4 ก.ย. 2021 เวลา 08:30 • ประวัติศาสตร์
ว่าด้วยเรื่องการล่มสลาย ตอนที่ 2
ราชวงศ์โจวตะวันออก
เหลือแต่เพียงนาม
แผนที่ยุคราชวงศ์โจว
ราชวงศ์โจวตะวันออก เป็นครึ่งหลังของราชวงศ์โจว อยู่ในช่วง 770–256 ปีก่อนคริสตกาล
มีกษัตริย์ปกครอง 25 พระองค์ โดยปฐมกษัตริย์ คือ พระเจ้าโจวผิงหวาง ตั้งนครหลวงที่เมืองลั่วหยาง
ในช่วงต้นของการตั้งราชวงศ์ องค์กษัตริย์ยังพอมีพระราชอำนาจอยู่บ้าง แต่เนื่องจากการที่ต้องพึ่งพาขุนนางที่เป็นเจ้าผู้ครองแคว้น ทำให้ราชสำนักโจวไม่สามารถบังคับบัญชาการบริหารแผ่นดินอะไรได้ เจ้าผู้ครองแคว้นต่างมีสิทธิ์ขาดในการบริหารจัดการดินแดนที่ตนครอบครองได้อย่างตามใจ
ซ้ำร้าย มีหลายครั้งที่องค์กษัตริย์ถูกหมิ่นพระเกรียติ​ จากเจ้าผู้ครองแคว้น เช่น
774 ปีก่อนคริสตกาล เจิ้งอู่กง มหาอำมาตย์ผู้ช่วยกู้เมืองคืนจากโจมตีของเผ่าเฉวี่ยนหยง ได้รับบำเน็ดเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นเจิ้ง ถึงแก่ทิวงคต ผู้สืบทอดตำแหน่งเป็นบุตรนาม เจิ้งจวงกง
เจิ้งจวงกง ผู้นี้วางอำนาจ กระทำการหมิ่นพระเกรียติหลายครั้ง จนพระเจ้าโจวผิงหวางไม่พอพระทัย วางแผนที่จะกำจัด เจิ้งจวงกง แต่ความนี้รู้ไปถึง เจิ้งจวงกง เสียก่อน จึงยกกองทัพเข้าประชิดลั่วหยาง แสร้งมาทำทีเข้าเฝ้าสอบถามถึงข่าวที่จะปลด
3
พระเจ้าโจวผิงหวาง รีบปฎิเสธ ทั้งยังต้องส่งตัวรัชทายาทไปเป็นองค์ประกันที่แคว้นเจิ้ง เป็นเรื่องเลวร้ายตั้งแต่ตั้งราชวงศ์
แต่เรื่องที่ทำให้เจ้าผู้ครองแค้วนต่าง รู้แน่ว่า ราชสำนักโจวไม่มีอำนาจใดๆแล้ว คือ
1
720 ปีก่อนคริสตกาล พระเจ้าโจวผิงหวาง ปฐมกษัตริย์เสด็จสวรรคต เจิ้งจวงกง เจ้าผู้ครองแคว้นเจิ้ง นำตัวองค์รัชทายาทไท่จื่อหู เสด็จกลับนครหลวงเพื่อรับบังลังค์ แต่ยังไม่ได้นั่งบังลังค์ ก็เสด็จสวรรคต
โอรสของไท่จื้อหู จึงได้นั่งบังลังค์แทนเป็น พระเจ้าโจวหวนหวาง โดยมีเจิ้งจวงกง เป็นผู้ค้ำบังลังค์
พระเจ้าโจวหวนหวาง ทรงรู้ดีว่าการตายของพระบิดา มีเงื่อนงำจึงคิดเหมือนพระอัยกา ที่จะปลดเจิ้งจวงกง
แต่ข่าวรั่วไปถึงเจิ้งจวงกง (อีกแล้ว) จึงเร่งสะสมกองทัพ เตรียมรับมือ
เจิ้งจวงกง น่าจะมั่นใจในกองทัพของตนมาก แทนที่จะนั่งรอเฉยๆ จึงเลือกยั่วยุกษัตริย์หนุ่ม โดยสั่งให้คนเข้าไปเกี่ยวข้าวในที่นาหลวง มาเก็บเป็นของตน
พระเจ้าโจวหวนหวาง โกรธมากที่โดนหมิ่นพระเกรียติ จะยกทัพหลวงหมายไปตีแคว้นเจิ้ง แต่พระองค์กลับถูกธนูจากทหารแคว้นเจิ้ง บาดเจ็บต้องถอยทัพกลับ
เจิ้งจวงกง เห็นเช่นนั้น จะด้วยความรู้สึกว่าทำรุนแรงไปหรือต้องการดูปฎิกริยาของราชสำนัก จึงส่งคนไปเข้าเฝ้าขอพระราชทานอภัยโทษ
พระเจ้าโจวหวนหวาง ได้แต่อภัยโทษแบบเสียไม่ได้
1
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เหล่าเจ้าผู้ครองแคว้นต่างรู้แล้วว่า ราชสำนักโจวไม่เหลืออำนาจใดแล้ว จึงเร่งสะสมกองทัพ หมายจะเป็นใหญ่กัน
1
ยังไม่จบแค่นี้
707 ปีก่อนคริสตกาล เจิ้งจวงกง กระทำการหมิ่นพระเกรียติ พระเจ้าแผ่นดินอีก โดยการไม่ไปเข้าเฝ้าพระเจ้าโจวหวนหวาง
พระเจ้าโจวหวนหวาง ทรงกริ้วมาก จึงแต่งทัพไปตีแคว้นเจิ้งด้วยพระองค์เอง แต่ต้องพ่ายศึกกลับมา ซ้ำยังได้รับบาดเจ็บ
และหลังจากนั้น ก็ไม่มีกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว นำทัพออกรบอีกเลย
น่าคิดเหมือนกันว่า ถ้าราชสำนักโจว สามารถชนะศึกได้ ประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนไปขนาดไหน
ราชวงศ์โจวตะวันออก แม้จะยืนอย่างง่อนแง่นแต่ก็ยังสามารถอยู่ได้นานนับร้อยปี จนถึง
256 ปีก่อนคริสตกาล แคว้นฉินกำลังเรื่องอำนาจ เป็นแคว้นใหญ่ โดยก่อนนี้แคว้นฉินก็ได้รับการอวยต่างๆจากราชสำนักโจว โดยแลกกับการคุ้มครองจากแคว้นฉิน แต่พอแคว้นฉิดพ่ายศึกแคว้นจ้าว (ซึ่งไม่ค่อยเกิด) จากการที่อัครมหาเสนาบดีฟ่านซุย อยากทดแทนบุญคุณ จึงเลือกเจิ้งอานผิง คนที่เคยช่วยตน เป็นผู้คุมทัพ ผลคือพ่ายศึก
1
ราชสำนักโจว หันไปสนับสนุนแคว้นฉี แทน
สร้างความไม่พอใจแก่แคว้นฉินอย่างยิ่ง จึงพักศึกทางด้านแคว้นเจ้า แล้วหันไปบุกเมืองหลวงของราชสำนักโจว
และสามารถยึดได้อย่างง่ายดาย
พระเจ้าโจวหน่านหวาง คุกเข่ายอมจำนน เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์โจวตะวันออก
มีบันทึกว่า วันที่ยอมจำนนต่อแคว้นฉินนั้น ราชสำนักโจว มีพื้นที่ปกครองอยู่เพียง 36 ตำบล พลเมืองสามหมื่นคน
เป็นอันปิดฉาก ราชวงศ์โจวที่ปกครองนาน แปดร้อยกว่าปี
และในปีนี้ก็เป็นปีที่ หลิวปัง ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ฮั่น ถือกำเนิด
1
เพิ่มเติมเล็กน้อย
249 ปีก่อนคริสตกาล มีความพยายามที่จะฟื้นฟูอำนาจของราชสำนักโจว จากเชื้อพระวงศ์เดิม แต่ก็ถูกแคว้นฉินปราบปรามจนหมดสิ้นในปีนี้
ขอ​ขอบคุณ​ที่​ติดตา​มอ่าน​มาถึง​ตรงนี้​กัน
กดไลค์​กด​แชร์​กด​ติดตาม​กัน​เพื่อ​ไม่​พลาด​ตอน​ต่อไป​กัน​นะ​ครับ​

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา