31 ส.ค. 2021 เวลา 05:52 • ประวัติศาสตร์
ครั้นเมื่อผ่านไปแล้วสองปีหลังการตรัสรู้​ พระพุทธเจ้าจึงเสด็จไปยังกบิลพัสดุ์ ช่วงแรกยโสธรามิได้ออกไปต้อนรับพุทธองค์ พระพุทธเจ้าจึงถือบาตรเสด็จขึ้นไปหายโสธรา เมื่อยโสธราเห็นเช่นนั้นจึงรีบเสด็จไปหาพุทธองค์​ #ทรงจับข้อพระพุทธบาททั้งสองเกลือกบนพระเศียรแล้วถวายบังคม โดยพระพุทธเจ้าทรงตรัสเล่าเรื่องจันทกินรีชาดกจนนางยโสธราบรรลุโสดาปัตติผล
ต่อมาจึงให้ราหุลตามเสด็จพุทธองค์ และออกบวชเป็นสามเณรรูปแรกในพุทธศาสนาขณะอายุ 7 ขวบ
ครั้นพระเจ้าสุทโธทนะนิพพานในเศวตฉัตร และพระเจ้ามหานามะขึ้นเสวยราชสมบัติแทน พระนางมหาปชาบดีโคตมีพร้อมด้วยหญิงอีก 500 คนออกบวชเป็นภิกษุณี
ต่อมายโสธรามีพระประสงค์ที่จะบวชเป็นภิกษุณีบ้าง เพราะไม่มีกิจอันใดในพระราชวังแล้ว รวมทั้งบริจาคทรัพย์สินที่ทรงครอบครองทั้งหมดทั้งไร่นา ข้าทาสบริวาร​ พระมหาปชาบดีโคตมีจึงทรงบวชให้ตามพระประสงค์มีนามว่า "พระยโสธราเถรี" หรือ "พระภัททากัจจานาเถรี"
ขณะบวชก็ทรงบำเพ็ญเพียร เจริญวิปัสสนา เพียงครึ่งเดือนก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าจึงทรงแต่งตั้งให้พระยโสธราเถรีเป็นเอตทัคคะด้านอภิญญาใหญ่ เพราะสามารถระลึกชาติได้ถึงอสงไขยหนึ่งกับอีกแสนกัปเพียงครั้งเดียว พระพุทธเจ้าทรงยกย่องพระยโสธราเถรีว่าเป็นเอตทัคคะ 6 ด้านคือ
แสดงฤทธิ์เหนือสามัญชนได้
มีหูทิพย์ ฟังเสียงได้ในที่ไกลได้
ทายใจผู้อื่นได้
ระลึกชาติได้
มีตาทิพย์ มองเห็นในที่ไกลได้
ทำเรื่องหมองใจให้คลายสิ้นไปได้
เมื่อพระมหาปชาบดีโคตมีเถรีนิพพานล่วงไปแล้ว พระยโสธราเถรีจึงเป็นใหญ่ในหมู่ภิกษุณี ปกครองภิกษุณี 100,000 รูป
พระยโสธราเถรีนิพพานในพรรษาที่ 43 แห่งพระผู้มีพระภาค ขณะมีพระชนมายุได้ 78 พรรษา ก่อนที่พระนางจะนิพพาน พระยโสธราเถรีได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลลาไว้ ความว่า
"หม่อมฉันมีอายุได้ 78 ปี ล่วงเข้าปัจฉิมวัยแล้ว ถึงความเป็นผู้มีกายค้อมลงโดยลำดับ ขอกราบทูลลาพระมหามุนี หม่อมฉันมีวัยแก่หง่อม ชีวิตของหม่อมฉันมีอยู่นิดหน่อย หม่อมฉันจักละพระองค์ไป ที่พึ่งของตนหม่อมฉันทำไว้แล้ว ในกาลปัจฉิมวัยนี้ ความตายเข้ามาปิดล้อมไว้แล้ว ข้าแต่พระมหาวีระ หม่อมฉันจักนิพพานในคืนวันนี้"
และกล่าวอีกว่า
"ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันไม่มีชาติชรา พยาธิ และมรณะ หม่อมฉันจักเข้าถึงนิพพานที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง เป็นบุรีที่ไม่มีความแก่ ความตาย และไม่มีภัย บริษัทที่เข้าเฝ้าพระองค์อยู่ รู้จักความผิด จึงขอประทานโทษ เฉพาะพระพักตร์ของพระศาสดา ข้าแต่พระมหาวีระ เมื่อหม่อมฉันเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสงสาร หากมีความผิดพลาดในพระองค์ หม่อมฉันกราบทูลว่า ขอพระองค์โปรดยกโทษให้แก่หม่อมฉันด้วยเถิด"
เมื่อพระพุทธเจ้าสดับความเช่นนั้น จึงตรัสไปว่า
"เมื่อเธอบอกว่าจะลานิพพาน ตถาคตจะไปว่าอะไรเธอให้มากเล่า เธอผู้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของเรา จงแสดงฤทธิ์ และตัดความสงสัยของบริษัททั้งปวงในศาสนาเถิด"
หลังจากนั้นพระยโสธราเถรีได้แสดงอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ และขอขมาในการล่วงเกินพระผู้มีพระภาคเจ้า ทั้งทางกาย วาจา ใจ ในครั้นเมื่อใช้ชีวิตคู่ร่วมกันหลายกัปในกาลก่อน แล้วเสด็จสู่พระนิพพาน
โฆษณา