Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
4 ก.ย. 2021 เวลา 03:30 • ประวัติศาสตร์
สงครามโลกครั้งที่ 2 ฉบับรวบรัด (World War II)
1
ผมเคยเขียนบทความหลายเรื่องเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II)
1
แต่สำหรับบทความนี้ ผมจะสรุปเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้จบในบทความเดียว
ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ยุโรปก็เริ่มจะไม่มั่นคง ไม่มีเสถียรภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งต่อมา นั่นคือ “สงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II)” ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีก 20 ปีต่อมา
“อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)” ผู้นำพรรคนาซี (Nazi) ผู้ซึ่งก้าวขึ้นมาเรืองอำนาจในเยอรมนี ได้ทำการปรับปรุงกองทัพ และลงนามในสนธิสัญญากับอิตาลีและญี่ปุ่น โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะขยายอิทธิพลออกไปทั่วโลก
1
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)
ฮิตเลอร์ได้ทำการรุกรานโปแลนด์ในเดือนกันยายน ค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) ทำให้สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสประกาศสงครามต่อเยอรมนี และเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2
2
ในระยะเวลาอีกหกปีต่อมา สงครามนี้จะเป็นสงครามที่สร้างความเสียหายยิ่งกว่าสงครามครั้งไหนๆ โดยในบรรดาผู้เสียชีวิตทั้งหมดในช่วงสงครามระหว่าง 45-60 ล้านคน เป็นชาวยิวถึงหกล้านคน ซึ่งถูกนาซีสังหารในค่ายกักกัน และเป็นที่รู้จักในนามของ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Holocaust)”
5
นั่นคือปฐมบทของสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเรื่องราวของสงครามครั้งนี้ ต้องย้อนไปหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อเยอรมนีซึ่งเป็นผู้แพ้สงคราม ต้องประสบกับวิกฤตหลายอย่าง ทั้งความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศ และการถูกบีบบังคับให้ลงนามใน “สนธิสัญญาแวร์ซาย (Versailles)” ล้วนแต่เป็นตัวจุดประกายให้ฮิตเลอร์และพรรคนาซีก้าวขึ้นมาเรืองอำนาจ
2
ภายหลังจากฮิตเลอร์ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนีในปีค.ศ.1933 (พ.ศ.2476) ฮิตเลอร์ก็ได้ทำการรวบอำนาจ และแต่งตั้งตนเองเป็นผู้นำสูงสุด หรือ “ฟือเรอร์ (Führer)” ในปีค.ศ.1934 (พ.ศ.2477)
2
ฮิตเลอร์นั้นหมกมุ่นกับแนวคิดเรื่องความเป็นเลิศของชาติพันธุ์เยอรมันบริสุทธิ์ ซึ่งเขาเรียกว่า “อารยัน” และเชื่อว่าสงครามคือสิ่งเดียวที่จะทำให้ได้ดินแดนเพิ่ม เพิ่มพื้นที่และจำนวนประชากรเยอรมันบริสุทธิ์
2
ในช่วงกลางยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) ฮิตเลอร์ได้ทำการสะสมอาวุธอย่างลับๆ ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงในสนธิสัญญาแวร์ซาย
2
ภายหลังจากตกลงเป็นพันธมิตรกับอิตาลีและญี่ปุ่น สู้รบกับสหภาพโซเวียต ฮิตเลอร์ก็ได้ส่งกองทัพไปรุกรานออสเตรียในปีค.ศ.1938 (พ.ศ.2481) ก่อนที่ปีต่อมา จะทำการยึดครองเชคโกสโลวาเกีย
แต่พฤติการณ์ของฮิตเลอร์ก็ยังคงเป็นที่เพิกเฉย เนื่องจากในเวลานั้น สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตก็กำลังวุ่นๆ กับการเมืองของตน ส่วนฝรั่งเศสและอังกฤษก็ไม่ได้สนใจจะทำสงคราม
สิงหาคม ค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) ฮิตเลอร์และ “โจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin)” ผู้นำสหภาพโซเวียต ได้ลงนามในกติกาสัญญาโมโลตอฟ–ริบเบินทร็อพ (Molotov–Ribbentrop Pact) ทำให้อังกฤษและฝรั่งเศสเริ่มจะเป็นกังวลที่สองชาตินี้จับมือกัน และคาดเดาไม่ถูกว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
