4 กันยายน 2564 คือวันเกิดของครบรอบปีที่ 36 ของ 1 ในนักร้องที่เราชอบมากที่สุด และเป็นผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า ‘ซุปเปอร์สตาร์ขวัญใจมหาชน’ บี้ สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว
ก่อนจะอธิบายว่า ‘ดาว’ ดวงนี้จรัสแสงขนาดไหน เราขอชวนทุกท่านนั่งรถไฟย้อนกลับไปยังปีพ.ศ. 2549 ปีที่ใครหลายคนเริ่มรู้จัก ‘หนุ่มเชียงใหม่’ เป็นครั้งแรก ในฐานะผู้เข้าประกวดหมายเลข 8 จากรายการเดอะสตาร์ค้นฟ้าคว้าดาวปีที่ 3
🚂
หนังสือ ‘Boy Story 20 ปีแรกในชีวิตการทำงานของบอย ถกลเกียรติ’ ระบุว่า การประกวดเดอะสตาร์ในปีนั้นเป็นปีเดียวที่ Commentator ทั้งสามท่านไม่ได้ไปคัดเลือกผู้เข้าประกวดที่ต่างจังหวัดด้วยตนเอง จึงเป็นหน้าที่ของกรรมการชุดเล็กนำโดยครูจิ๊บ ชยากร สุทินศักดิ์ ในการสกรีนดาวดวงใหม่จากภูมิภาคต่าง ๆ
ในวันคัดตัว เดิมทีคณะกรรมการมีมติให้นำชื่อของหนุ่มบี้ไปใส่ไว้ในกล่องของผู้ที่ตกรอบ แต่ลิขิตคนหรือจะสู้ลิขิตฟ้า เมื่อจู่ ๆ 1 ในทีมงานที่เป็นมือขวาของคุณบอย ถกลเกียรติ นายใหญ่แห่งค่าย Exact อย่างคุณหนุย สุธาสินี บุศราพันธ์ ได้นำเอกสารในกล่องดังกล่าวมาพลิกดูเล่น ๆ และ ‘สะดุดตา’ เข้ากับเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารัก เธอจึงหยิบชะตาชีวิตของละอ่อนน้อยคนนี้ขึ้นมาพิจารณา ก่อนตัดสินใจสลับให้ชื่อของ ‘กัมบี้’ เข้าไปอยู่ในกล่องของสตาร์ที่ผ่านเข้ารอบ ซึ่งจะต้องเดินทางเข้ากรุงเทพ เพื่อคัดตัวครั้งสุดท้ายกับ 3 อรหันต์ทองคำประจำรายการอย่างพี่โจ้ พี่ม้า และพี่เพชร
จากผู้เข้าประกวดกว่า 12,453 คน ในที่สุดหนุ่มบี้ก็อาศัยเสน่ห์ที่เหลือล้น ก้าวเข้ามาเป็น 1 ในผู้เข้าแข่งขัน 8 คนสุดท้าย แต่ด้วยประสบการณ์ด้านการร้องที่ยังไม่แข็งแกร่งทำให้ถูกคณะกรรมตำหนิอย่างหนักชนิดเกือบกลั้นน้ำตาไม่ไหวตั้งแต่รอบคัดเลือกไปจนถึงการแข่งขันช่วงสัปดาห์แรก ๆ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ นำความหวังดีเหล่านั้นมาพัฒนาตัวเองอย่างหนัก จนสามารถชนะใจคณะกรรมการและประชาชนทั้งประเทศ กระทั่งคว้าตำแหน่ง ‘รองแชมป์’ มาไว้ในครอบครอง
“คือเราโดนไปอ่วมเลย มือไม้สั่น เรื่องใจเสียไม่มีครับ ไม่ถอดใจครับ รู้สึกว่าต้องกลับไปปรับปรุงตัวอย่างใหญ่หลวง ต้องฮึดสู้ เพราะยังไม่ได้แข่งเลยจะยอมแพ้ได้ยังไง” บี้ให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งในรายการเดอะสตาร์
