31 ส.ค. 2021 เวลา 09:14 • นิยาย เรื่องสั้น
เฉียวฟง
กับ 👐 ฝ่ามือพิชิตมังกร🐉🐉
🍂 🍂
...หลายครั้งที่ข้าพเจ้าเขียนบทความในเพจ “นวัตกรรมทางปัญญาฯ”
โดยเฉพาะเมื่อเขียนถึงวิชาฝ่ามือหรือเพลงฝ่ามือต่างๆ
จอมยุทธที่ถูกถามถึงในเชิงเปรียบเทียบเสมอ คือ #เฉียวฟง
ผู้ใช้วิชาฝ่ามือพิชิตมังกร
หลายคนตั้งคำถามที่พบเห็นได้ในหลายครั้ง คือ
เฉียวฟง หรือเซียวฟง เก่งกาจแค่ไหน ❓❓
เพราะเป็นจอมยุทธที่ไม่ได้สำเร็จวิชาใดเลยนอกจาก
.
ฝ่ามือพิชิตมังกรและเพลงไม้เท้าตีสุนัข
วันนี้ข้าพเจ้าจึงขอเล่าถึงเฉียวฟงกับฝ่ามือพิชิตมังกรครับ
เฉียวฟงมีคุณลักษณะของจอมยุทธในยุทธภพกำลังภายใน
คือ ห้าวหาญ ยิ่งเมายิ่งฮึกเหิม และที่สำคัญ
มาพร้อมกับยอดวิชา “👐ฝ่ามือพิชิตมังกร”🐉 ซึ่งเป็น
สุดยอดวิชาประจำพรรคกระยาจก
ฝ่ามือพิชิตมังกรนั้นทำให้คนไทยรู้จักคือ ก๊วยเจ๋งและอั้งฉิกกง
แต่คนที่สามารถใช้วิชาฝ่ามือพิชิตมังกรจนกล่าวได้ว่า
น่าจะเป็นเจ้าแห่งเพลงฝ่ามือพิชิตมังกร
ตัวจริงในยุทธจักรและจักรวาลของกิมย้ง
ย่อมต้องเป็นหัวหน้าพรรรคกระยาจก นามว่า
.
“เฉียวฟง” เจ้าของฉายา “เฉียวฟงเหนือ” ซึ่งตลอดทั้งเรื่องจะเห็นเฉียวฟงใช้เพลงฝ่ามือพิชิตมังกรเกือบจะวิชาเดียวท่องไปทั่วหล้า
ทั้งนอกด่านและในด่านโดยไร้ผู้ต่อต้าน
(ไม่นับหลวงจีนกวาดลานวัดหรือหลวงจีนห้องเก็บคัมภีร์ที่อยู่ในวัดเส้าหลินนะครับ เพราะท่านอยู่เหนือกาลเวลาและยุคสมัยไปแล้ว)
เฉียวฟง ตามภาษาจีนกลาง หรือเคียวฮงตามภาษาแต้จิ๋ว
นั้นยามกำเนิดมีโชคชะตาที่อาภัพ บุคคลที่พอเทียบได้ในความอาภัพนี้
ในทัศนคติของข้าพเจ้า คือ
“เอี้ยก่วย” ที่กำพร้าบิดา และมารดาในเวลาต่อมา
เฉียวฟงนั้นเป็นเด็กกำพร้าโดยครอบครัวของเฉียวฟง
ซึ่งเป็นชาวชี่ตันถูกโจมตีและตายเกือบยกครัว
โดยเหล่าจอมยุทธ์แห่งซ่งเหนือโดยไม่ทราบสาเหตุ
จากนั้นถูกเลี้ยงดูโดยศัตรูที่ฆ่ามารดา ถูกพร่ำสอนวิชาฝีมือเพื่อที่จะได้เป็นกำลังสำคัญให้แผ่นดินต้าซ่ง แต่สุดท้ายก็ถูกทำร้ายหรือทำลายโดยพ่อแท้ๆของตัวเองทำให้จากวีรบุรุษกลับกลายเป็นศัตรูของแผ่นดินซ่งเหนือในที่สุด
เฉียวฟงเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1061 และกระทำอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย)
เมื่อปี ค.ศ. 1094 รวมแล้วจอมยุทธ์ท่านนี้มีชีวิตราว 33 ปีเท่านั้น
แต่ด้วยผลงานในขณะที่มีชีวิตอยู่และดำรงตำแหน่ง
หัวหน้าพรรคกระยาจกซึ่งเป็นพรรคอันดับ 1 เเห่งแผ่นดินในขณะนั้น
กล่าวได้ว่ายอดเยี่ยมไร้ผู้ต่อกรก็ว่าได้
ว่ากันว่าผู้ที่ฝึกฝ่ามือพิชิตมังกรได้ต้องมีพละกำลังร่างกายที่สุดยอด
