5 ก.ย. 2021 เวลา 01:58 • การศึกษา
วันนี้มีบทความข้อคิดดีๆ มาฝากทุกท่านครับ
#ความอดทนรสมันขมแต่ผลมันหวาน
#ถ้าเราหยิบแบงก์พันเยนขึ้นมาดู จะพบว่าบนแบงก์มีหน้าตาของชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งอยู่บนนั้น เขาชื่อ "โนงูจิ ฮิเดโยะ"
"#โนงูจิ"เป็นลูกชาวนาบ้านยากจน ตอนเป็นเด็กทารกแม่ต้องออกไปทำนา ทำให้เกิดอุบัติเหตุ มือเขาหล่นไปในเตาหลุมไฟ จนมือซ้ายโดนไหม้ขาดด้วน ใช้การไม่ได้ พอเข้าโรงเรียนก็โดนเพื่อนแกล้งและล้อเรื่องมือเป็นปมด้อย ไม่มีเงินกินข้าวกลางวัน ต้องแอบไปกินน้ำในบ่อข้างทาง แต่เขาตั้งใจเรียนจนสอบได้ที่หนึ่งของชั้น เพื่อนๆ เห็นเขาเรียนเก่ง เลยเกรงใจไม่กล้าแกล้งเขาอีก ทำให้เขาคิดว่า "เออ ถ้าเราเรียนเก่งจะได้ไม่มีใครแกล้งเรา"
#จนพอเขาเรียนจบ จึงคิดอยากจะสอบครู เพราะสมัยนั้นอาชีพครูคือดีมีอนาคต แต่ความตั้งใจของเขากลายเป็นหมัน เขาสอบไม่ผ่าน เพราะมือที่ด้วนกุด เขาเสียใจ ผิดหวัง ร้องไห้ กินเหล้า จนกระทั่งคิดได้
#ตั้งต้นใหม่ ในเมื่อตัวเองมือด้วน งั้นจะไปเป็นหมอแทน จะได้รักษาตัวเองด้วย แต่เนื่องจากจนมาก จึงต้องไปทำงานแลกเงินจนสอบได้และเรียนหมอ แต่สุดท้ายการเป็นหมอไม่ได้ราบรื่น ความฝันพังอีกรอบ เพราะสมัยนั้นหมอต้องใช้มือคลำตรวจอาการคนไข้
#โนงูจิยังอดทนสู้ต่อและผันตัวเองไปเป็นแพทย์นักวิจัย ที่ทำงานในห้องแล็บจนได้ทุนไปทำงานวิจัยต่อที่อเมริกา แต่เขาเป็นคนญี่ปุ่นจากครอบครัวยากจนในชนบทที่มาอยู่ต่างแดน ซึ่งอเมริกาสมัยนั้นยังไม่ค่อยยอมรับคนเอเชียสักเท่าไหร่ เขาจึงต้องอดทนต่อการดูถูกดูหมิ่น และพยายามไขว่คว้าโอกาสที่มีน้อยนิดไว้ให้ได้ ซึ่งโนงูจิก็อดทนจนพิสูจน์ตัวเอง แล้วได้รับโอกาสที่นั่น
#จนเขากลายเป็นนายแพทย์ที่มีผลงานวิจัยและมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก และได้ทำอะไรเพื่อวงการแพทย์ไว้หลายอย่าง เขาเป็นผู้ทำงานค้นคว้าวิจัยสาเหตุของโรคซิฟิลิสและไข้เหลือง ซึ่งตอนนั้นเป็นโรคระบาดหนักในทวีปแอฟริกา จนกระทั่งนำมาสู่วัคซีนการรักษาโรค
#สุดท้ายเขาเสียชีวิตที่ประเทศกานาในระหว่างทำงานวิจัยที่นั่น รูปปั้นของเขาถูกสร้างขึ้นที่กานา เพื่อเป็น
การขอบคุณความอุทิศตัวของเขา
ดร.โนงูจิได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบล
และได้รับรางวัลจากพระมหาจักรพรรดิและประเทศญี่ปุ่นเชิดชูเกียรติเขา โดยพิมพ์รูปของเขาไว้บนธนบัตรพันเยน
#ครั้งหนึ่งช่วงที่เขาเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด
ดร.โนงูจิได้สลักข้อความหนึ่งไว้บนแผ่นศิลาจารึก
เป็นข้อความว่า "ความอดทนมีรสขม แต่ผลของมันมีรสหวาน" ตอนสมัยเด็กๆ ทุกวันที่โนงูจิไปโรงเรียน แล้วโดนเพื่อนล้อว่าไอ้มือด้วน เขาจะกลับมาร้องไห้กับแม่เขาเสมอ และแม่ก็จะปลอบเขาว่า
"ให้มองไปข้างหน้านะ อดทนและพยายาม"
#เรื่องนี้เตือนใจข้าพเจ้า ให้ใช้ความอดทนเป็นอาวุธสำหรับต่อสู้กับปัญหาต่างๆ และเรื่องนี้คงเตือนใจใครบางคนที่ชอบใช้อารมณ์เป็นอาวุธในการแก้ปัญหา
#ความอดทนมันรสขม ออกผลเมื่อไหร่จะรู้ว่ารสหวาน
#ขอให้ทุกท่านจงอดทนกันนะ
#จากหนังสือ ไม่เป็นไรนะ แม้มันจะเป็นไร โดย บอร์นเก้าสาม 08-08-63 Servant Leadership
#Credit:Siwatt Pongpiachan
โฆษณา