2
ฮิตเลอร์ได้วางแผนจะบุกรุกโปแลนด์มาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งโปแลนด์ก็เป็นชาติที่อังกฤษและฝรั่งเศสได้รับรองว่าจะให้การช่วยเหลือ หากเยอรมนีโจมตี
การทำสัญญากับสหภาพโซเวียต หมายความว่าฮิตเลอร์จะไม่ต้องทำสงครามทั้งสองด้านเมื่อบุกโปแลนด์ และจะได้รับการช่วยเหลือทางการทหารจากสหภาพโซเวียตอีกด้วย
1 กันยายน ค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) ฮิตเลอร์ได้โจมตีโปแลนด์จากทางตะวันตก และอีกสองวันต่อมา ฝรั่งเศสและอังกฤษก็ได้ประกาศสงครามต่อเยอรมนี
1
17 กันยายน ค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) กองทัพสหภาพโซเวียตได้บุกรุกโปแลนด์จากทางตะวันออก ทำให้โปแลนด์ซึ่งถูกโจมตีจากทั้งสองด้าน ต้องพ่ายแพ้ในที่สุด
ต้นปีค.ศ.1940 (พ.ศ.2483) เยอรมนีและสหภาพโซเวียตก็ได้ทำการแบ่งอำนาจปกครองโปแลนด์ จากนั้น กองทัพของสตาลินก็ได้เคลื่อนพลเข้ายึดครองเอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย และยังเอาชนะฟินแลนด์ในสงครามฤดูหนาว (Winter War) อีกด้วย
2
ส่วนทางภาคพื้นทะเล กองทัพเรืออังกฤษและกองทัพเรือเยอรมันได้ปะทะกัน และเรือดำน้ำเยอรมันก็ได้ทำการโจมตีเรือสินค้าที่เดินทางไปยังอังกฤษ โดยมีเรืออังกฤษกว่า 100 ลำถูกโจมตีจนอับปางในช่วงสี่เดือนแรกของสงครามโลกครั้งที่ 2
1
9 เมษายน ค.ศ.1940 (พ.ศ.2483) กองทัพเยอรมันได้รุกรานนอร์เวย์ และยึดครองเดนมาร์ก และในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ.1940 (พ.ศ.2483) กองทัพเยอรมันก็ได้บุกเบลเยี่ยมและเนเธอแลนด์
สามวันต่อมา กองทัพเยอรมันได้ข้ามแม่น้ำเมิซ และได้เผชิญหน้ากับกองทัพฝรั่งเศสที่เซอด็อง โดยกองทัพเยอรมันได้บุกตะลุยแนวทัพฝรั่งเศสโดยใช้รถถังและเครื่องบินรบ
1
ในไม่ช้า ฝรั่งเศสก็อยู่ในภาวะวิกฤต และอิตาลีก็ได้ประกาศสงครามต่อฝรั่งเศสและอังกฤษในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1940 (พ.ศ.2483)
14 มิถุนายน ค.ศ.1940 (พ.ศ.2483) กองทัพเยอรมันได้เข้ามาในปารีส และอีกเพียงแค่สองคืนต่อมา ฝ่ายฝรั่งเศสก็ขอสงบศึก
4
ฝรั่งเศสได้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน โดยส่วนหนึ่งตกอยู่ใต้อำนาจของเยอรมนี และอีกส่วน เป็นของฝรั่งเศสในเขตวีชี
ภายหลังจากพิชิตฝรั่งเศส ฮิตเลอร์ก็ได้มุ่งความสนใจไปยังอังกฤษ ซึ่งอังกฤษมีความได้เปรียบเนื่องจากถูกกั้นด้วยช่องแคบอังกฤษ ทำให้ยากต่อการโจมตี
เพื่อเป็นการเปิดทางสำหรับการรุกรานอังกฤษ เครื่องบินทิ้งระเบิดเยอรมันก็ได้ทำการทิ้งระเบิดลงยังอังกฤษตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ.1940 (พ.ศ.2483) ถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1941 (พ.ศ.2484) ซึ่งกองทัพอังกฤษก็ได้ทำการต่อต้าน ก่อนจะสามารถเอาชนะกองทัพอากาศเยอรมัน ทำให้ฮิตเลอร์ต้องเลื่อนแผนการที่จะบุกอังกฤษ
1
แต่ด้วยความที่ทรัพยากร ความพร้อมในด้านการป้องกันตนเองของอังกฤษเริ่มจะถึงขีดสุดแล้ว ทำให้อังกฤษเริ่มจะได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา
ต้นปีค.ศ.1941 (พ.ศ.2484) ฮังการี โรมาเนีย และบัลแกเรีย ได้เข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ และในเดือนเมษายนของปีนั้น กองทัพเยอรมันก็ได้บุกรุกยูโกสโลวาเกียและกรีซ
1
อันที่จริง การพิชิตคาบสมุทรบอลข่านของฮิตเลอร์เป็นเพียงแค่การโยนหินถามทางเท่านั้น แต่เป้าหมายที่แท้จริงของฮิตเลอร์ นั่นคือ “การบุกสหภาพโซเวียต”
ดินแดนที่กว้างใหญ่ของสหภาพโซเวียต จะทำให้เยอรมนีมีดินแดนที่เพียงพอสำหรับการขยายเผ่าพันธุ์เยอรมัน
เป้าหมายอีกอย่างของฮิตเลอร์ คือการกำจัดชาวยิวในดินแดนใต้ปกครองของเยอรมนีในยุโรป โดยแผนการนี้ได้นำออกมาใช้ในช่วงเวลาที่เยอรมนีบุกรุกสหภาพโซเวียต และภายในเวลาสามปี ชาวยิวในโปแลนด์กว่าสี่ล้านคนก็ต้องสังเวยชีวิตไปกับความบ้าคลั่งของฮิตเลอร์
4
22 มิถุนายน ค.ศ.1941 (พ.ศ.2484) ฮิตเลอร์ได้ออกคำสั่งให้บุกสหภาพโซเวียต และถึงแม้รถถังกับเครื่องบินของสหภาพโซเวียตจะมีมากกว่าฝ่ายเยอรมัน แต่ก็ล้วนแต่เป็นของที่เก่าและล้าสมัย ทำให้ภายในเดือนกรกฎาคมของปีนั้น กองทัพเยอรมันสามารถบุกเข้ามาในมอสโควได้กว่า 300 กิโลเมตร
1
แต่เนื่องด้วยฮิตเลอร์และผู้บัญชาการฝ่ายเยอรมันนั้นมีความเห็นไม่ตรงกัน เกิดการโต้เถียง ทำให้แผนการบุกของเยอรมันนั้นล่าช้า ซึ่งทางฝ่ายสหภาพโซเวียตก็ได้ทำการโต้กลับ อีกทั้งอากาศหนาวของฤดูหนาวก็กำลังมาถึง ทำให้แผนการของฝ่ายเยอรมนีล่าช้า
1
และเมื่อสหราชอาณาจักรกำลังรับมือกับเยอรมนี ก็ทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นเพียงชาติเดียวที่มีกำลังพอจะสู้รบกับญี่ปุ่น ซึ่งภายในปีค.ศ.1941 (พ.ศ.2484) ญี่ปุ่นก็ได้รุกรานจีน และยังเข้ายึดครองดินแดนใต้ปกครองของยุโรปในตะวันออกไกล
4
7 ธันวาคม ค.ศ.1941 (พ.ศ.2484) เครื่องบินรบญี่ปุ่นจำนวน 360 ลำ ได้บุกโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor) ซึ่งเป็นฐานทัพอเมริกันที่ฮาวาย ทำให้ทหารอเมริกันเสียชีวิตกว่า 2,300 นาย
1
การโจมตีฐานทัพเพิร์ล ฮาร์เบอร์ สร้างความโกรธแค้นให้ชาวอเมริกันทั้งประเทศ และแทบทุกคนก็สนับสนุนให้สหรัฐอเมริกาประกาศสงคราม และในที่สุด วันต่อมา 8 ธันวาคม ค.ศ.1941 (พ.ศ.2484) รัฐสภาอเมริกันก็ได้ประกาศสงครามต่อญี่ปุ่น โดยมีเสียงโหวตไม่เห็นด้วยเพียงหนึ่งคะแนน และฝ่ายอักษะก็ประกาศสงครามต่อสหรัฐอเมริกาเช่นกัน
1
ภายหลังจากญี่ปุ่นได้รับชัยชนะติดต่อกันมาเป็นเวลานาน กองเรืออเมริกันในแปซิฟิก ก็สามารถพิชิตญี่ปุ่นในศึกมิดเวย์ (Battle of Midway) เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ.1942 (พ.ศ.2485) ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของสงคราม นอกจากนั้น ตั้งแต่สิงหาคม ค.ศ.1942 (พ.ศ.2485) ถึงกุมภาพันธ์ ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) สหรัฐอเมริกายังเอาชนะกองเรือญี่ปุ่นในหมู่เกาะโซโลมอน ทำให้ภาคพื้นแปซิฟิก ญี่ปุ่นเริ่มจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
1
กลางปีค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) กองเรือฝ่ายสัมพันธมิตร ได้เริ่มทำการโจมตีฝ่ายญี่ปุ่น มีการโจมตีเกาะต่างๆ ในแปซิฟิกที่ญี่ปุ่นยึดครอง ซึ่งก็สำเร็จ ทำให้สัมพันธมิตรเข้าใกล้จุดหมายของตนมากขึ้น นั่นก็คือการบุกแผ่นดินใหญ่ญี่ปุ่น
5
ทางด้านแอฟริกาเหนือ กองทัพอังกฤษและอเมริกัน ได้พิชิตอิตาลีและเยอรมนีได้ในปีค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) ตามมาด้วยการบุกซิสิลีของฝ่ายสัมพันธมิตร และรัฐบาลของ “เบนิโต มุสโสลินี (Benito Mussolini)” ก็ถึงคราวล่มสลายในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) หากแต่การสู้รบระหว่างสัมพันธมิตรกับกองทัพเยอรมันในอิตาลี จะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปีค.ศ.1945 (พ.ศ.2488)
6
