6 ก.ย. 2021 เวลา 04:56 • ประวัติศาสตร์
การพิจารณาคดีแม่มดที่ซาเลม (Salem witch trials)
“การพิจารณาคดีแม่มดที่ซาเลม (Salem witch trials)” เป็นเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกัน
ผมเคยเขียนเรื่องราวนี้เป็นซีรีส์ไว้แล้ว แต่บทความนี้ ผมจะเขียนสรุปไว้ สำหรับคนที่ไม่อยากอ่านเป็นตอนๆ อ่านจบในบทความเดียว
เหตุการณ์การพิจารณาคดีแม่มดที่ซาเลม เริ่มขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ.1692 (พ.ศ.2235) เมื่อกลุ่มเด็กสาวในหมู่บ้านซาเลม (Salem Village) รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ได้กล่าวอ้างว่าตนได้ถูกวิญญาณเข้าสิง และยังมีการกล่าวหาผู้หญิงคนอื่นๆ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้เวทมนต์คาถา
เมื่อความตื่นกลัวนี้ได้แพร่ระบาดไปทั่วอาณานิคมแมสซาชูเซตส์ ทำให้มีการจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อพิจารณาคดีนี้โดยเฉพาะ โดยแม่มดรายแรกที่ถูกจับกุมและตัดสินโทษ คือหญิงที่ชื่อ “บริดเจต บิชอป (Bridget Bishop)” โดยบิชอปถูกตัดสินให้ประหารด้วยการแขวนคอในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1692 (พ.ศ.2235)
ภายหลังจากการประหารบิชอป ก็มีผู้ที่ถูกกล่าวหาและต้องเข้ารับการพิจารณาคดีเรื่อยๆ โดยในระยะเวลาไม่กี่เดือนต่อมา มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเด็กกว่า 150 คน ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเวทมนต์คาถา
ภายในเดือนกันยายน ค.ศ.1692 (พ.ศ.2235) ความตื่นกลัวเริ่มจะเบาบางลง และความเห็นของสาธารณชนก็เริ่มจะเปลี่ยนไป และถึงแม้ว่าในเวลาต่อมา จะมีการยกเลิกคำตัดสินโทษของผู้ที่ถูกกล่าวหา และให้ชดเชยเงินค่าเสียหายแก่ครอบครัวของเหยื่อ หากแต่เรื่องราวนี้ก็เป็นความทรงจำที่เจ็บปวด และดำเนินต่อมาอีกเป็นเวลานาน
สำหรับเรื่องราวของเหตุการณ์นี้ ต้องย้อนไปตั้งแต่ความเชื่อทางไสยศาสตร์ โดยเฉพาะเรื่องของพิธีกรรมปีศาจที่มอบพลังให้แม่มด พลังที่จะสามารถทำร้ายผู้อื่น
ความเชื่อนี้ปรากฎในยุโรปตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 และแพร่กระจายไปทั่วอาณานิคมนิวอิงแลนด์
ในเวลานั้น ชีวิตของผู้คนในชุมชนของหมู่บ้านซาเลมก็ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากสงครามระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งเพิ่งผ่านมาหมาดๆ การระบาดของไข้ทรพิษ และความหวาดกลัวการโจมตีของชนเผ่าพื้นเมือง
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผู้คนต่างหวาดระแวงซึ่งกันและกัน และหวาดระแวงคนภายนอก ซึ่งเหตุต่างๆ เหล่านี้คือตัวจุดประกายให้เกิดการล่าแม่มดในเวลาต่อมา
เดือนมกราคม ค.ศ.1692 (พ.ศ.2235) “เอลิซาเบธ ปาร์รีส (Elizabeth Parris)” วัยเก้าขวบ และ “อบิเกล วิลเลียมส์ (Abigail Williams)” ลูกสาวและหลานสาวของ “ซามูเอล ปาร์รีส (Samuel Parris)” บาทหลวงในหมู่บ้านซาเลม เกิดมีอาการแปลกๆ
เด็กทั้งสองได้มีใบหน้าที่บิดเบี้ยว และกรีดร้องอย่างไม่สามารถควบคุมตนเองได้
“วิลเลียม กริกส์ (William Griggs)” แพทย์ท้องถิ่นได้ตรวจดูอาการของเด็กทั้งสอง และลงความเห็นว่าเด็กทั้งสองน่าจะถูกเวทมนต์คาถาเล่นงาน
ภายหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เด็กหญิงอีกหลายคนในหมู่บ้านก็มีอาการไม่ต่างจากเด็กทั้งสอง
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ของปีนั้น ได้มีการออกหมายจับ “ทิทูบา (Tituba)” ทาสชาวแคริบเบียนของครอบครัวปาร์รีส พร้อมกับขอทานที่ชื่อ “ซาราห์ กู๊ด (Sarah Good)” และหญิงชราที่ชื่อ “ซาราห์ ออสบอร์น (Sarah Osborn)” ซึ่งรายชื่อเหล่านี้ คือผู้ที่เหล่าเด็กหญิงอ้างว่าได้ใช้เวทมนต์คาถาใส่พวกเธอ
หญิงทั้งสามซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ได้ถูกนำตัวขึ้นศาล ทำการพิพากษา และเมื่อเด็กหญิงที่กล่าวหาทั้งสามเข้ามาในศาล ต่างก็มีอาการชักเกร็ง และกรีดร้องอย่างไม่สามารถควบคุมตนเองได้
ทั้งกู๊ดและออสบอร์นต่างปฏิเสธข้อกล่าวหา หากแต่ทิทูบายอมรับสารภาพ
คาดว่าที่ทิทูบายอมสารภาพ เนื่องจากเกรงว่าหากยืนยันว่าไม่ผิด ก็จะโดนโทษหนัก จึงแกล้งสารภาพ โดยทิทูบาได้ให้การว่านอกจากเธอแล้ว ก็มีหญิงสาวอีกจำนวนมากที่เป็นแม่มด ทำพิธีชั่วร้ายใส่ชาวบ้าน
เมื่อเป็นอย่างนี้ แทบจะทั้งรัฐก็แตกตื่น มีการกล่าวหาคนนู้นคนนี้ว่าเป็นแม่มด แม้แต่เด็กก็ถูกกล่าวหา
ผู้ถูกกล่าวหาคนอื่นๆ ก็เป็นดังเช่นทิทูบา คือกลัวว่าจะได้รับโทษ จึงต้องยอมรับและกล่าวหาคนอื่นๆ ต่อว่าเป็นแม่มดเช่นกัน ทำให้เกิดการกล่าวหามั่วซั่ว ระบบยุติธรรมก็เละเทะ จนในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1692 (พ.ศ.2235) ต้องมีการตั้งศาลพิเศษขึ้นมาเพื่อพิจารณาคดีแม่มดโดยเฉพาะ
ผู้ที่ถูกพิจารณาโทษและตัดสินให้ประหารชีวิตเป็นรายแรก คือ “บริดเจต บิชอป (Bridget Bishop)” โดยบิชอปถูกตัดสินโทษในวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ.1692 (พ.ศ.2235) ก่อนจะถูกแขวนคอในอีกแปดวันต่อมา
ในเดือนกรกฎาคมของปีนั้น มีผู้ที่ถูกแขวนคออีกห้าคน ตามมาด้วยอีกห้าคนในเดือนสิงหาคม และอีกแปดคนในเดือนกันยายน
นอกจากนั้น ยังมีผู้ที่ถูกจำคุกและเสียชีวิตในเรือนจำอีกเจ็ดคน
ความบ้าคลั่งนี้ดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคม ค.ศ.1697 (พ.ศ.2240) เมื่อมีการยกเลิกการพิจารณาคดีแม่มดแห่งซาเลม และมีการออกมาขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบ และชดใช้ค่าเสียหายให้ในเวลาต่อมา
และคดีนี้ ก็เป็นหนึ่งในคดีและเหตุการณ์ที่สำคัญครั้งหนึ่งในสหรัฐอเมริหา
หากใครอยากอ่านแบบละเอียดกว่านี้ ผมขอลงลิ้งค์เหตุการณ์นี้ที่เคยเขียนเป็นตอนๆ ไว้ให้ตามนี้นะครับ
โฆษณา