพธิสัตว์ได้รับพุทธพยากรณ์
ธรรมสโมธาน ๘ ข้อนั้น ได้แก่
๑.ได้เกิดเป็นมนุษย์
๒. เป็นเพศชายโดยสมบูรณ์ทั้งกายใจ
๓. มีอุปนิสัย วาสนาบารมีที่สั่งสมไว้มากพอที่จะเป็นพระอรหันต์ได้ในขณะนั้น
๔. มีโอกาสพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๕. มีเพศเป็นนักบวช ในขณะพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๖. สามารถบำเพ็ญภาวนาจนได้ฌานสมาบัติ
๗. สามารถบำเพ็ญบุญญาภิสมภารอันยิ่งยวด แม้ถึงตายก็ยินยอม
๘. มีฉันทะ ความพอใจในพระสัพพัญญุตญาณอย่างแรงกล้า
การมีธรรมสโมธานครบ ๘ ข้อ ดังกล่าวแล้วนี้ เป็นคุณสมบัติของผู้สมควรได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรก
สำหรับผู้เคยได้รับพระพุทธพยากรณ์ในอดีตชาติมาแล้ว เมื่อมาเกิดใหม่ แม้มีธรรมสโมธานไม่ครบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้พบในชาติต่อๆ มา ก็ทรงกล่าวพุทธพยากรณ์ให้ เพราะผู้ใดที่เคยได้รับ พุทธพยากรณ์แล้วจะเป็นนิตยโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ที่เที่ยงแท้แน่นอน ที่จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
(ต้องเป็นให้ได้ ดั่งเช่นพระพุทธเจ้า)โดย อุบาสิกาถวิล (บุญทรง) วัติรางกูล
บันทึก
7
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย