2 ก.ย. 2021 เวลา 03:50 • ไลฟ์สไตล์
ทำไม งานอดิเรก ถึงช่วยเพิ่มพลัง ให้ชีวิตเราได้ | THE BRIEFCASE
3
หลายคนน่าจะเคยถูกถามว่า “งานอดิเรกของคุณคืออะไร” ไม่ว่าจะเป็นตอนที่กำลังถูกสัมภาษณ์งาน หรือแม้แต่ระหว่างในบทสนทนาทั่ว ๆ ไป
งานอดิเรกของคนส่วนใหญ่ ก็มักจะมาจากความสนใจและความสนุกสนานเป็นหลัก
แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถนำงานอดิเรก ให้กลายมาเป็นสิ่งที่สร้างรายได้เสริม อีกด้วย
ทำไม งานอดิเรก ถึงมีพลังแฝง มากกว่าที่เราคิด ?
วันนี้ THE BRIEFCASE จะพาไปหาคำตอบ
“งานอดิเรก” ก็คือ งานอะไรก็ตามที่เราทำนอกเหนือจากงานหลัก ซึ่งอาจเกิดจากความชอบ หรือความสนใจเกี่ยวกับเรื่องใดเป็นพิเศษ
บางคนถึงขนาดบอกว่า เราไม่ควรบอกว่า งานอดิเรกนั้นเป็นงานด้วยซ้ำ เนื่องจากหลายคนเชื่อว่า งานอดิเรกเป็นรูปแบบการพักผ่อนและผ่อนคลาย ในช่วงเวลาที่เว้นว่างจากการทำงานหลัก
หลายคนอาจคิดว่า CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายแห่ง คงยุ่งมากจนไม่มีเวลาว่างใช้ไปกับงานอดิเรก แต่ในความเป็นจริงคนเหล่านั้นกลับสามารถปลีกเวลาไปให้กับงานอดิเรกได้ด้วย
4
อย่างเช่น อีลอน มัสก์ CEO ของ Tesla เขาบอกว่า ช่วงเวลาว่างเขามักจะใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือมากมาย ตั้งแต่นิยายแฟนตาซีและไซไฟ ไปจนถึงหนังสือเกี่ยวกับชีวประวัติคนสำคัญ ๆ และวิศวกรรมโครงสร้าง
นอกจากนี้ เขามักใช้เวลาไปกับการเล่นเกม ซึ่งเขาบอกว่า การเล่นเกมเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาหันมาสนใจเรื่องการเขียนโปรแกรมอีกด้วย
แจ็ก ดอร์ซีย์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Twitter บอกว่า งานอดิเรกในช่วงเวลาว่างหรือวันหยุดของเขาคือ “การออกไปเดินป่า”
ซึ่งเขาบอกว่า นี่เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ชีวิตเขาผ่อนคลายหลังจากทำงานหนัก ๆ ทั้งยังช่วยให้ตัวเขาสัมผัสกับธรรมชาติหลังจากที่ต้องทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของ Amazon.com อธิบายแบบติดตลกว่า งานอดิเรกของเขาคือ “การนอน”
1
เขาจะพยายามนอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการนอนและพักผ่อนให้เพียงพอจะทำให้ตัวเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลัง ความสดชื่น และช่วยให้เขาสามารถคิดเรื่องงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1
แม้แต่คนทั่วไป ซึ่งเวลาไปสัมภาษณ์งาน หนึ่งในคำถามที่บริษัทมักถามเป็นประจำก็คือ งานอดิเรกของคุณคืออะไร ? ทั้งนี้ก็เพราะว่า บริษัทอยากรู้ว่า คนที่มาสมัครนั้นมีไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต ในช่วงเวลาที่นอกเหนือจากการทำงานหลักเป็นอย่างไร
ซึ่งคำตอบของผู้สมัครพอจะช่วยให้บริษัทรู้ว่า ผู้สมัครมักใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากน้อยแค่ไหน บุคลิกภาพเป็นอย่างไร เป็นคนชอบเข้าสังคม หรือเป็นคนเก็บตัวชอบอยู่เงียบ ๆ
รวมถึงมองหาทักษะที่ซ่อนอยู่ของผู้สมัคร จากงานอดิเรก ซึ่งอาจช่วยส่งเสริมการทำงานหลักได้
แล้วประโยชน์ที่เกิดจากงานอดิเรกมีอะไรบ้าง
และทำไมเราถึงบอกว่า งานอดิเรก มันมีพลังแฝง มากกว่าที่เราคิด ?
- ช่วยพัฒนาทักษะใหม่ ๆ
หลายครั้งที่งานอดิเรกนั้น มักแตกต่างจากงานหลักที่เราทำและด้วยความที่ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นงานที่เราชอบหรือสนใจ พอเรื่องเป็นแบบนี้ เราจึงมักใช้เวลาทำงานอดิเรกนั้นอย่างตั้งใจ จนช่วยให้เราเกิดความชำนาญในเรื่องนั้น ๆ
เช่น ถ้าเราทำงานเป็นพนักงานบัญชีของบริษัท แต่สนใจทำขนม จึงไปลงคอร์สเรียนทำขนมในช่วงเวลาว่าง จนเกิดความชำนาญ และสามารถเอาไปทำเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้นอกเหนือจากงานหลักอีกด้วย
- ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
งานอดิเรกหลายอย่าง จะช่วยให้เราได้พบปะ และได้ทำความรู้จักกับผู้คนที่หลากหลาย เช่น ถ้าเราชอบปั่นจักรยานออกกำลังกาย เราจะมีโอกาสได้พบกับเพื่อนใหม่ ที่ชื่นชอบในการขี่จักรยานเหมือนกัน
ซึ่งหลายครั้ง ผู้คนเหล่านั้นก็มักจะมีการแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในเรื่องที่เราสนใจ รวมถึงอาจจะให้ความช่วยเหลือเราในอนาคตอีกด้วย
- ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO ของ Facebook บอกว่า งานอดิเรกไม่เพียงแต่ทำให้คุณมีทักษะที่หลากหลาย แต่ยังช่วยให้คุณเกิดความคิดสร้างสรรค์
เนื่องจากการทำงานอดิเรกใหม่ ๆ มักจะทำให้เราได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำให้เราต้องพยายามคิดถึงสิ่งใหม่ ๆ จนนำไปสู่การเกิดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งบางครั้งก็สามารถนำมาใช้กับงานหลักได้อีกด้วย
- ช่วยจัดการกับความเครียดได้
งานอดิเรกนั้น ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ สร้างความคิดสร้างสรรค์ สร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นเท่านั้น งานวิจัยหลายชิ้นยังบอกว่าการใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่เราชอบยังช่วยทำให้สุขภาพจิตของตัวเราดีขึ้น เพราะเวลาเราได้ทำในสิ่งที่สนใจ เราจะปลดปล่อยความเครียดและความฟุ้งซ่านทิ้งไป
ทั้งนี้ ก็ต้องอย่าลืมว่า ทุกคนมีความสนใจในงานอดิเรกที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากความชอบ รสนิยม และรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน
ดังนั้น เวลาที่เลือกงานอดิเรกก็ควรที่จะพิจารณาถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- ค่าใช้จ่าย เพราะงานอดิเรกบางอย่างอาจต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง เช่น การเล่นกอล์ฟ ดังนั้น เราควรเลือกงานอดิเรก ที่มีการใช้งบประมาณเหมาะสมกับตัวเรา
- เวลาว่าง เนื่องจากงานอดิเรกบางอย่างอาจใช้เวลาไม่กี่นาที บางอย่างอาจใช้เวลาเป็นวัน งานอดิเรกก็ควรเป็นงานที่ไม่มากระทบกับงานหลักมากจนเกินไป
- สุขภาพร่างกาย เพราะงานอดิเรกบางประเภทอาจต้องใช้สภาพร่างกายที่แข็งแรงในการทำด้วย เช่น การเล่นกีฬาหนัก ๆ
อ่านถึงตรงนี้ เราน่าจะได้ไอเดียและเหตุผลว่าทำไมเราควรหางานอดิเรกทำ พร้อมทั้งปัจจัยที่ควรนำมาคิด พิจารณา ก่อนที่เราจะเลือกทำ หรือใช้เวลากับงานอดิเรกต่าง ๆ ที่เราสนใจ
แน่นอนว่า งานอดิเรกบางอย่าง ถึงแม้ว่าอาจดูแสนธรรมดาในสายตาคนอื่น
แต่ถ้ามันช่วยให้เราได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและสนใจ
ช่วยให้เราสามารถผ่อนคลายจากความเครียด
และช่วยสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในจิตใจเราได้
1
งานอดิเรกนั้น ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ช่วย “เพิ่มพลังชีวิต” ให้กับเราได้..
Sponsored by JCB
JCB แฮปปี้ทุกไลฟ์สไตล์ มากกว่าส่วนลดและสิทธิประโยชน์แต่เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ในการใช้บัตรเครดิตอย่างคุ้มค่าตลอดทั้งปีกับบัตรเครดิต JCB ที่รวบรวมทั้งร้านอาหารชั้นนำ ปั๊มน้ำมัน ซูเปอร์มาเก็ต แพลตฟอร์มการสั่งอาหาร ส่วนลดการจองที่พัก ร้านค้าชั้นนำอีกมากมายทั้งหน้าร้านและแพลตฟอร์มออนไลน์อีกกว่า 100 ร้านค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/JCBCardThailandTH
#JCBThailand #JCBใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา
โฆษณา