วิชานี้คนที่ร่างกายอ้อนแอ้นหรือผอมเพรียว ร่างกายอ่อนแอย่อมฝึกไม่ได้
สิ่งที่ตามมาคือแบบฝึก เช่น
ตอนก๊วยเจ๋งฝึก มังกรผยองได้สำนึก ผลักฝ่ามือกับต้นสนจนต้นสน
(ขนาดเล็ก)หักโค่นลงนับว่าเป็นการฝึกที่เรียกว่า “#บ้าพลัง” อย่างแท้จริงอันนี้ผมเทียบจากการฝึกของก๊วยเจ๋งในวิชาฝ่ามือพิชิตมังกรเหมือนกัน
นอกจากพละกำลัง แล้วบุคลิกลักษณะของเฉียวฟง
คงต้องมองผ่านมุมมองของต้วนอี้
น้องร่วมสาบานของเฉียวฟงยามเฉียวฟงแรกพบต้วนอี้
“ ชายฉกรรจ์ที่อยู่โต๊ะด้านซ้ายกวาดสายตาดุจสายฟ้า⚡️
มายังโต๊ะต้วนอี้แวบหนึ่ง ต้วนอี้เห็นคนผู้นี้ร่างกายกำยำสูงใหญ่
มีอายุสามสิบเศษสวมชุดสีเทาคร่ำคร่า เริ่มมีรอยเปื่อยขาด
คิ้วดกหนาตาโต จมูกโด่ง ปากกว้าง ใบหน้าสี่เหลี่ยม
แฝงแววกร้านกรำแดดลม ท่วงท่าน่าเกรงขามนัก
ต้องโห่ร้องชมเชยในใจ “
นี่เป็นบุคลิกลักษณะเฉียวฟง ทำให้คนพบเห็นรู้สึกระย่นระย่อในท่าที
บารมีน่าเกรงขาม ท่าทางยังแฝงไว้ด้วยพลัง
🍁🍁
ข้าพเจ้าขอยกเหตุการณ์ที่เป็นตัวชี้ให้เห็นถึง
ธาตุแท้อันแกร่งกร้าวห้าวหาญ ของเฉียงฟง
ในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือร้อยกว่าคนในตึกชุมนุมผู้กล้า
ซึ่งมาจากการเชิญของ “ซิซิงอุ้ย” ผู้ซึ่งได้รับฉายาว่า “ศัตรูยมบาล”
และ สองนักสู้ตระกูลอิ้วนามอิ้วกี๋และอิ้วกู่ (อิ้วกี๋เป็นบิดาของอิ้วถั่งจือ)
1
เนื่องเพราะเฉียวฟงยามนั้นเป็นคนโฉดของยุทธจักร
ในความผิดฐานที่
“ฆ่าอาจารย์ ทำปิตุฆาต และรวมถึงเป็นชาวชี่ตัน”
ทำให้กลายเป็นศัตรูของชาวซ่งไปโดยปริยาย
ยอดฝีมือร้อยกว่าคนที่เฉียวฟงต้องเจอนั้นระดับไหน❓❓
ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่าง เช่น ฉื่อเจียงเล่า และผู้อาวุโสพิทักษ์กฎ
ผู้อาวุโสถ่ายทอดฝีมือ บรรดาหัวหน้าตึกแซ่ฮี้ แซ่ซ่ง และแซ่ตั้ง
แซ่โง้ว ซึ่งเป็นยอดฝีมือของพรรคกระยาจกระดับสูงทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังมีตุลาการหน้าเหล็กตัวเจี่ย ท้ำกง ท้ำพั่ว ตลอดจนเตี้ยจี่ซุ้น และพวก
และยังมี🛕วัดเส้าหลินส่งหัวหน้าตึกตั๊กม้อ เฮี้ยงลั้งไต้ซือ
หัวหน้าตึกนาครชุนเฮี้ยงซกไต้ซือ ยังไม่รวมที่มาแบบลับๆไม่ได้รับเชิญ
อย่างแก๊งจอมโฉดชั่วที่มีฮุ้นตงเฮาะซึ่งมีฝีมือระดับเยี่ยมมาแอบซุ่มทำร้ายอยู่
เฉียวฟงนั้นแสดงความ “ห้าวหาญ” อย่างเด่นชัดในตอนนี้เองครับ
เมื่อเฉียงฟงตวาดแค่ครั้งเดียว ก็ทำลายวิชาของไม้เท้าล่าวิญญาณท้ำแชไป
“ท่านมียางอายหรือไม่ ตัวเองกำลังจะถูกสับสังขารเหลกเละ
ยังบอกว่าละเว้นชีวิตผู้อื่น”
...
เฉียวฟงตวาดว่า
...
“ไสหัวออกมา”💥
สุ้มเสียงสะท้านกระเบื้องบนหลังคา
ฝุ่นละอองบนขื่อร่วงพรูลงมาทุกผู้คนรู้สึกแก้วหูลั่นอื้ออึงหัวใจเต้นแรงขึ้น
ในกลุ่มผู้คนปรากฏคนซัดเซออกมา คล้ายร่ำสุราเมามาย
เห็นมันสวมชุดเขียว ใบหน้าซีดเผือด ท้ำกงพลันร้องว่า
“มันคือ ไม้เท้าล่าวิญญาณท้ำแช
มันเป็นศิษย์ของโฉดชั่วสุดสามานย์ ต้วนเอี่ยงเค่ง “
เห็นกล้ามเนื้อบนใบหน้าไม้เท้าล่าวิญญาณท้ำแชสั่นกระตุก
แสดงว่าบังเกิดความเจ็บปวดรวดร้าว ยกสองมือตะกุยทรวงอก
เปล่งเสียงร้องออกจากร่างว่า
..
“ไฉนท่านทำลายวิชาของเรา” ‼️
..
นี่คือระดับพลังกำลังภายในและความห้าวหาญของเฉียวฟง
เพียงตวาดครั้งเดียวก็สามารถทำลายวิชาของผู้อื่นได้
แต่เหตุการณ์ยังไม่จบเพียงเท่านี้ครับ
ฮุ้นตงเฮาะ เจ้าของฉายามารทมิฬโฉด
ซึ่งเป็นอันดับ 4 ในสี่ยอดคนโฉดและเป็นหนึ่งในยอดฝีมือวิชาตัวเบา
พุ่งพรวดมาเพื่อชิงตัวท้ำแชไป ขนาดคว้าตัวแล้ว
กระโดดลอยตัวไปถึงกำแพงแล้ว แต่เมื่อเจอเสียงตวาดของเฉียวฟงว่า
“ท่านรั้งอยู่..”
เฉียวฟงสะบัดฝ่ามือใส่อากาศ แผ่พุ่งพลังลม☄️
คล้ายปรากฏอาวุธที่ไร้สภาพเล่มหนึ่งจู่โจมใส่กลางหลังฮุ้นตงเฮาะ
มันครางหนักๆ ร่วงลิ่วหล่นลงมาอย่างหนักหน่วง อ้าปากกระอักโลหิต 🩸
ซิซิงอุ้ยทราบว่าฮุ้นตงเฮาะบาดเจ็บสาหัสแล้ว
แต่ยังมีทางรักษา ขณะที่ท้ำแชกลับสูญเสียวิญญาณไม่มียาใดรักษาได้
หวนนึกถึงเฉียวฟงเพียงตวาดคำหนึ่งปาดฝ่ามือออกไปมือหนึ่ง
มีอานุภาพถึงปานนี้ หากคิดปลิดชีวิตตนเกรงว่าไม่มีผู้ใดขัดขวางได้
ขณะที่กำลังครุ่นคิดเห็นท้ำแชยืนตัวนิ่งดวงตาเบิกโพลง
ที่แท้สิ้นใจตายแล้ว...☠️
หลังจากนั้นก็เป็นการดื่มสุรา คว่ำจอกตัดความสัมพันธ์
กับเหล่าชาวยุทธที่เฉียวฟงเคยคบหามา
หลังจากสิ้นการดื่มสุรานี้แล้ว
จะฆ่ากันก็ไม่ถือว่าทรยศหรือรานน้ำใจ โดยให้ทุกคนร่วมเป็นพยาน
เมื่อประกอบพิธีกรรมเสร็จแล้ว
หลังจากดื่มไปมากพอควร (ประมาณ 40-50 ชาม)
เฉียวฟงยิ่งดื่มยิ่งฮึกหาญครับ ยิ่งดื่มกำลังวังชายิ่งเพิ่มพูน
เมื่อดื่มจนได้ที่ก็เริ่มเปิดฉากต่อสู้
.
เริ่มตั้งแต่อัดพลังใส่ไหสุราใส่อิ้วกี๋จนระเบิดกลาย
เป็นเศษเคลือบน้บร้อยนับพันชิ้น
แปรสภาพกลายอาวุธลับสาดกระจายไปทั่ว ‼️
ตามด้วยทำลายวิชาจักรวาลในแขนเสื้อของหลวงจีนหัวหน้าตึกตั๊กม้อภายในฝ่ามือเดียว และต้านทานหมัดอรหันต์ของ
ด้วยเพลงหมัดยาวไท่จู่ของปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ซ่งเช่นเดียวกับ
หัวหน้าตึกตั๊กม้อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความลึกล้ำพิสดารของเฉียวฟง
เมื่อใช้หมัดยาวไท่จู่เช่นเดียวกัน ซึ่งมีทั้งหมด 64 กระบวนท่า
ซึ่งทุกกระบวนท่าสะกดข่มกันเอง เฉียวฟงรอจนหัวหน้าตึกตั๊กม้อใช้กระบวนท่าหมัด ก็ใช้กระบวนท่าที่สะกดข่มออก
หัวหน้าตึกตั๊กม้อไหนเลยไม่พ่ายแพ้ได้
เหตุผลนี้มาตรแม้นทุกคนเข้าใจดี แต่คิดบรรลุถึงขึ้น
“ใช้ออกทีหลังบรรลุถึงก่อน” ไหนเลยง่ายดายดังใจนึก!!
ต่อมาปะทะกับหัวหน้าตึกนาครชุน ซึ่งดีดนิ้วใส่จุดซ้วยกีของเฉียวฟง
ใช้ออกด้วยไม้ตายในการจี้สกัดจุดของสำนักเสี้ยวลิ้มนาม
“ 🖕ดรรชนีชมพูทวีป✨ ”
มาตรเเม้นหัวหน้าตึกตั๊กม้อและตึกนาครชุนใช้สองกลุ้มรุมหนึ่ง
...ยังคงเป็นสถานการณ์รับมากกว่ารุก จนสุดท้ายหัวหน้าตึกตั๊กม้อ
ใช้ออกด้วยหมัด “สิบแปดอรหันต์” (ล้อฮั่นคุ้ง)
แต่เฉียวฟงก็ยังตั้งรับด้วยหมัดยาวไท่จู่ของปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ซ้อง
เหตุผลเพราะเฉียวฟงเห็นว่าตนนั้นถูกเกลียดเพราะเป็นชาวชี่ตัน
แต่กับหัวหน้าตึกของวัดเส้าหลินซึ่งใช้วิชาของปรมาจารย์ตั๊กม้อ
ซึ่งเป็นชาวต่างชาติเช่นกันกลับมิได้ถูกชาวยุทธเกลียดชัง
เฉียวฟังนับว่าเป็นผู้กอรปด้วยปัญญาเพราะใช้หลักวิชายุทธ
โต้แย้งเหล่าผู้กล้าที่มารุมสังหารตน
แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่ถึงกับเปิดฉากฆ่าฟัน เพียงแต่ทำร้ายและ ยัง
“ยั้งมือไว้ไมตรี”อยู่
.
แต่การนองเลือดแบบชนิดที่เรียกว่า “ ตัดบัวไม่เหลือใย ” นั้น
เกิดขึ้นตอนไหน❓
เป็นเตี่ยจี้ซุนด่าทอเฉียวฟงว่า
“ลูกส่ำส่อนจะเปิดฉากฆ่าท่านเป็นคนแรก”
กลับเป็นการสะกิดนิสัยดุร้ายของเฉียวฟงขึ้นมา
ยื่นมือขวาตะปบบุตรคนรองของตุลาการหน้าเหล็กนาม #ตัวตงซัว
เฉียวฟงใช้มือซ้ายช่วงชิงดาบ มือขวาวางร่างมันลง
จากนั้นฟาดฝ่ามือตามติด ตัวตงซัวถึงกับถูกฟาดศีรษะแหลก
เเละจบสิ้นชีวิต 💀💀เหล่านักสู้พากันส่งเสียงร้อง
แตกตื่นลนลานเดือดดาลคั่งแค้นออกมา🤬🤬
นักสู้ผู้กล้าที่เดินทางมาร่วมงานชุมนุม 9 ใน 10 ล้วนเคยฆ่าคน
แต่สภาพการต่อสู้เช่นนี้กลับไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ศัตรูมีเพียงคนเดียว แต่คล้ายพยัคฆ์คลุ้มคลั่ง
ดังวิญญาณภูตพรายบุกซ้ายทะลวงขวา ฆ่าฟันราวเสียสติ
ปรากฏยอดฝีมือไม่น้อยเข้ารับศึก ล้วนถูกเฉียวฟงใช้กระบวนท่าที่รวดเร็วดุดันและเลิศล้ำกว่าฆ่าทิ้ง...
🍁🍁
.
🏔 ต่อมาในงานชุมนุมผู้กล้าที่ยอดเขาเซี่ยวซิกฮง
ณ วัดเส้าหลิน
เฉียวฟงยังคงถูกรายล้อมด้วยเหล่านักสู้ผู้กล้า
และญาติสนิทมิตรสหายที่เคยตกตายของชาวยุทธที่โดนเฉียวฟงสังหาร
ที่ตึกชุมนุมผู้กล้า
.
แต่ที่สำคัญกว่าคือ ถูกรุมด้วย..มู่หยงฟู่
...อิ้วถั่งจือประมุขพรรคกระยาจกคนปัจจุบัน
ผู้มีวิชาคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น และพิษเย็นไหมน้ำแข็ง
รวมทั้ง ...เต็งชุนชิว แห่งสำนักแชซก
ด้วยความห้าวหาญและกอรปด้วยธาตุแท้เเห่งผู้กล้า
เฉียวฟงกู่ร้องดังยาวนานพลางกล่าวว่า
“ ม่อย้งกงจื้อ (มู่หยงฟู่) จึงปังจู้ (อิ้วถั่งจือ) เต็งเล่าไกว (เต็งชุนชิว) พวกท่านทั้งสามบุกเข้ามาโดยพร้อมเพรียงกัน เราผู้แซ่เซียว (เฉียว) หากลัวไม่ ”
...เริ่มจากฟาดฝ่ามือ🖐ใส่ #เต็งชุนชิว เมื่อเต็งชุนชิวต้านทาน
เฉียวฟงชักนำตามสภาวะ ชักจูงพลังฝ่ามือของตัวเองกับฝ่ายตรงข้ามฟาดเฉียงๆ ☄️ใส่ #มู่หยงฟู่
มู่หยงฟู่ถนัดในการใช้วิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อย💫🪐
สามารถชักนำกระบวนท่าของฝ่ายตรงข้าม
ย้อนจู่โจมใส่ฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่สามารถชักนำพลังฝ่ามือของเฉียวฟงได้
เพราะพลังฝ่ามือนี้แกร่งกร้าวเกินไป พร้อมกันนั้นพลังฝ่ามือหมุนวน🌪
ไม่ทราบจู่โจมใส่ตำแหน่งใด สุดที่จะชักนำได้
ดังนั้นผลักสองมืออกพร้อมกับพลิ้วถอยหลังไปสามวา
จากนั้นเฉียวฟงเบี่ยงตัวเหล็กน้อย ส่งเสียงตวาดปานฟ้าร้อง ⚡️
ต่อยหมัดขวา👊ใส่อิ้วถั่งจือ หมัดของเฉียวฟงรวดเร็วยิ่ง
พลังหมัดบรรลุถึงใบหน้าของมันในบัดดล ยามนั้นอิ้วถั่งจือหงายไปด้านหลัง ตีลังกาสองทอดกลางอากาศจึงสามารถหลบรอดจากกระบวนท่าหมัดที่หนักหน่วงนับพันชั่งนี้ได้...
เฉียวฟงลงมือเพียงสามกระบวนท่า ก็คุกคามยอดฝืมือสามคนล่าถอยไป‼️
หลังจากนั้นด้วยความช่วยเหลือของน้องร่วมสาบานคือ
ต้วนอี้ และซีจุ๊ (ฮือเต็ก)ที่แยกกันไปรับมือ มู่หยงฟู่ และเต็งชุนชิว
เหลือเพียงอิ้วถั่งจือเพียงคนเดียวที่เฉียวฟงต้องรับมือ
เฉียวฟงกราดฟาดออกหลายฝ่ามือจากนั้น กวาดออกเท้าหนึ่ง
กระดูกข้อเท้าของอิ้วถั่งจือพลันหักโดยพร้อมเพรียง ‼️
ต่อมาต้วนอี้ใช้เทพกระบี่หกชีพจรเอาชนะมู่หยงฟู่
ด้วยความใจอ่อนเพราะแม่นางหวังขอร้องให้ยั้งมือไว้ไมตรี
มิให้ทำร้ายมู่หยงฟู่
จึงถูกมู่หยงฟู่ฉวยโอกาสคุกคามทำร้าย เป็นเฉียวฟงคว้าจับจุดซิ้งเต๋ากลางหลังของมู่หยงฟู่ไว้
ใช้ออกด้วยวิชาคว้าจับอันลึกล้ำ ตะปบคว้าจุดสำคัญไว้
มู่หยงฟู่ไม่อาจขยับเคลื่อนไหวได้
จากนั้นตวัดแขนเหวี่ยงร่างมู่หยงฟู่ออกไป ลอยลิ่วไป 7-8 วา เสียงโครม‼️หลังมู่หยงฟู่กระแทกพื้น มีสภาพทุลักทุเลยิ่ง
นับว่ามู่หยงใต้มิอาจต้านทานความห้าวหาญของเฉียวฟงเหนือได้
การขนานนามร่วมกันเป็นเฉียวฟงเหนือมู่หยงใต้
นับว่าเป็นการกล่าวยกย่องมู่หยงฟู่เกินเลยไปจากความสามารถที่แท้จริง
🍃🍃
ที่ข้าพเจ้าเล่ามาทั้งหมด เพื่อจะกล่าวให้เห็นว่า
แม้เฉียวฟงจะไม่มีกำลังภายในเท่าต้วนอี้หรือซีจุ๊
กระบวนท่าก็มิได้พิสดารเปลี่ยนแปลงประการใด
แต่ “‼ใจ💙” ของเฉียวฟงนั้นหาญกล้ามากพอที่จะกล้าเป็นอริกับชาวยุทธนับพันนับร้อยจากงานชุมนุมที่ตึกผู้กล้า และที่วัดเส้าหลิน
และยังใจถึงพอที่จะปะทะกับสามยอดฝีมือ อย่างเต็งชุนชิว มู่หยงฟู่ อิ้วถั่งจือ แม้จะรู้ตัวว่าเสียเปรียบแต่ก็มิได้เกรงกลัวแต่ประการใด
นี่เป็นความเหี้ยมหาญของวิชาฝ่ามือพิชิตมังกรของเฉียวฟง‼️
ต่อมาเฉียวฟงได้ถ่ายทอดฝ่ามือพิชิตมังกรและไม้เท้าตีสุนัขของพรรรคกระยาจก ให้แก่ซีจุ๊ซึ่งเป็นน้องร่วมสาบาน เพื่อให้ว่าที่หัวหน้าพรรคกระยาจกคนต่อไปสามารถร่ำเรียนวิชากับซีจุ๊ได้
นอกจากนี้ เฉียวฟงยังปรับปรุงฝ่ามือพิชิตมังกร
จาก 28 ฝ่ามือ เหลือเพียง 18 ฝ่ามือ
หลายปีต่อมาหลังจากเฉียวฟงฆ่าตัวตาย คนของพรรคกระยาจกได้ส่งคนมาเรียนสองวิชานี้ไปจากซีจุ๊ และได้สืบทอดไปถึงอั้งฉิกกง และก๊วยเจ๋งในที่สุด
🐲🐲
ขอคารวะเหล่าชาวยุทธทุกท่าน
อนันตทวิ☯️
📚อ้างอิง
- นิยาย 8 เทพอสูรมังกรฟ้า เรียบเรียงโดย น. นพรัตน์
- เชิงอรรถมังกรหยก 1 : ต่อพงษ์ เศวตามธ์
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต
โฆษณา