🚂🚂
หลังจากวันนั้น รองแชมป์เดอะสตาร์ก็ผ่านงานแสดงละคร ซึ่งผลตอบรับก็ถือว่าน่าพอใจ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะขึ้นชั้นซุปเปอร์สตาร์ เจ้าพ่อ Exact จึงผลักดันให้หนุ่มบี้ออกอัลบั้มเพลง โดยคุณบอย ถกลเกียรติ ยอมรับว่าไม่มีอะไรรับประกันว่าอัลบั้มนี้จะประสบความสำเร็จ เพราะว่าหลายเพลงในอัลบั้มนักร้องดังเช่น เป๊ก ผลิตโชค และ กอล์ฟ ไมค์ ฯลฯ ไม่เอาแล้ว โดยเฉพาะเพลงที่มีชื่อว่า ‘I need somebody’
แต่ใครจะรู้ว่าเพลงที่ไม่มีใครเอาแล้ว เมื่อนำมาปัดฝุ่นและยกเครื่องใหม่อีกครั้ง จะดังและปังยิ่งกว่าเพลงไหน ๆ ในยุคนั้น โดยเฉพาะทำนองที่ร้องว่า “คนที่ยิ้มให้กันตรงหน้าปากซอย...ใช่รึเปล่า” หรือท่าเต้นรูปหัวใจดวงโตสุดคลาสสิกที่ฮิตระเบิดระเบ้อราวกับเป็นเพลงชาติของหนุ่มโสดและสาวไร้คู่
ด้วยความมุ่งมั่นและผลงานที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ในที่สุดนักร้องหน้ามน ก็ก้าวสู่การเป็น ‘ซุปเปอร์สตาร์ขวัญใจมหาชน’ ภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี และเป็นที่รักของแฟน ๆ ทั่วประเทศตราบจนปัจจุบัน ผมในฐานะอดีตผู้สื่อข่าวบันเทิง จึงขออนุญาตถ่ายทอดคำพูดบางส่วนที่เคยได้ยินเกี่ยวกับสุภาพบุรุษท่านนี้
“บี้มีพัฒนาการ เก่งขึ้นเยอะมาก แต่มากกว่าความเก่งและความพยายามคือความที่บี้เป็นไฟท์เตอร์ครับ” คุณอ๊อฟ ปองศักดิ์กล่าวในรายการเดอะสตาร์12
ขณะที่ในแวดวงสื่อมวลชน พี่นักข่าวท่านหนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่าสมัยเข้าวงการสื่อครั้งแรก เธอเคยไปขอสัมภาษณ์เดี่ยวพี่บี้หลังงาน Event เป็นเวลากว่า 15 นาที ซึ่งพี่บี้ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ปรากฏว่ารอบแรกลืมอัดเสียง พี่บี้บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยตอบคำถามใหม่อีกครั้ง
ตลกร้ายก็คือรอบที่สองอัดเสียงแล้วแต่เครื่องอัดเสียงดันมีปัญหา เธอจึงรีบยกมือไหว้ขอโทษพี่บี้ด้วยสีหน้าที่เศร้าสลด เธอบอกผมว่า “ตอนนั้นในใจพี่คิดว่าคงโดนเหวี่ยงหรือไม่ก็คงพลาดข่าวนี้ไปแล้ว” แต่ปรากฏว่าซุป’ตาร์ชื่อดังกลับหัวเราะและพยายามปล่อยมุกจนพี่นักข่าวท่านนี้ 'ยิ้ม' ได้อีกครั้ง
จากนั้นการสัมภาษณ์รอบสุดท้ายก็เริ่มขึ้น และกลายเป็นความประทับใจที่เธอจะไม่มีวันลืม
ด้านการทำงานกับทีมงานนั้น ชายที่เอฟซีแดนมังกรเรียกว่า ‘เจ้าชายแห่งพระอาทิตย์’ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ PERSPECTIVE ว่าเขาให้ความสำคัญกับเรื่องระเบียบวินัยและความซื่อสัตย์สุจริตกับทุกงานที่ได้รับมอบหมาย
“ผมจะเน้นเรื่องความมีวินัย ทำทุกอย่างที่ทุกคนสั่งเพราะผมใฝ่รู้ ไม่เรื่องมาก ทำหมดทุกอย่างจริง ๆ จนมีวันหนึ่งผมเชื่อใจเขา(ทีมงาน)มากถึงขั้นที่ว่า ถ้าคุณบอกให้ผมแก้ผ้าผมก็จะแก้ผ้า ถ้าคุณบอกให้ผมเดินลงหน้าผา ผมก็จะลง เพราะผมเชื่อว่าพวกคุณไม่มีวันฆ่าผม คุณอาจต้องมีตาข่ายรองรับอะไรสักอย่าง คือเชื่อใจกันขนาดนั้น ให้ความจริงใจ ความใสซื่อ ไม่ต้องมีเทคนิคแพรวพราวอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น เอาหัวใจวัดกันล้วน ๆ เท่านั้นเอง”
เช่นเดียวกับเหล่าบรรดาแฟนคลับและประชาชน ซุป’ตาร์เมืองเหนือจะมีข่าวคราวความน่ารักเสมอต้นเสมอปลายกับชาวเอฟซีเสมอ โดยหนุ่มบี้กล่าวด้วยรอยยิ้มว่าไม่เคยอึดอัดกับแฟน ๆ กลับกันเขารู้สึกดีใจที่มีคนเดินเข้ามาหาด้วยความรัก ดังนั้นการเจอแฟน ๆ มารุมห้อมล้อมหรือขอถ่ายรูปแต่ละครั้งก็จะถือเอาจิตใจของแฟน ๆ เป็นสำคัญ
“เวลาเห็นเขามีความสุข เรามีความสุข เราเสียสละเวลาให้เขา สมมติ 20 วิ กับการที่เขาได้ถ่ายภาพเราแค่ภาพเดียว มันอาจเป็นครั้งเดียวที่เขาได้เจอเราแล้วไม่ได้เจออีกเลย มันอาจเป็น 1 ในความทรงจำที่ดีสำหรับเขาก็ได้”
ปีนี้ซุปเปอร์สตาร์ขวัญใจมหาชนจะมีอายุครบ 36 ปี และอายุในวงการบันเทิงครบรอบ 15 ปี ซึ่งจากวันแรกที่เขาปรากฏตัวในรายการ ‘เดอะสตาร์3’ จะมีใครรู้ว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็น 1 ในดาวค้างฟ้าที่เจิดจรัสมากที่สุดในประเทศไทย ทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดังในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ ‘จีน’ ซึ่งตอนพี่ชายของผมเป็นนักศึกษาที่นั่นบอกว่ากระแสละครเรื่อง ‘ดอกรักริมทาง’ ดีมาก ๆ (ได้เรทติ้งจากทั่วประเทศจีนเป็นอันดับ 2 หลังจากออกอากาศทางช่อง Anhui TV) ส่วนเพลง ‘เผลอรักหมดใจ’ ก็ฮิตสุด ๆ แถม ‘ฮั่งตู๋’ เองก็เกาะกระแสโด่งดังตีคู่มากับพี่บี้เลยทีเดียว
The Last Bogie ขอให้พี่บี้สุขภาพแข็งแรงและสร้างผลงานชั้นยอดออกมาให้แฟน ๆ ได้เสพด้วยความสุขไปอีกนานแสนนานนะครับ
🎂Happy 36th Birthday🎂
#thelastbogie #Happy36thBieDay #biesukrit_w #biefanclub #แฟนคลับยอดนิยม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
