5 ก.ย. 2021 เวลา 10:40 • ความคิดเห็น
ไม่รู้คำตอบจะตรงกับที่ต้องการไหมนะครับ
option A: ดูว่าเราชำนาญอะไร มีความรู้อะไรที่พอจะช่วยคนอื่นได้บ้าง เช่นความรู้เรื่องการวาด ภาษา การเลี้ยงเด็ก หรืองานฝีมือ อะไรก็ได้ที่ช่วยแก้ปัญหา หรือช่วยมำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ง่ายขึ้นเพียง 1%
แล้วลองหาช่องทางดูว่าจะช่วยเหลือคนที่ต้องการแก้ปัญหาได้ยังไงบ้าง เช่นการถ่ายทอดทักษะสู่คนที่ต้องการ
โดยมีสมการความมั่งคั่งคือ
คุณค่า x จำนวนผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ = ความมั่งคั่ง
หากโจทย์คือ 1 ล้านบาท
สินค้ากำไรชิ้นละ 1,000 × ผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ 1,000 คน = 1,000,000 บาท
ในระยะเวลา x เดือน
Option B: หากไร้ความรู้ความชำนาญใดๆ ให้ดูว่าผู้คนต้องการความช่วยเหลือด้านไหน เราจะรอบโจทย์คนเหล่านั้นอย่างไร จึงออกมาเป็นรูปแบบของสินค้าและบริการครับ
เช่นปัญหาเล็กๆ อย่างการจองคิวร้านอาหาร กทม. จะมีการจองคิว ต่อคิว ในร้านยอดฮิตต่างๆ เราเล็งเห็นความน่าหงุดหงิดตรงนี้ จึงเกิดมาเป็นบริการรับจองคิว โดยผู้รับจองคือคนว่างงานที่ว่างพอจะไปนั่งจองให้เราได้ 2-3 ชม. บางเจ้าใช้คนป้าๆ อายุ 60+ แล้วก็แบ่งสัดส่วนอย่างเหมาะสม เผื่อภาษีด้วย (ธุรกิจนี้เกิดขึ้นจริงใน กทม. แต่ผมจำชื่อเพจไม่ได้ 555)
Option C: ทำที่ทำอยู่นั่นแหละครับ ค่อยๆทำ ค่อยๆแก้ทีละเปราะ เดียวก็ได้ครับ
ประมาณนี้ครับ
โฆษณา