ทางด้านแนวรบด้านตะวันออก การตีโต้ของกองทัพสหภาพโซเวียต ทำให้การสู้รบในยุทธการที่สตาลินกราด (Battle of Stalingrad) จบลง และการมาถึงของฤดูหนาว บวกกับเสบียงที่ร่อยหรอ ก็ทำให้กองทัพเยอรมันในสหภาพโซเวียตต้องถึงจุดจบ โดยกองทัพเยอรมันในสหภาพโซเวียตได้ยอมแพ้ในเดือนมกราคม ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486)
2
6 มิถุนายน ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) หรือเป็นที่รู้จักในนามของ “วันดีเดย์ (D-Day)” สัมพันธมิตรได้บุกยุโรป โดยกองทัพอังกฤษ แคนาดา และอเมริกัน ได้บุกหาดนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส
เมื่อเป็นอย่างนี้ ฮิตเลอร์ก็ไม่อยู่เฉย และทุ่มเทกำลังที่เหลือเข้ามาในยุโรปตะวันตก
ในไม่ช้า กองทัพสหภาพโซเวียตก็ได้บุกเข้ามาในโปแลนด์ เชคโกสโลวาเกีย ฮังการี และโรมาเนีย ในขณะเดียวกัน ฮิตเลอร์ก็ได้รวบรวมทัพ เพื่อที่จะไล่กองทัพอเมริกันและอังกฤษออกจากเยอรมนี ในคราวยุทธการตอกลิ่ม (Battle of the Bulge) ซึ่งดำเนินไประหว่างเดือนธันวาคม ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) ถึงเดือนมกราคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488)
2
8 พฤษภาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) เยอรมนีก็ได้ยอมแพ้อย่างเป็นทางการ ซึ่งในเวลานั้น ฮิตเลอร์ก็ได้ยิงตัวตายไปตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) แล้ว
แต่ถึงเยอรมนีจะพ่ายแพ้ หากแต่ญี่ปุ่นยังคงไม่ยอมแพ้ ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงต้องพูดคุย หาทางที่จะจัดการญี่ปุ่น รวมทั้งการเจรจาสันติภาพกับเยอรมนี
เยอรมนีภายหลังสงครามจะถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ส่วนหนึ่งอยู่ในการควบคุมของสหภาพโซเวียต อีกส่วนอยู่กับอังกฤษ อีกส่วนอยู่กับสหรัฐอเมริกา และอีกส่วนอยู่กับฝรั่งเศส
ญี่ปุ่นในเวลานั้นยังคงไม่ยอมแพ้ และเปิดศึกในหลายสมรภูมิ ทำให้สัมพันธมิตรเกรงว่าสงครามจะไม่จบง่ายๆ และต้องเสียทั้งกำลังคนและเงินทุนมากไปกว่านี้ “แฮร์รี ทรูแมน (Harry Truman)” ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา จึงคิดที่จะใช้อาวุธใหม่ที่กำลังพัฒนา โจมตีญี่ปุ่นเพื่อจบสงครามนี้
1
อาวุธนี้จะถูกพัฒนาอย่างลับๆ ในนามของ “โครงการแมนฮัตตัน (Manhattan Project)” ซึ่งอาวุธที่ว่า ก็คือ “ระเบิดปรมาณู” และมีการนำมาใช้โจมตีเมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488)
1
วันที่ 2 กันยายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ญี่ปุ่นก็ได้ยอมแพ้อย่างเป็นทางการ และเป็นการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสงครามที่โหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ มีผู้เสียชีวิตจากสงครามนี้ระหว่าง 60-80 ล้านคน รวมทั้งชาวยิวอีกกว่าหกล้านคนที่ต้องตายด้วยน้ำมือของนาซีในช่วงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว บาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน อีกทั้งหลายคนก็ต้องสูญเสียบ้านและทรัพย์สิน
1
สิ่งที่ตกทอดตามมาภายหลังสงคราม ก็เช่น การแพร่กระจายของลัทธิคอมมิวนิสต์จากสหภาพโซเวียตไปยังยุโรปตะวันออก รวมทั้งการเปลี่ยนผ่านอำนาจจากยุโรปไปยังสองมหาอำนาจใหญ่ นั่นคือสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของ “สงครามเย็น (Cold War)
References:
https://www.history.com/topics/world-war-ii/world-war-ii-history
https://www.historynet.com/world-war-ii
https://www.75thwwiicommemoration.org/history/history-of-wwii
https://www.historic-uk.com/HistoryUK/HistoryofBritain/World-War-2-Timeline-1945/
1
96 บันทึก
63
2
65
96
63
2
65
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย