กลยุทธ์แห่งการเติบโต...ศิลปะแห่งการรับใช้
.
.
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ให้ความสนใจกับกลยุทธ์ธุรกิจ
จากเรื่องราวของสงครามชีวิตโอชิน
ผู้หญิงคนจริงๆในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง
ครอบยากจน แทบไม่มีจะกิน
จนถูกขายไปเป็นคนรับใช้ในวัยเพียง 7 ขวบ
ไม่ได้เรียนหนังสือ และ ไม่มีครอบครัวช่วยเหลือ
แต่สามารถทำธุรกิจจน กระทั่งมี Supermarket ถึง 17 สาขา
และไม่ใช่ แต่งงานกับคนรวย มีฐานะ
แต่มาจาก ความสามารถและ "นิสัย"และ Mindset ของเธอเอง
นิสัยของ "ผู้ประกอบการ" ที่ประสบความสำเร็จ
.
นิสัยและ Mindset หนึ่งที่สำคัญของโอชิน
ที่ไม่พูดถึง ไม่ได้เลย และทำให้เธอสามารถขยายธุรกิจได้
คือ การรับใช้ ผู้คน
.
โอชินถูกส่งไปเป็นคนเลี้ยงเด็กตอนอายเพียง 7 ขวบ
เมื่อไปแล้ว ก็โดนจิกหัวใช้เยี่ยงทาส
ถูกใช้ให้ทำงานสารพัด นอกเหนือจากงานเลี้ยงเด็ก
ซักผ้า ถูบ้าน ทำกับข้าว และเย็บผ้า**
ซึ่งถ้าไม่ทำ ก็จะโดนทำร้ายตบตี หรือ โดนลงโทษไม่ให้กินข้าว
ร้ายแรง ทุกข์ทรมาร ถึงขั้นทำให้เด็กอายุเพียง 7ปี
ยอมเดินฝ่าความกลัว และพายุหิมะ ที่หนาวเหน็บ
ยอมตาย เพื่อเดินทางกลับบ้าน
.
แต่ทักษะเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเย็บผ้า
ได้ช่วยให้โอชิน ได้มีโอกาสขยายธุรกิจในอนาคต
.
หลายๆตอนในหนังเรื่อง สงครามชีวิตโอชิน
จะสังเกตว่า เมื่อโอชินได้เปลี่ยนอาชีพ
และมองเห็นว่า อาชีพใหม่ที่ทำนั้น เริ่มติดตลาด
เริ่มมีลูกค้าขาประจำ และ เป็นที่ยอมรับ
โอชิน จะ เริ่มคิดต่อยอดว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ยังต้องการอะไรอีกบ้าง
และสร้างบริการเสริม สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่
เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
.
ในยุคแรกของชีวิต ที่โอชินมาทำงานร้านทำผมที่โตเกียว
รายได้น้อย ในเวลาว่างจากการทำผม หรือช่วงก่อนนอน
โอชิน จะรับงาน เย็บผ้า แก้ไขชุดกิโมโน เป็นอาชีพเสริม
.
ตอนที่ธุรกิจ ร้านขายผ้าของสามี ประสบภาวะล้มละลาย
โอชิน เอาผ้าไปเร่ขายที่ตลาด
จนแปลง Stock ผ้า เป็นทุนได้จำนวนหนึ่ง
จึงเห็นความต้องการของผู้คนว่า
ชุดเด็กนักเรียน เป็นที่ต้องการ
และ เด็กๆก็โตเร็ว เปลี่ยนชุดบ่อย
จึงคิดเอาผ้าที่เหลือมาทำชุดเด็กขาย
จนเป็นที่ติดตา ของร้านค้าชื่อดัง มาสั่งออร์เดอร์ประจำ
จนตั้งโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าได้
แต่โรงงานก็ต้องพังเสียหายตอนยุคแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในโตเกียว
.
ในช่วงที่โอชิน มาทำอาชีพแม่ค้าขายปลา
โอชินก็ได้นำปลาที่เหลือ มาทำปลาหมักต่างๆ
ขายให้ลูกค้า ในฤดูกาลที่จับปลาไมไ่ด้
ทำให้ลูกค้า มี สินค้าให้เลือกซื้อหลากหลายขึ้น
นอกเหนือจากปลาสดเพียงอย่างเดียว
เพิ่มบริการ การหั่นล้าง ทำอาหารในงานเลี้ยงต่างๆ
แทนที่จะหาปลาสดมาขายเท่านั้น
.
ต่อมาทักษะเหล่านี้ จึงประสานกันทำให้โอชิน
สามารถขายของทุกอย่างได้
จนกระทั้งกลายเป็นธุรกิจ Super Market ในที่สุด
.
ถ้าสังเกตจากกลยุทธ์ การทำธุรกิจของโอชิน
จะมาจาก Mindset ที่ว่า
" ฉันจะให้บริการลูกค้าอะไรให้ดีกว่านี้อีก"
.
โอชิน มีความสัมพันธ์ อันดีกับลูกค้า ด้วยนิสัยให้บริการ
มีความใส่ใจ พร้อมรับใช้
และ อยากเห็น คนมีความสุข
ดูว่า จะช่วยเหลืออะไรได้อีกบ้าง
.
.
คุณคิดว่า ถ้าคุณเจอคู่ค้า ที่เป็นเหมือนเพื่อนที่รักและห่วงใยคุณ
คุณอยากจะมาที่ร้านนี้บ่อยๆ อยากคุยกับคนขายบ่อยๆหรือไม่
โอชิน ไม่ได้คิดว่า ลูกค้าต้องมาซื้อ
แต่ยินดีให้คำปรึกษาพูดคุย หรือมาขอความช่วยเหลืออะไร
และช่วยเท่าที่จะช่วยได้
คุณคิดว่า เมื่อถึงเวลา ลูกค้าจะซื้อกับใคร
.
และต่อให้ลูกค้าไม่ซื้อกับเราในรอบนี้
ในความเป็นเพื่อน ที่ปรารถนาดี เค้าก็ย่อมบอกว่า
ทำไม เค้าไม่ซื้อกับเรา
ทำให้เราเห็นจุดอ่อนของเรา ที่เราพัฒนาได้
และถ้าเราพัฒนาได้ ก็ย่อมทำให้ธุรกิจของเราเหนือคู่แข่งไม่ยาก
.
จากเรื่องราวกลยุทธ์การเป็นผู้รับใช้
หวังว่า เพื่อนที่ทำธุรกิจทุกท่าน
คงได้ไอเดียบางอย่างในการฝ่าวิกฤตครั้งนี้นะคะ
คุณยังมีทักษะ อะไรอีกบ้าง
ที่สามารถนำมา "รับใช้" ลูกค้าปัจจุบันและคนรอบข้างของคุณอีกบ้าง
งัดออกมาค่ะ
โค้ชหุย
รัตนา ธนสารกิจ
Master Business Coach
- 117
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
