6 ก.ย. 2021 เวลา 03:32 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 6 ก.ย. 2021
"ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดพุ่งขึ้นจากการคาดการณ์
รัฐบาลญี่ปุ่นจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบจากนักลงทุนผิดหวัง
กับตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด"
3
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com
📌 ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 +1.29% ​(ที่ 4905 จุด), ดัชนี HSTECH -0.06% (ที่ 6725 จุด)
📌 ส่วนทองคำราคาอยู่ที่ 1827 ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 24.7 USD/Oz.
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 54(Greed > Fear) (ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
📌 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์เดลตา
📌 ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลงในสหรัฐ และส่งผลให้หุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มเดินทางซึ่งมีรายได้ส่วนใหญ่จากตลาดสหรัฐนั้นถูกกดดันมากที่สุด
📌 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาด
📌 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (3 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้บรรดานักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่มีแนวโน้มที่จะประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนนี้
📌 กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 1,053,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.2% ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากแตะระดับ 5.4% ในเดือนก.ค.
📌 ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้หรือไม่
📌 ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้านี้ เนื่องจากมุมมองที่แตกต่างกันของนักลงทุนหลังจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐ โดยนักลงทุนบางส่วนผิดหวังกับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ขยายตัวน้อยกว่าคาด เนื่องจากมองว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวขึ้นหลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
📌 ขณะที่นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งมองมุมบวกว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดจะทำให้เฟดยังไม่เร่งประกาศปรับลดวงเงิน QE โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวย้ำก่อนหน้านี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐจะต้องแข็งแกร่งขึ้นก่อนที่เฟดจะพิจารณาปรับลดวงเงิน QE
📌 นายแอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ (NIAID) และหัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์แห่งทำเนียบขาว คาดการณ์ว่า สหรัฐจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 หรือวัคซีนบูสเตอร์ ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคในวันที่ 20 ก.ย.นี้ แต่คาดว่าการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ของบริษัทโมเดอร์นาอาจต้องถูกเลื่อนออกไป
📌 ก่อนหน้านี้คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ประกาศแผนการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์มาแล้ว 2 โดสเป็นเวลา 8 เดือน โดยวัคซีนบูสเตอร์ของทั้งสองบริษัทกำลังรอการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของสหรัฐ
📌 อย่างไรก็ดี นายแพทย์เฟาชีได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Face the Nation" ทางสถานีโทรทัศน์ CBS เมื่อวานนี้ว่า วัคซีนบูสเตอร์ของบริษัทไฟเซอร์อาจจะเป็นวัคซีนตัวเดียวที่คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) อนุมัติให้ฉีดให้กับประชาชนในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนของโมเดอร์นาอาจจะต้องรอการฉีดวัคซีนบูสเตอร์นานขึ้น ในขณะที่ทางโมเดอร์นากำลังรอการอนุมัติการใช้วัคซีนดังกล่าว
📌 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.62 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเช้านี้แข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ หลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐโดนเทขาย เนื่องจากยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาต่ำ กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก ด้านปัจจัยในประเทศวันนี้มีการรายงานอัตราเงินเฟ้อ เดือนส.ค. อาจไม่ได้มีผลมากนักต่อการเคลื่อน ไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คืนนี้ตลาดทางฝั่งสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน อย่างไรก็ดี ตลาดติดตามการประชุมธนาคาร กลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสนี้ ว่าจะมีการส่งสัญญาณเรื่องการลด QE หรือไม่ หลังจากเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้ นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.45 - 32.60 บาท/ดอลลาร์
1
📌 นายมาริโอ มอนตี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีคาดการณ์ว่า ภาวะ Stagflation หรือภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวแต่มีเงินเฟ้อสูงขึ้นนั้น จะเป็นภัยคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป โดยนายมอนตีระบุว่าภาวะ Stagflation มีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นายมอนตีซึ่งปัจจุบันดำรงแหน่งประธานมหาวิทยาลัย Bocconi University ของอิตาลีนั้น กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางทั่วโลกใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินและรัฐบาลทั่วโลกออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลังขนานใหญ่ในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นด้วย
📌 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนซึ่งรายงานโดยไอเอชเอส มาร์กิต ปรับตัวลงสู่ระดับ 61.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 62.8 ในเดือนก.ค.
