พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังสุดท้ายของอาณาจักรพม่า
ประวัติศาสตร์เป็นเสมือนสิ่งที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองหรือมีการเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตที่ผ่านมาแล้ว ที่ทำให้คนหลายยุคหลายสมัยได้สัมผัสถึงกลิ่นอายของวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่คงความเป็นเอกลักษณ์ และคงอยู่ให้ได้ในปัจจุบัน
ควมสวยงานภายในพระราชวังมัณฑะเลย์
พระราชวังมัณฑะเลย์นั้นเป็นสถานที่ในประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของพม่าที่ยังคงงดงามตระการตาและสร้างความตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เห็น
ถึงแม้พระราชวังมัณฑะเลย์ในปัจจุบันจะเป็นเพียงการจำลองขึ้นให้เหมือนพระวังหลังเก่าในสมัยก่อน ที่ถูกไฟไหม้เป็นจุลเผาราบเป็นหน้ากองทั้งหมดจากเหตุการณ์สมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา(หรือสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2) โดยฝ่ายสัมพันธ์มิตรกองทัพอังกฤษที่ได้ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดจำนวนมากในพระราชวัง เพราะคิดว่าเป็นแหล่งซ่องสุมกำลังของกองทัพญี่ปุ่น
พระราชวังมัณฑะเลย์ ในสมัยก่อน
พระราชวังมัณฑะเลย์นั้นได้เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1857 ในสมัยพระเจ้ามินดง โดยมีการย้ายเมืองหลวงจากเมืองอมรปุระหรือนครย่างกุ้งในปัจจุบัน ไปยังที่ตั้งแห่งใหม่คือเมืองมัณฑะเลย์
ซึ่งเมืองมัณฑะเลย์นั้นเป็นเมืองที่สวยงาม เหมาะกับที่จะเป็นศูนย์กลางอำนาจแห่งใหม่ บริเวณรอบพระราชวังมีการขุดเอาหน้าดินมาถมเป็นเนินเมืองสร้างคูน้ำกว้างล้อมรอบ ปลูกดอกบัวไว้เป็นช่วงๆ ริมขอบกำแพงมีต้นไม้ขึ้นเรียงรายดูน่าร่มรื่น ระหว่างสองฝากฝั่งคูคลองงมีสะพานยาวทอดข้าม
ประตูทางเข้าไปยังภายในพระราชวัง
ซึ่งการสร้างพระวังของพระเจ้ามินดงนั้นได้มีการสร้างขึ้นตามผังภูมิจักรวาลแบบพราหมณ์ปนพุทธ โดยสมมติให้มีเขาพระสุเมธเป็นศูนย์กลางของโลกกโดยมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีกำแพงล้อมรอบสี่ทิศแต่ละทิศมีประตูทางเข้า 3 ทาง รวมทั้งสิน 12 ประตู
ทางเจ้าพระราชวังมัณฑะเลย์
ที่ประตูมีการทำสัญลักษณ์จักรราศีประดับเอาไว้ ใจกลางพระราชวังเป็นห้องพระมหาปราสาท(ห้องสีหาสห์บัลลังก์) กำแพงวังยาวเกือบ 2 กิโลเมตร มีคูน้ำล้อมรอบกำแพงพระราชวังทั้งสี่ทิศ ในแต่ละกำแพงมีประตูจะมีสามประตูที่เปิดให้คนเข้าออกเพียงประตูกลาง แต่ยกเว้นเพียงประตูทิศตะวันตกมีประตูใช้ขนคนตายออกจากพระราชวัง เรียกว่า "ประตูผี" อีกหนึ่งประตูและอีกหนึ่งสะพาน
ต่อมาในปี ค.ศ. 1885 อังกฤษได้ผนวกพม่าเข้ามาเป็นอาณานิคมที่อยู่ในความปกครองของอังกฤษ และได้ทูลเชิญพระเจ้าสีป่อและพระนางศุภยาลัตออกนอกประเทศไปประทับที่ประเทศอินเดียจนสิ้นพระชนม์ที่นั้น จึงทำให้เมืองมัณฑะเลย์ที่เคยรุ่งเรืองถูกลดฐานะเป็นเพียงเมืองอาณานิคมของอังกฤษเท่านั้น
และมีการเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "ฟอร์ตดัฟเฟอริน"(แต่ไม่มีใครเรียก จึงทำให้ชื่อนี้ไม่เป็นที่รู้จักกัน) และนั้นก็เป็นการสิ้นสุดการปกครองของราชวงศ์อลองพญาและการปกครองในระบอบกษัตริย์ในพม่านั้นเอง
อ้างอิง :
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
