ความเหมือนที่แตกต่าง เทรดเดอร์มืออาชีพ VS เทรดเดอร์มือสมัครเล่น
บทความโดย ดร.อัฏฐพล อัศวไกรเชษฐ์ Full Time Trader เจ้าของเพจ Trader Overseas
ความเหมือนที่แตกต่าง เทรดเดอร์มืออาชีพ VS เทรดเดอร์มือสมัครเล่น
ในช่วงสถานการณ์โควิท 19 ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ มีผู้คนจำนวนมากตกงานหรือต้องปิดกิจการลง หลายคนเริ่มมองหาลู่ทาง ทำมาหากินรูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการทำธุรกิจออนไลนก็ดี หรือแม้แต่การก้าวเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ตลาดคริปโตเคอเรนซี หรือตลาดการค้าสกุลเงินตรา (Forex) แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า การลงทุนในหุ้นหรือสกุลเงินต่างๆ จะง่ายและสวยหรู เหมือนกับที่ทุกคนวาดฝันไว้
วันนี้ผมจะมาไขข้องแตกต่างระหว่างการเป็น “เทรดเดอร์มืออาชีพ” และ “เทรดเดอร์สมัครเล่น”
1. สภาวะความรู้ขั้นพื้นฐานของแต่ละคน : เทรดเดอร์มืออาชีพจะมีความรู้ทั้งด้านปัจจัยพื้นฐานและทางด้านเทคนิคอล ซึ่งเทรดเดอร์มือสมัครเล่น จะมีความรู้เฉพาะเรื่อง ซึ่งเทรดเดอร์มือใหม่ จำเป็นต้องหาความรู้ใหม่ๆ ใส่ตัวตลอดเวลา เพื่อเพิ่มทักษะในการมองตลาด และนำทฤษฎีความรู้ต่างๆ มาประยุกต์ใช้
เทรดเดอร์มือใหม่เวลาเข้ามาเรียนหรือเทคคอร์ส อาจจะเข้าใจเนื้อหาในการเรียนรู้ด้านลงทุนไม่เท่ากับเทรดเดอร์มืออาชีพ ที่เขาสามารถรับความรู้และนำไปต่อยอดได้ง่าย
เทรดเดอร์ที่มีองค์ความรู้ที่กว้าง สามารถเรียนรู้รูปแบบการเข้าออก หรือหน้าเทรดได้เป็นอย่างดี และสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดให้เหมาะกับนิสัยของเขาได้ ซึ่งต่างจากเทรดเดอร์มือสมัครเล่น ดังนั้น การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจึงเป็นจุดเปลี่ยนที่จะพัฒนาให้เทรดเดอร์มือใหม่สามารถทำกำไรได้อย่างเสถียร
2. สภาวะการเงินของแต่ละคน หรือ เงินทุนของเทรดเดอร์ : ขนาดหน้าตักเงินในพอร์ตเรามีขนาดใหญ่เล็กต่างกัน และส่งผลต่อในจิตใจ
เงินเย็น – ไม่กลัวที่จะเทรด เทรดเดอร์ไม่ได้เดือนร้อน หากจะต้องสูญเสียเงินทุนก้อนนั้นไป
เงินร้อน - ไม่กล้าออกออเดอร์ กลัวเสียเงิน ลาน กังวลใจ นอนไม่หลับ
เงินทุนนั้น สำคัญต่อนักลงทุนมาก ถ้าไม่มีเงินทุน เราก็เป็นนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ไม่ได้
เทรดเดอร์มืออาชีพ มักจะแยกพอตการลงทุน ให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรด
3. สภาวะจิตใจ : ใจเล็ก ใจใหญ่ มีผลต่อการเทรดทั้งสิ้น แต่เรื่องนี้สามารถฝึกกันได้
สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ สามารถฝึกตามหน้าเทรดตัวเองที่ได้เรียนมา โดยทำการจดบันทึกการเทรดทุกครั้ง ว่าแต่ละครั้งที่เราเปิดออเดอร์ ซื้อด้วยเหตุผลอะไร รูปแบบหน้าเทรดแบบไหน และขายเพราะอะไร ราคา จุดเข้า-ออก เก็บเป็นสถิติ Trading Journal ของตัวเอง ที่สำคัญต้องทำการบริหารออเดอร์ให้เหมาะสมกับเงินในพอร์ตทุกครั้ง Money Management
สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ มักจะเทรดสินค้าที่ถนัด ไม่กี่ตัว เพราะเขาคุ้นเคยนิสัย การขึ้นลง การสะสมพลัง และการกระชากของราคาในสินทรัพย์นั้นๆ ได้ดี
เทรดเดอร์มือสมัคเล่น มักจะเทรดสินค้าไปเรื่อยๆ ไม่มีสินค้าหลักๆ ในการเทรด เรียกง่ายๆ เทรดหลายตัว
เทรดเดอร์มืออาชีพ จะรู้ว่าต้องเทรดแบบไหน กับสินค้าอะไร พฤติกรรมของราคาสินทรัพย์นั้นๆ เป็นอย่างไร รู้ขนาดพอร์ตของตัวเอง ก่อนวางออเดอร์ รู้ระยะเวลาถือครองออเดอร์ และรู้ว่าถ้าแพ้ จะต้องเสียเท่าไหร่
4. สภาวะตลาด : ตลาดเคลื่อนที่ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน บางช่วงเวลาตลาดไม่มีเทรนด์ ไม่มีจังหวะให้เราเข้าเทรด เทรดเดอร์มืออาชีพจะรออย่างใจเย็นเพื่อให้ตลาดกลับมาสู่สภาวะที่เขาสามารถเทรดได้อย่างมั่นใจ และเทรดเดอร์มืออาชีพเหล่านี้ มักจะมีหน้าเทรดที่หลากหลาย และรู้ว่าจะใช้หน้าเทรดแต่ละกัน กับสภาวะตลาดแบบไหน
5. รู้ตัวเองว่าเทรดแบบไหนดีที่สุดกับเงินทุนที่มีในตอนนี้ : เทรดเดอร์มือใหม่ อาจจะเริ่มต้นจากการเทรดตามเทรนด์ หรือ Swing Trade ไปก่อน พอพอร์ตการลงทุนเริ่มเติมโต อาจจะขยับมาเดย์เทรดได้ เมื่อพร้อมและมีประสบการณ์การดูตลาดมากขึ้น
การรู้ตัวเองว่า ชอบเทรดแบบไหนแล้วทำกำไร จึงเป็นอีกเหตุผลของมือใหม่ที่ต้องหาให้เจอ
ทุกลำดับขั้นตอนที่ผมกล่าวถึง คือสิ่งที่เทรดเดอร์มือใหม่ ต้องมีและใช้มันพัฒนาไปสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ
อย่าโอเวอร์เทรด จนหมดหน้าตัก มันจะทำให้เทรดเดอร์กลายเป็นนักพนันในที่สุด
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