📌 ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนพุ่งขึ้น 3% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนก.ค. และอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระดับ 2% ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่หลายรายของ ECB สนับสนุนให้ ECB คุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
📌 นอกจากนี้ นายมอนตีกล่าวว่า ไม่เพียงแต่ยุโรปเท่านั้นที่อาจเผชิญภาวะ Stagflation แต่ยังมีอีกหลายประเทศที่คาดว่าจะเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยนายมอนตีแนะนำว่า รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกควรใช้มาตรการที่เหมาะสมในช่วงการเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
📌 ทั้งนี้ ECB มีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินครั้งถัดไปในวันที่ 9 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ECB จะยังไม่ประกาศการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันดังกล่าว แต่มีแนวโน้มที่จะประกาศการลดวงเงิน QE ในการประชุมเดือนธ.ค.
📌 ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเตรียมจัดการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) คนใหม่
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1. KT-PRECIOUS
2. SCBGOLD (แบบไม่ Hedge)
3. SCBGOLDH (แบบ Hedge)
4. ASP-DISRUPT
5. ASP-EUG
6. ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
7. ASP-JHC
8. ASP-ROBOT
9. B-GTO
10.K-CHANGE-A
11.K-HIT
12.K-USA-A
13.K-USXNDQ-A
14.KF-EUROPE
15.KF-GTECH
16.KF-ORTFLEX
17.KF-US
18.KFHTECH-A
19.KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
20.KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
21.KT-EURO/K-EUSMALL
22.KT-WTAI-A
23.LHESPORT-A / WE-PLAY
24.LHINNO-A
25.BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
26.MATECH-A 💵💵💵
27.M-EM 💵💵💵
28.MFTECH
29.ONE-DISC-RA
30.ONE-UGG-RA
31.ONE-GECOM 💵💵💵
32.PRINCIPAL GCLOUD-A
33.PRINCIPAL GHEALTH-A
34.PWIN
2
35.SCBKEQTG
36.SCBUSSM
37.TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
38.T-ES-GGREEN
39.T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO
40.T-GLOBALENERGY / MRENEW
41.TBIOTECH
42.TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
43.TCLOUD
44.TGENOME
45.TGHDIGI
46.TNEXTGEN / WE-CYBER
47.TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
48.TMBAGLF 💵💵💵
49.TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
50.TMBGQG
51.UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
52.UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
53.UEDTECH 💵💵💵
54.UEV
55.WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
56.WE-GOLD 💵💵💵
57.KFINFRA-A
58.B-INNOTECH
59.KFGBRAND-A
60.SCBS&P500
61.SCBDJI(A)
62.SCBNK225
63.WE-TENERGY / SCBCLEANA
64.K-WORLDX
65.T-Premium Brand
67. P-CGREEN
68. K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
69. KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70. WE-CANB, MCANN 💵💵💵
71. LHMOBILITY
72. TNEWENGY
73. PRINCIPAL GCLEAN-A
74. BCAP-CLEAN
2
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021 ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ที่เข้ามาช่วยลดความกังวลจากรัฐบาลจีนที่อาจกระจายการควบคุมไปยังอุตสาหกรรมอื่น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1700, หรือ 1730, 1775 , 1800 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1840, 1890, 1900, หรือ 1920 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5 ก.ย. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/6134e0b53389680c58982468
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
1. กองทุนอินเดีย
2. กองทุนดัชนี Nasdaq เช่น K-USXNDQ-A
3. กองทุนดัชนี S&P 500 เช่น SCBS&P500
4. กองทุนทั่วโลก : TMBGQG/K-WORLDX, B-GTO หรือ กองทุนที่เน้นหุ้นใหญ่อย่าง Microsft, Facebook
5. UEV
6. ONE-UGG-RA, K-CHANGE-A, K-HIT (คนที่ซื้อกลางพ.ค.)
7. KFGBRAND-A
8. กองทุนหุ้นสหรัฐ Mid-small caps : SCBUSSM, ABAGS
9. กองทุน Tech เช่น B-INNOTECH, KF-GTECH, KFHTECH-A
10. กองทุนหุ้นสหรัฐ เช่น K-USA-A, KF-US, SCBUSAA
11. กองทุนยุโรป เช่น ASP-EUG, KF-EUROPE, KT-EURO/K-EUSMALL
12. Cloud computing เช่น Tcloud, Principal Gcloud-A
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
3
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50
ประจำวันที่ 4 ก.ย. 2021 https://www.blockdit.com/posts/61338715a4d4520c65ae843c
1
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ :
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, XRP, BNB, ADA, LTC, DOGE
ประจำวันที่ 5 ก.ย. 2021 : https://www.blockdit.com/posts/6134ba7873aebf0c601813a5
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
2
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Blockdit - blockdit.com/needoy
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - bit.ly/lineneedoy
📌YouTube - bit.ly/youtubeneedoy
📌Spotify : spoti.fi/2NLRVBK
📌Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
📌Podbean : bit.ly/podbeanneedoy
📌Google Podcast : bit.ly/googlepodcastneedoy
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา